บาร์เซโลนา, สเปน, 27 ก.พ. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- "การประชุมเครือข่ายออลออปติคัลสีเขียว" (Green All-Optical Network Forum) ของ IDATE สถาบันวิจัยและวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงของยุโรป อันเป็นเซสชันหนึ่งของงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2567 หรือ MWC24 ประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม โดยบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมต่างสนับสนุนโอกาสในการพัฒนาตลาดบรอดแบนด์กิกะบิตในด้านต่าง ๆ รวมถึงเปิดประตูสู่ยุคเครือข่ายความเร็วสูง 10 กิกะบิตต่อวินาที (10Gbps) ทั้งนี้ คิม จิน รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจออปติคัลของหัวเว่ย เดินหน้าผลักดันเครือข่ายเป้าหมายออลออปติคัล F5.5G เพื่อขับเคลื่อนการเชื่อมต่อระดับกิกะบิตให้แพร่หลาย และสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายในอนาคตให้เป็น 10Gbps อันถือเปิดศักราชใหม่ของการใช้งาน F5.5G เชิงพาณิชย์
Kim Jin, Vice President of Huawei Optical Business Product Line, delivers the speech
บรอดแบนด์แบบออปติคอลกำลังเปลี่ยนจากความเร็วที่ขับเคลื่อนด้วยวิดีโอ 100 เมกะบิตต่อวินาที ไปสู่ประสบการณ์ 1 กิกะบิตต่อวินาที และเปิดใช้งานการเชื่อมต่อที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วอัจฉริยะ 10 กิกะบิตต่อวินาที ภายใต้แนวโน้มดังกล่าว หัวเว่ยเสนอถึงความจำเป็นในการสร้างเครือข่ายเป้าหมายออลออปติคัล F5.5G ซึ่งรองรับความสามารถของเครือข่าย 3 แบบ และสถาปัตยกรรมเครือข่าย 4 แบบ กล่าวคือ บรรลุขีดความสามารถของเครือข่าย 3 ประการ ได้แก่ การเข้าถึง 10Gbps อย่างแพร่หลาย, เครือข่ายเมโทรลดเวลาแฝงลงเหลือ 1 มิลลิวินาที และเครือข่ายแกนหลักที่มีความพร้อมใช้งาน 99.9999% สำหรับการสร้างสถาปัตยกรรมเครือข่าย 4 แบบนั้นประกอบด้วย เครือข่ายแกนหลักปรับใช้งานการส่งข้อมูลด้วยแสงขนาด 400 กิกะบิต, 800 กิกะบิต (400G, 800G OTN) เพื่อเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูล, เครือข่ายเมโทรต้องใช้ความเร็ว 100 กิกะบิตเพื่อเชื่อมต่อไปยังส่วนกลาง, การเข้าถึงเครือข่ายออปติคัลแบบพาสซีฟขนาด 50 กิกะบิต (50G PON) ตามบ้านเรือนและองค์กร และเชื่อมต่อ 10Gbps ไปยังพื้นที่ย่อยในอาคาร
- เครือข่ายภายในที่พักอาศัย: จำนวนผู้ใช้ FTTR มีมากถึง 14 ล้านราย โดย FTTR นั้นช่วยสนับสนุนผู้ให้บริการสามารถจำหน่าย "1 เครือข่าย" ด้วย FTTR แทนที่จะเป็น "1 ไฟเบอร์บวก 1 เทอร์มินัล" ด้วย FTTH ทั้งนี้ FTTR กำลังขยายจากฟังก์ชันการเชื่อมต่อไปสู่แอปพลิเคชันบ้านอัจฉริยะ (FTTR+X) ซึ่งก็คือการผสานเครือข่าย FTTR เข้ากับแอปพลิเคชันสมาร์ตโฮมต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการยังสามารถจำหน่ายแอปพลิเคชันหลายตัวเพิ่มเติมได้จาก "1 เครือข่าย" อีกด้วย โดยหัวเว่ยจะเปิดตัว iFTTR F50 ผลิตภัณฑ์ FTTR+X ตัวแรกของอุตสาหกรรมซึ่งเพิ่มความเร็วจาก 2,000 เมกะบิตต่อวินาที เป็น 3,000 เมกะบิตต่อวินาที นอกจากนี้ ยังแนะนำหน่วยจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลแบบบิลท์อิน เพื่อให้ผู้ใช้มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 8 เทระไบต์ รวมถึงฟังก์ชันหลากหลายในการค้นหาอัลบั้มอัจฉริยะซึ่งช่วยสนับสนุนผู้ให้บริการขยายขอบเขตการบริการบรอดแบนด์ต่าง ๆ
- เครือข่ายการเข้าถึงแบบออปติคัล: ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานกิกะบิตเกือบ 200 ล้านคนทั่วโลก ผู้ให้บริการมากกว่า 50 รายได้เปิดตัวแพ็คเกจ 10Gbps เชิงพาณิชย์ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของบริการกิกะบิตกำลังผลักดันให้เครือข่ายการเข้าถึงแบบออปติคัลยกระดับจากการเข้าถึงเครือข่ายออปติคัลแบบพาสซีฟระดับกิกะบิต (GPON) เป็น 10G PON หรือแม้แต่ 50G PON โซลูชันหัวเว่ย FlexPON+ ช่วยสนับสนุนผู้ให้บริการสามารถพัฒนาจาก GPON เป็น 10G PON ได้อย่างราบรื่นในราคาที่เหมาะสม ซึ่งส่งเสริมให้มีการใช้งานกิกะบิตอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ 50G PON แบบ 7 โหมดใน 1 เดียว พร้อมการส่งข้อมูลต้นน้ำและปลายน้ำแบบสมมาตรยังรองรับการนำ ODN ที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ได้ 100% เพื่อคุ้มครองการลงทุนของผู้ให้บริการ อนึ่ง MA5800T ซึ่งเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ปลายทางในเครือข่ายออปติคัลแบบพาสซีฟ (OLT) อัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม รองรับการใช้งาน 2 เทระไบต์ต่อวินาทีต่อสล็อตและเครื่องกลอัจฉริยะ ซึ่งรองรับการเข้าถึง 10Gbps อันแพร่หลาย
- เครือข่ายเมโทร: มีการประมาณการณ์ว่า 85% ของแอปพลิเคชันระดับองค์กรจะถูกย้ายไปยังคลาวด์ภายในปี 2568 เวลาแฝงที่ต่ำเป็นพิเศษเพียง 1 มิลลิวินาที และความสามารถในการปรับขนาดบริการอันยืดหยุ่นของเครือข่ายเมโทรเป็นกุญแจสำคัญในการรับประกันประสบการณ์ผู้ใช้ขั้นสูงสุดและการเชื่อมต่อที่รวดเร็วไปยังระบบคลาวด์ โซลูชัน Alps-WDM ของหัวเว่ยปรับใช้งานการส่งข้อมูลด้วยแสง (OTN) ขนาด 100 และ 200 กิกะบิตบนขอบของเครือข่ายเมโทร การสลับออลออปติคัลแบบครบวงจรช่วยให้สามารถรับส่งข้อมูลบริการแบบ one-hop และเข้าถึงระบบคลาวด์ได้ภายในมิลลิวินาที ซึ่งสนับสนุนผู้ให้บริการสร้างเครือข่ายเมโทรอันเรียบง่ายและน่าประทับใจถึงขีดสุด
- เครือข่ายแกนหลัก: การรับส่งข้อมูลระหว่างศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ต่อปี การทำให้ระบบการผลิตขององค์กรกลายเป็นระบบคลาวด์ต้องการความพร้อมใช้งานของเครือข่ายที่สูงขึ้น, การส่งข้อมูลด้วยแสงขนาด 400 และ 800 กิกะบิตประสิทธิภาพสูงชั้นนำของหัวเว่ย, เครือข่ายออปติกสลับอัตโนมัติ (ASON) แบบอิเล็กติคัลไฮบริด และ OSN 9800 K36 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ OTN ตัวแรกของอุตสาหกรรมสำหรับศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ มาพร้อมความจุ 1.6 เทระไบต์ต่อสล็อต และความจุไฟเบอร์เดี่ยวที่ 100 เทระไบต์ รวมถึงยกระดับความพร้อมใช้งานของเครือข่ายจาก 99.999 % เป็น 99.9999%
"หัวเว่ยจะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมบนเครือข่ายเป้าหมายแบบออลออปติคัล F5.5G เพื่อสนับสนุนผู้ให้บริการคว้าโอกาสการพัฒนาในตลาดกิกะบิต และขยายการใช้งาน F5.5G เชิงพาณิชย์ โดยเปิดรับคลื่นลูกใหม่แห่งความก้าวหน้าในตลาดนี้" คิม จิน กล่าวทิ้งท้าย