omniture

PwC เผยผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกเกี่ยวกับทัศนคติเชิงบวกทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นสองเท่า ขณะที่เกือบครึ่งไม่มั่นใจว่าธุรกิจจะอยู่รอดได้ในทศวรรษนี้ จากแรงกดดันด้านเทคโนโลยีและสภาพอากาศ

PwC
2024-01-16 18:57 105
  • ทัศนคติเชิงบวกของซีอีโอเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 18% เป็น 38% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาคลดลง
  • 39% ของซีอีโอคาดว่าจำนวนพนักงานของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 5% หรือมากกว่านั้นในปี 2567
  • อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบาง: เกือบครึ่งหนึ่ง (45%) ไม่มั่นใจว่าธุรกิจของตนจะอยู่รอดได้ในทศวรรษนี้โดยไม่ต้องคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2566
  • ซีอีโอคาดการณ์ว่าแรงกดดันในช่วงสามปีข้างหน้าจะมากกว่าช่วงห้าปีก่อนหน้าจากเทคโนโลยี สภาพภูมิอากาศ และเมกะเทรนด์อื่น ๆ
  • ซีอีโอสี่ในสิบรายรายงานว่าพวกเขายอมรับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าสำหรับการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ
  • 70% คาดหวังว่า Generative AI จะเปลี่ยนวิธีการสร้างมูลค่าของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอีกสามปีข้างหน้า

ดาวอส, สวิตเซอร์แลนด์, 16 มกราคม 2567 /PRNewswire/ -- วันนี้ PwC เผยผลการสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 27 ถึงสัดส่วนของซีอีโอซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เกี่ยวกับความเชื่อมั่นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ในขณะเดียวกัน สัดส่วนของซีอีโอซึ่งกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินธุรกิจระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็น 45% เนื่องจากแรงกดดันด้านเทคโนโลยีและสภาพอากาศที่ปรับตัวสูงขึ้น

การสำรวจซึ่งสัมภาษณ์ซีอีโอ 4,702 คนใน 105 ประเทศและดินแดน พบว่า ซีอีโอ 38% มีทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2566 ความคาดหวังของซีอีโอต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ลดลงจากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว (73%) อยู่ที่ 45% เนื่องจากการรับรู้ถึงภาวะเงินเฟ้อและความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคลดลง 16 จุดเปอร์เซ็นต์ (เหลือ 24%) และ 7 จุดเปอร์เซ็นต์ (เหลือ 24%) ตามลำดับ แม้จะมีความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง แต่สัดส่วนของซีอีโอที่รู้สึกว่าบริษัทของตนมีความเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่อความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างมากก็ลดลง 7 เปอร์เซ็นต์ (เป็น 18%)

ซีอีโอในภูมิภาคส่วนใหญ่ของโลกมีมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศมากกว่ามุมมองในแง่ลบ อย่างไรก็ดี ซีอีโอในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกกลับมีความเห็นแตกต่างออกไป โดยซีอีโอในยุโรปตะวันตก 32% คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะดีขึ้น และอีก 48% คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะแย่ลง ส่วนในอเมริกาเหนือ ซีอีโอ 31% คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะดีขึ้น และอีก 52% คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะแย่ลง ตามลำดับ

ในอีก 12 เดือนข้างหน้า นายจ้างจากทุกภูมิภาคมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มมากกว่าที่จะลดจำนวนพนักงานลง โดย 39% รายงานว่าพวกเขาจะเพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นอีก 5% หรือมากกว่านั้น โดยตะวันออกกลางมีความมั่นใจในการจ้างงานมากที่สุด (65%)

แม้ว่าแนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางบวก แต่ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบาง เนื่องจากกระแสสำคัญต่าง ๆ ทั้งจากการที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จาก AIสามารถเลียนแบบกระบวนการคิดของมนุษย์ (generative AI) ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ซีอีโอเกือบครึ่ง (45%) เผยถึงความไม่มั่นใจว่าธุรกิจปัจจุบันของตนจะสามารถอยู่รอดได้ในหนึ่งทศวรรษต่อจากนี้ หากยังคงดำเนินกิจการต่อไปแบบเดิม ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับเมกะเทรนด์ ความมั่นใจเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ในบริษัทช่วง 12 เดือนข้างหน้าจึงลดลงกว่าปีที่แล้ว – จาก 42% เป็น 37%

นายบ็อบ มอริตซ์ (Bob Moritz) ประธาน PwC โกลบอล กล่าวว่า:

"ในขณะที่ผู้นำธุรกิจเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคน้อยลง พวกเขาก็เริ่มมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยพลิกผันภายในอุตสาหกรรมของตนมากขึ้น แม้ว่ามุมมองต่อเศรษฐกิจโลกจะเป็นไปในทิศทางบวก แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาก็มีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการสร้างรายได้ที่ลดลงจากปีที่แล้ว และตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการคิดค้นธุรกิจขั้นพื้นฐานใหม่ ๆ อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเร่งการเปิดตัว generative AI หรือการสร้างธุรกิจเพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปีนี้จึงถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง"

โอกาสของเอไอ

เกือบสามในสี่ (70%) ของซีอีโอเชื่อว่า Generative AI จะพลิกโฉมวิธีที่องค์กรสร้าง ส่งมอบ และรวบรวมมูลค่าทางธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญในอีกสามปีข้างหน้า โดยมองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นตัวเร่งให้เกิดการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่จะขับเคลื่อนประสิทธิภาพ นวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูป

ซีอีโอยังคงมีมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับผลกระทบในระยะสั้นช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยเกือบสามในห้า (58%) วางแผนที่จะปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง และเกือบครึ่ง (48%) เปิดเผยว่าจะยกระดับความมั่นใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังคาดหวังผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นด้วย โดย 41% หวังว่ารายได้จะเป็นไปในทิศทางบวก และ 46% หวังว่าความสามารถในการทำกำไรจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ภาคเทคโนโลยี สื่อ และการสื่อสารมีความเป็นไปได้ในการทำกำไรมากที่สุด (54%) ในขณะที่ภาคพลังงาน สาธารณูปโภค และทรัพยากรมีความเป็นไปได้ในการทำกำไรน้อยที่สุด (36%)

ขณะที่ซีอีโอกำลังมองหาประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของ generative AI เพิ่มขึ้น คนส่วนใหญ่กลับมองเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับทักษะของพนักงาน (69%) พวกเขายังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ปรับตัวขึ้น (64%) ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง (52%) ความรับผิดทางกฎหมายและความเสี่ยงด้านชื่อเสียง (46%) และอคติต่อกลุ่มลูกค้าหรือพนักงานในองค์กร (34%)

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการให้ความสำคัญด้านสภาพภูมิอากาศ

ในขณะที่บรรดาซีอีโอกำลังจัดลำดับความสำคัญในประเด็นต่าง ๆ หลายคนมองว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวขัดขวางอุตสาหกรรมอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้านนอกเหนือจากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ เกือบหนึ่งในสามคาดว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะจะพลิกโฉมวิธีที่องค์กรสร้าง ส่งมอบ และรวบรวมมูลค่าทางธุรกิจในช่วงสามปีข้างหน้ามากกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในระดับที่น้อยกว่าหนึ่งในสี่

ซีอีโอ 76% เริ่มต้นหรือทำตามขั้นตอนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานแล้ว ในขณะที่ 58% เปิดเผยว่าได้ดำเนินการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ

ในทางกลับกัน มีซีอีโอเพียง 45% เท่านั้นที่ระบุว่าได้นำประเด็นความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศรวมไว้ในการวางแผนทางการเงิน (โดย 31% ระบุว่าไม่มีแผนที่จะดำเนินการดังกล่าว) การดำเนินการเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความเสี่ยงด้านสภาพอากาศทางกายภาพยังล่าช้าอยู่ที่ 47% (โดย 29% ระบุว่าไม่มีแผนที่จะดำเนินการ)

การสำรวจชี้ให้เห็นถึงการสนับสนุนที่สำคัญสำหรับการลดการปล่อยคาร์บอน โดยมีเพียง 26% เท่านั้นที่ชี้แจงว่าการไม่ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการหรือฝ่ายบริหารนั้นเป็นอุปสรรคต่อการลดการปล่อยคาร์บอน อย่างไรก็ดี ซีอีโอกลับอ้างถึงความซับซ้อนด้านกฎระเบียบ (54%) และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ลดลงสำหรับการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ (51%) ว่าเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไข เพราะพวกเขาเริ่มเผชิญกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจ โดยซีอีโอสี่ในสิบรายงานว่าพวกเขายอมรับอัตราอุปสรรคที่ต่ำกว่าสำหรับการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศมากกว่าการลงทุนอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะต่ำกว่าระหว่างหนึ่งถึงสี่จุดเปอร์เซ็นต์

ความจำเป็นในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ

เมื่อซีอีโอตระหนักมากขึ้นถึงเมกะเทรนด์ที่ธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญ ผู้ตอบแบบสำรวจได้แสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว เกือบครึ่ง (45%) ระบุว่าพวกเขากังวลว่าธุรกิจของตนเองจะไม่สามารถอยู่รอดเกินทศวรรษหน้าหากไม่มีการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 39% ที่น่าสังเกตคือ การสำรวจแสดงให้เห็นว่าบริษัทขนาดเล็กมีความเสี่ยงมากขึ้น: 56% ของซีอีโอชั้นนำของธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อปีน้อยกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เชื่อว่าธุรกิจของพวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้เพียง 10 ปีหรือน้อยกว่านั้น หากยังคงดำเนินกิจการแบบเดิม สำหรับซีอีโอที่สร้างรายได้ 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือมากกว่าต่อปี 27% เชื่อว่าธุรกิจของพวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้เพียง 10 ปีหรือน้อยกว่านั้น หากยังคงดำเนินกิจการแบบเดิม

ซีอีโอเกือบทั้งหมด (97%) เปิดเผยว่าพวกเขาได้ดำเนินการเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้าง ส่งมอบ และรักษาคุณค่าของกิจการในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และมากกว่าสามในสี่ (76%) ได้ดำเนินการที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อรูปแบบธุรกิจของบริษัทอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

อย่างไรก็ดี พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยสองในสาม (64%) ระบุว่าสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบขัดขวางความสามารถในการสร้างโมเดลธุรกิจของตนขึ้นมาใหม่ อีก 55% ชี้ไปที่ข้อกังวลด้านการปฏิบัติงานที่มีการแข่งขันสูง และ 52% ชี้ไปที่การขาดทักษะของพนักงานในองค์กร

อุปสรรคอีกประการหนึ่งคือความไร้ประสิทธิภาพ ซีอีโอรับรู้ถึงความสูญเปล่าอย่างมีนัยสำคัญของกิจกรรมต่าง ๆ ในองค์กร ตั้งแต่การประชุมเพื่อการตัดสินใจไปจนถึงอีเมล โดยมองว่าเวลาประมาณ 40% ที่ใช้ในงานเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ การประมาณการต้นทุนของความไร้ประสิทธิภาพของ PwC แบบอนุรักษ์นิยมจะเท่ากับภาษีการผลิตที่เรียกเก็บเองจำนวน 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายบ็อบ มอริตซ์ (Bob Moritz) ประธาน PwC โกลบอล สรุปว่า:

"ข้อมูลในปีนี้ชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งพวกเขาก็กำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจ การลงทุนในเทคโนโลยีและบุคลากร ไปจนถึงการจัดการกับความเสี่ยงและโอกาสต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พวกเขาจะต้องเร่งคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ รวมถึงสร้างความไว้วางใจ และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาว"

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับผลการสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 27 ของ PwC

PwC ดำเนินการสำรวจความเห็นของซีอีโอ 4,702 คนใน 105 ประเทศและดินแดนตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมถึง 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ตัวเลขทั่วโลกและระดับภูมิภาคได้รับการถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนของ GDP ของประเทศ ตัวเลขระดับอุตสาหกรรมและระดับประเทศอิงจากข้อมูลที่ไม่ได้ถ่วงน้ำหนักจากกลุ่มตัวอย่างซีอีโอทั้งหมด 4,702 คน สามารถอ่านผลการวิจัยฉบับเต็มได้ที่ pwc.com/ceosurvey และติดตามบทสัมภาษณ์ได้ที่ strategy-business.com/inside-the-mind-of-the-ceo

เกี่ยวกับ PwC

PwC มุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจในสังคมและแก้ปัญหาที่สำคัญ เราคือเครือข่ายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใน 151 ประเทศ และมีบุคลากรเกือบ 360,000 คนที่ทุ่มเทให้บริการรับประกัน ให้คำปรึกษา และให้บริการด้านภาษีที่มีคุณภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่ www.pwc.com

 

Source: PwC
Keywords: Banking/Financial Service Publishing/Information Service Workforce Management/Human Resources Survey, Polls & Research