สิงคโปร์ 24 ต.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
Inteluck ผู้ให้บริการโซลูชันซัพพลายเชนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งัดใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ มุ่งสร้างคุณประโยชน์ให้ทั้งลูกค้าและเวนเดอร์
Inteluck ผู้ให้บริการโซลูชันซัพพลายเชนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความยินดีที่จะประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบซีรีส์ซี (Series C) คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำโดยนาเวการ์ (Navegar) บริษัทเอกชนนอกตลาดที่ให้ความสำคัญกับกิจการในฟิลิปปินส์ รวมถึงผู้ลงทุนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทร่วมลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างอีสต์ เวนเจอร์ส (East Ventures) โดยมีเฟเวอร์ แคปิตอล (Favour Capital) เป็นผู้ให้บริการคำปรึกษาทางการเงินเป็นกรณีพิเศษ
Inteluck ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 โดย Kevin Zhang นักธุรกิจผู้ติดโผการจัดอันดับฟอร์บส์ 30 อันเดอร์ 30 (Forbes 30 Under 30) และได้สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการ (B2B) เพื่อให้บริการงานซัพพลายเชนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่การขนส่งด้วยรถบรรทุกแบบเหมาคัน การจัดการคลังสินค้า บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การจัดจำหน่าย และโซลูชันซัพพลายเชนตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า
Inteluck มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ แต่สามารถครองตำแหน่งในตลาดได้อย่างแข็งแกร่งในฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม นอกจากนี้จากการสนับสนุนทางการเงินล่าสุดยังทำให้ Inteluck เตรียมขยายการดำเนินงานในระดับภูมิภาค ตอกย้ำตำแหน่งในตลาด และเสริมสร้างศักยภาพต่อไป
คุณ Zhang ได้นำประสบการณ์มากมายในด้านห่วงโซ่อุปทานโลจิสติกส์ เทคโนโลยีไอโอที และการประกอบกิจการระหว่างผู้ประกอบการ (B2B) ข้ามประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ บุคลากรสำคัญยังมาจากบริษัทชั้นนำต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำของคุณ Zhang และนำความรู้ความเชี่ยวชาญที่สำคัญมาสู่บริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
Inteluck มีบริการหลักประกอบไปด้วยโซลูชันซัพพลายเชนแบบครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถเข้าถึงรถบรรทุกขนส่งกว่า 14,000 คันที่พร้อมให้บริการผ่านการจองเข้ารับบริการตามต้องการ แพลตฟอร์มของ Inteluck ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายพื้นที่ดำเนินกิจการได้อย่างง่ายได้ทั่วทั้งซัพพลายเชน ตลอดจนควบคุมดูแลการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์ และขยายขนาดการดำเนินงานได้อย่างยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูง
ในอีกด้านหนึ่ง Inteluck ได้เข้ามาเสริมศักยภาพขั้นพื้นฐานในส่วนสำคัญให้กับอุตสาหกรรมรถบรรทุกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงขาดโอกาส ได้แก่ คนขับรถบรรทุกขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ซึ่งเมื่อดึงกลุ่มคนขับรถบรรทุกดังกล่าวเข้าสู่แพลตฟอร์มได้แล้วนั้น ไม่เพียงแต่ความต้องการการขนส่งจากผู้ผลิตไปยังศูนย์กระจายสินค้า (First Mile) และจากศูนย์กระจายสินค้าไปยังผู้ค้าปลีก (Mid Mile) จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากยานพาหนะและอำนวยความสะดวกในการชำระเงินให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Inteluck มีความภูมิใจที่ได้ให้บริการซัพพลายเชนแก่กิจการที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศกว่า 300 แห่งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารโทรคมนาคม สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคทั่วไป การผลิต อีคอมเมิร์ซ และการจัดส่งแบบด่วนพิเศษ
คุณ Zhang อธิบายว่า "ภาคโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งคาดการณ์ว่ามีมูลค่าถึง 3 แสนล้านดอลลาร์นั้นกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตลาดเกิดใหม่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และปัจจุบันไม่ได้มีเพียงเรื่องของการขนส่งเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในเรื่องของต้นทุน คุณภาพการบริการ และชื่อเสียงของซัพพลายเออร์ด้วย ซึ่ง Inteluck คือผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยอาศัยประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาโลจิสติกส์สำหรับผู้ประกอบการให้มีความทันสมัย ทั้งในด้านของอุปสงค์และอุปทาน"
คุณ Zhang กล่าวเน้นย้ำว่า "ในด้านของอุปสงค์นั้น ผู้ประกอบการจะสามารถเข้าถึงรถบรรทุกได้มากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มเดียว พร้อมด้วยข้อได้เปรียบอื่น ๆ เช่น การจัดส่งที่เร็วขึ้น การทำเวลาส่งมอบได้ดีขึ้น รวมถึงราคาที่สามารถแข่งขันได้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงการดำเนินงานและประหยัดต้นทุนลงไปได้มาก ขณะเดียวกัน ในด้านอุปทาน เรายังมีเครือข่ายคนขับรถบรรทุกที่มีประสบการณ์ ทำให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นและสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้น สร้างระบบนิเวศที่ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย"
โนริ โพบลาดอร์ (Nori Poblador) หุ้นส่วนผู้จัดการนาเวการ์ กล่าวว่า "ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโตขึ้น จากการค้าที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาของภาคส่วนธุรกิจเดิม ๆ นั้นเป็นโอกาสดีที่ Inteluck จะได้เข้าไปแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใครที่กำลังท้าทายธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างผู้ประกอบการในฟิลิปปินส์กับประเทศเพื่อนบ้าน คุณ Kevin และทีมงานของเขาจะได้รับการสนับสนุนจากเราอย่างเต็มที่ระหว่างการเติบโตในก้าวต่อไป"
คุณโรเดอริก ปูร์วานา (Roderick Purwana) หุ้นส่วนผู้จัดการของอีสต์ เวนเจอร์ส กล่าวว่า "แนวทางนวัตกรรมของ Inteluck สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมนวัตกรรม ที่นำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานผ่านโซลูชันเทคโนโลยี โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยและแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อปฏิวัติระบบนิเวศของซัพพลายเชนและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งซัพพลายเออร์และลูกค้าในภูมิภาค ศักยภาพของบุคลากรและการเติบโตอย่างต่อเนื่องทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะให้การสนับสนุน Inteluck ต่อไปด้วยการลงทุนเพิ่มอีกเท่าตัว"
เกี่ยวกับนาเวการ์
นาเวการ์ (Navegar) เป็นบริษัทเอกชนนอกตลาดจากมะนิลา ที่ให้การสนับสนุนเงินทุนและความเชี่ยวชาญแก่บริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในฟิลิปปินส์ เพื่อช่วยในการขยายขนาดและประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นาเวการ์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทหลายแห่ง เช่น ทาสก์อัส (TaskUs) (NASDAQ: TASK) อินเทลลิแคร์ (Intellicare) เดอะ บิสโทร กรุ๊ป (The Bistro Group) รอยาล โคลด์ สโตเรจ (Royale Cold Storage) เกรต ดีลส์ อี-คอมเมิร์ซ คอร์ป (Great Deals E-commerce Corp.) และดาลี ดิสเคาต์ เอจี (Dali Discount AG) นาเวการ์ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินขนาดใหญ่และสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาเวการ์ กรุณาเยี่ยมชมที่ www.navegar.com.ph
เกี่ยวกับอีสต์ เวนเจอร์ส
อีสต์ เวนเจอร์ส (East Ventures) คือบริษัทร่วมลงทุนชั้นนำและเป็นแห่งแรก ๆ ที่ประกอบกิจการร่วมลงทุนโดยไม่เน้นเจาะจงหมวดอุตสาหกรรม อีสต์ เวนเจอร์ส ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ก่อนจะพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่เข้าลงทุนในขั้นต่าง ๆ ให้แก่บริษัทเทคโนโลยีกว่า 300 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ขั้นซีด (Seed) ไปจนถึงขั้นโกรท (Growth) โดยพรีกิน (Preqin) ยกให้อีสต์ เวนเจอร์ส เป็นกองทุนร่วมลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูงสุดอย่างสม่ำเสมอมากที่สุดในโลก ขณะที่สื่อมวลชนหลายแห่งยกให้อีสต์ เวนเจอร์ส เป็นนักลงทุนที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ อีสต์ เวนเจอร์ส ยังเป็นบริษัทร่วมลงทุนแห่งแรกในอินโดนีเซียที่ลงนามในหลักการการลงทุนที่มีความรับผิดชอบ (PRI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ด้วย
