เกียรติประวัติแห่งการเติบโต: เหว่ยฉาย พาวเวอร์ (Weichai Power) บรรลุการขยายตัวและผลตอบแทนในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พัฒนานวัตกรรมด้วยเอกภาพ: เหว่ยฉาย เป็นผู้นำโดยชูวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาคุณค่าร่วมกัน
เหวยฟาง จีน, 27 มี.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/
บริษัท เหว่ยฉาย พาวเวอร์ จำกัด (Weichai Power Co., Ltd.) (2338.HK, 000338.SZ) เผยความสำเร็จทางการเงินที่สำคัญในปี 2566 ในรายงานประจำปีฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในวันที่ 26 มีนาคม โดยบริษัทฯ มีรายรับ 2.1396 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 22.2% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิที่แบ่งปันให้แก่ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 83.8% เป็น 9.01 พันล้านหยวน ขณะที่กำไรต่อหุ้นพื้นฐานเพิ่มขึ้น 84.5% เป็น 1.04 หยวน
นอกจากนี้ เหว่ยฉาย พาวเวอร์ยังได้ประกาศยกระดับกลยุทธ์การจ่ายปันผล โดยเพิ่มอัตราปันผลที่เป็นเงินสดเป็น 50% สำหรับปีดังกล่าว สะท้อนการยึดมั่นในผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ตอกย้ำสภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ประกอบกับการมุ่งรักษาผลตอบแทนในระดับสูงสำหรับนักลงทุน
บริษัท เหว่ยฉาย พาวเวอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 20 ปีของการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงด้วยการจัดงานสัมมนาในวันที่ 26 มีนาคม ณ เมืองเหวยฟาง ประเทศจีน โดยมีผู้เข้าร่วมอย่างหลากหลายจากชุมชนการเงินระดับโลก นักลงทุน และสื่อมวลชน งานสัมมนาดังกล่าวนี้ชูเส้นทางการปฏิรูปและการพัฒนานวัตกรรมของบริษัทฯ ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ในการนี้ คุณถาน ซูกวง (Tan Xuguang) ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนักมณฑลซานตง เหว่ยฉาย พาวเวอร์ และกลุ่มรถบรรทุกสำหรับงานหนักแห่งชาติจีน เป็นผู้กล่าวบรรยายหลักในหัวข้อ "การเติบโต คุณค่า อนาคต" โดยอภิปรายเกี่ยวกับห้าโมเดลเชิงกลยุทธ์และสี่แนวทางการพัฒนาของบริษัทฯ
ในปี 2547 เหว่ยฉาย พาวเวอร์ ก้าวเป็นบริษัทแรกจากอุตสาหกรรมเครื่องยนต์สันดาปของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงโดยระดมทุนได้ 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังสร้างสถิติเนื่องจากการเสนอขายครั้งแรกมียอดจองซื้อเกินสิทธิ 928 เท่า ส่วนการเสนอระหว่างประเทศมียอดสั่งซื้อเกินสิทธิ 52 เท่า ซึ่งจัดว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 ต่อมาหลังจากการปฏิรูปตลาดของจีนในปี 2550 เหว่ยฉาย พาวเวอร์ได้ควบรวมเข้ากับบริษัท จู โจว ทอร์ช สปาร์ค ปลั๊ก จำกัด (Zhu Zhou Torch Spark Plug Co., Ltd) หรือ ทอร์ช (Torch) นำไปสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น แนวทางเช่นนี้ทำให้เหว่ยฉาย พาวเวอร์เป็นบริษัทแห่งแรกที่เปลี่ยนผ่านโดยการควบรวม จากเป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (H-share) มาเป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ (A-share) ซึ่งเป็นก้าวที่ได้รับการชื่นชมในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ในตลาดการเงินระดับโลก กลยุทธ์เช่นนี้มีความสำคัญยิ่งยวดในการส่งเสริมบทบาทระดับระหว่างประเทศของเหว่ยฉาย พาวเวอร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้วางรากฐานสำหรับการเข้าซื้อและควบรวมกิจการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มเติมต่อไป
ในการดำเนินการเชิงรุกเมื่อปี 2548 บริษัท เหว่ยฉาย พาวเวอร์ จำกัด ได้ลงเงิน 1.02338 พันล้านหยวนสำหรับทอร์ช ในธุรกรรมที่ ณ ขณะนั้นเป็นความตกลงเข้าซื้อกิจการด้วยเงินสดครั้งใหญ่ที่สุดในตลาดทุนจีน การควบรวมเชิงกลยุทธ์เช่นนี้ นอกจากจะเป็นการรวบรวมเครื่องยนต์ของเหว่ยฉาย ระบบเกียร์ของฟาสต์เกียร์ (Fast Gear) และเพลาของหานเตอ (Hande) เข้าด้วยกันในโมเดลบุกเบิก "บูรณาการระบบส่งกำลังระดับทองคำ" ยิ่งไปกว่านั้นยังเข้าซื้อบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ควบรวมกันอยู่อย่างส่านซี เฮฟวี ดิวตี ออโตโมบิล (Shaanxi Heavy Duty Automobile), โลโวล อะกริคัลเจอรัล อีควิปเมนต์ (Lovol Agricultural Equipment) และโลโวล คอนสตรักชัน แมชชีนเนอรี (Lovol Construction Machinery) การเดินหน้าควบรวมที่ทะเยอทะยานเช่นนี้ได้ขับเคลื่อนให้เหว่ยฉายอยู่ในแนวหน้าของวงการเครื่องจักร โดยครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดอันดับต้น ๆ ของโลกในด้านเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังสำหรับงานหนัก ตลอดจนมีตำแหน่งผู้นำในตลาดอุปกรณ์การเกษตร เพลา และรถบรรทุกสำหรับงานหนักของจีน
ในปี 2552 การเข้าซื้อกิจการบริษัทฝรั่งเศส โบดูแอง (Baudouin) โดยเหว่ยฉาย พาวเวอร์ ถือเป็นหมุดหมายของการก้าวเข้าสู่ตลาดระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ แสดงถึงการดำเนินกลยุทธ์มุ่งสู่ตลาดทุนระดับโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ตามมาด้วยการเข้าซื้อระดับระหว่างประเทศอีกหลายรายการ ยกตัวอย่างเช่น ไคออน กรุ๊ป (Kion Group) (เยอรมนี) และลินเด ไฮดรอลิกส์ (Linde Hydraulics) (เยอรมนี), พีเอสไอ (PSI) (สหรัฐฯ), เซเรส (Ceres) (สหราชอาณาจักร), บัลลาร์ด พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ (Ballard Power Systems) (แคนาดา), อะราเด็กซ์ (Aradex) (เยอรมนี), วีดีเอส (VDS) (ออสเตรีย) และฟิชเชอร์ (Fischer) (สวิตเซอร์แลนด์) การเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ทำให้เหว่ยฉาย พาวเวอร์สามารถมุ่งเน้นด้านสำคัญในเชิงกลยุทธ์ ทั้งเครื่องยนต์ลูกสูบใหญ่ความหนาแน่นสูง ระบบไฮดรอลิกที่ก้าวหน้า ระบบส่งกำลังชนิดเกียร์แปรผันต่อเนื่อง (CVT) และเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง นำไปสู่การรังสรรค์ห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะที่ก้าวหน้าล้ำสมัย บทบาทระดับระหว่างประเทศของเหว่ยฉาย พาวเวอร์ ซึ่งวัดจากดัชนีการข้ามชาติ อยู่ที่ 48.57% ตอกย้ำความสำคัญของบริษัทฯ บนเวทีโลก
ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เหว่ยฉาย พาวเวอร์ได้พัฒนาเป็นกลุ่มทุนระดับโลก โดยมีผลประโยชน์ครอบคลุมหลากหลาย ทั้งระบบไฟฟ้ากำลัง ยานพาหนะเชิงพาณิชย์ เครื่องจักรเกษตรกรรม และโซลูชันโลจิสติกส์อัจฉริยะ ในทางการเงิน บริษัทฯ ได้มีเส้นทางการเติบโตที่น่าทึ่ง โดยจากปี 2547 ถึง 2566 รายได้ของบริษัทฯ พุ่งทะยานจาก 6.2 พันล้านหยวนเป็น 2.14 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าตัว กำไรสุทธิในส่วนของบริษัทแม่เพิ่มขึ้นจาก 540 ล้านหยวนในปี 2547 เป็น 9.01 พันล้านหยวนในปี 2566 เท่ากับเพิ่มขึ้น 16 เท่าตัว การเติบโตทางการเงินเช่นนี้ตอกย้ำคุณสมบัติของเหว่ยฉาย พาวเวอร์ในด้านสมรรถนะที่ครอบคลุม มูลค่าการลงทุนที่ยอดเยี่ยม และการที่แบรนด์เป็นที่ยอมรับในวงกว้างในตลาดทุนต่าง ๆ มูลค่าตลาดโดยรวมของบริษัทฯ สูงกว่า 1.4 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 30 เท่าตัวนับตั้งแต่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ที่ผ่านมาเหว่ยฉาย พาวเวอร์มีการเติบโตของมูลค่าตลาดอย่างยอดเยี่ยม โดยสูงกว่ามูลค่าเมื่อจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก 40 เท่าตัว นอกจากนี้ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้จ่ายเงินปันผลไปแล้วมากกว่า 2.8 หมื่นล้านหยวน
ในการนี้ ประธานของเหว่ยฉาย คุณถาน ซูกวง พิจารณาเส้นทางของบริษัทฯ โดยเน้นย้ำว่าความพยายามร่วมมือทำงานและความสำเร็จร่วมกันระยะเวลาสองทศวรรษได้เสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งในทั่วโลก พวกเราที่เหว่ยฉาย พาวเวอร์ยึดมั่นใน "การเติบโต คุณค่า และอนาคต" เป็นหลักคิดสำคัญ โดย "การเติบโต" หมายถึงความทะเยอทะยานที่จะติดอันดับอยู่ในกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก ส่วน "คุณค่า" สื่อถึงความมุ่งหมายของเราที่จะได้รับการยอมรับเป็นบริษัทผู้แข็งแกร่งทรงพลังซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในระดับโลก ทั้งนี้ ในการมุ่งไปข้างหน้า เหว่ยฉาย พาวเวอร์พร้อมสำหรับอนาคตที่มีแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเต็มไปด้วยพลังอันไม่หยุดนิ่ง ศักยภาพไร้ขีดจำกัด และความเป็นเลิศที่ยืนยาว เรายังคงเป็นผู้ส่องแสงนำทางด้านนวัตกรรมและความเป็นผู้นำ โดยดึงดูดความสนใจและการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง