ปักกิ่ง, 27 ก.พ. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- "'จีน' ในยุคต่อไปก็ยังคงเป็นจีน!" สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนกล่าวประโยคนี้แก่ชุมชนนักธุรกิจของจีน เพื่อเน้นย้ำถึงโอกาสของประเทศจีนในตลาดโลก ที่การประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation CEO Summit 2023 จากการสำรวจที่ CGTN และมหาวิทยาลัยเหรินหมิน (Renmin University of China หรือ RUC) จัดทำ ผ่านทางสถาบันวิจัยการสื่อสารระหว่างประเทศยุคใหม่ (New Era International Communication Research Institute) นั้น ผู้ตอบแบบสำรวจทั่วโลกร้อยละ 90.6 คิดว่าจีนเป็นประเทศที่มีความสำคัญ และมองว่าการกระชับความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันกับจีนจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ซึ่งเป็นแนวคิดที่กลายเป็นเอกฉันท์ของชุมชนในต่างประเทศ
ประเทศจีนไม่อาจพัฒนาได้โดยการแยกตัวโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก และโลกก็ต้องการจีนเพื่อสร้างความมั่งคั่งเช่นกัน ในสายตาของผู้ตอบแบบสำรวจจากทั่วโลก จีนไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและโอกาสให้เกิดการพัฒนาของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สร้างเสถียรภาพและพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับชุมชนในต่างประเทศ โดยในการสำรวจครั้งนี้ มีผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนมากถึงร้อยละ 84.5 ที่กล่าวว่า จีนเป็นผู้มีบทบาทด้านเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ทั้งนี้ ผู้ตอบร้อยละ 81.9 ถือว่าจีนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยโอกาส และการพัฒนาของจีนจะเป็นการมอบโอกาสให้แก่โลกด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ตอบอีกร้อยละ 75.6 หวังว่าประเทศบ้านเกิดของตนเองจะสามารถคงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับจีนเอาไว้ได้ โดยเชื่อว่าการที่จีนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นส่วนสำคัญในกิจการระหว่างประเทศ จะสามารถช่วยรักษาความสงบระหว่างประเทศไว้ได้อย่างเหมาะสมและเที่ยงธรรม โดยผู้ตอบแบบสำรวจยังกล่าวว่า ในจำนวนประเทศมหาอำนาจแปดประเทศในโลก ที่รวมถึงจีนและสหรัฐอเมริกาด้วยนั้น การติดต่อทางด้านเศรษฐกิจและการค้ากับจีนจะสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศของตนมากที่สุด ทั้งนี้ ในสายตาของพวกเขา จีนเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้มากที่สุด
ความเชื่อมั่นและความคาดหวังของโลกที่มีต่อเศรษฐกิจของจีนมาจากตลาดขนาดใหญ่และมีเสถียรภาพของจีน รวมถึงแนวคิดของการพัฒนาอย่างสมดุล โดยเป็นการพัฒนาแบบร่วมมือกัน และให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นแนวคิดที่จีนยึดมั่นนำไปปฏิบัติในการค้าขายแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศ โดยในเรื่องดังกล่าว ผู้ตอบแบบสำรวจจากทั่วโลกร้อยละ 63.2 ชื่นชมในความสม่ำเสมอและความมั่นคงของทิศทางนโยบายต่างประเทศของจีน โดยเชื่อมั่นว่า จีนเป็นผู้ฉีด "สารที่ทำให้เกิดเสถียรภาพ" เข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสับสนและแปรปรวน ส่วนผู้ตอบอีกร้อยละ 64.6 ระบุว่า จีนเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบ และรับบทบาทเชิงสร้างสรรค์ทั้งยังมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านธรรมาภิบาลโลก
จากแนวคิดของชุมชนทั่วโลกที่เกี่ยวกับอนาคตที่มีร่วมกัน โครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (Belt and Road Initiative) ข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) ข้อริเริ่มความมั่นคงทั่วโลก (The Global Security Initiative) ข้อริเริ่มอารยธรรมโลก (Global Civilization Initiative) และการจัดการเจรจาระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่านของจีน เพื่อบรรลุผลให้เกิดการฟื้นความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ และการสนับสนุนการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Climate Change Conference) ให้บรรลุถึง "ฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE Consensus)" ที่แสดงให้เห็นแนวคิด แผนงาน และความรอบรู้ของจีน ส่งผลให้จีนได้รับความเชื่อมั่นและเกิดความคาดหวังจากชุมชนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการสำรวจครั้งนี้ ผู้ตอบร้อยละ 76.5 เห็นด้วยว่า จีนเป็นประเทศที่ควรได้รับความเคารพ โดยผู้ตอบแบบสำรวจรวมทั้งหมดร้อยละ 84.2 ยกย่องจีนว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน ผู้ตอบร้อยละ 80.1 เชื่อว่าอิทธิพลในต่างประเทศของจีนกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจีนจะสามารถให้ประสบการณ์ด้านธรรมาภิบาลโลกที่มีค่าได้
การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นทั่วโลก โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจ 15,037 คนที่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น เปรู เม็กซิโก ไทย และไนจีเรีย