บอนน์, เยอรมนี, 22 กรกฎาคม 2567 /PRNewswire/ -- Envision Energy บริษัทเทคโนโลยีสีเขียวชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับแนวหน้าอย่าง DHL Group เพื่อร่วมมือกันในด้านเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) โลจิสติกส์แบบครบวงจร โซลูชันพลังงานสีเขียว และการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยมุ่งเร่งความคืบหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืน
DHL Group มุ่งบรรลุเป้าหมายการขนส่งที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2593 และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนให้สูงกว่า 30% ภายในปี 2573 โดยเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนมีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการขนส่ง และเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบิน ในความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ Envision จะเป็นผู้จัดหาเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลดคาร์บอนของทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งรับประกันการจัดหาในระดับโลก นอกจากนี้ ความร่วมมือนี้ยังจะสำรวจความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบตั้งต้นหมุนเวียนและแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อผลักดันการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางอากาศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
Lei Zhang ประธานกรรมการบริษัท Envision กล่าวว่า "ภาคการบินในปัจจุบันยังคงทำไม่ได้ตามเป้า ส่วนใหญ่เป็นเพราะไฮโดรคาร์บอนสีเขียวและอนุพันธ์ต่าง ๆ มีต้นทุนสูง โดย Envision ใช้นวัตกรรมเชิงระบบ ทำให้ลดต้นทุนและพลิกโฉมการผลิตเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนในระดับใหญ่ได้ เพื่อเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม 'น้ำมันรูปแบบใหม่' ในระดับโลก"
Envision ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "Green Giant" ในการจัดอันดับบริษัททรงอิทธิพล "2024 TIME100 Most Influential Companies" นั้น ให้บริการโซลูชันพลังงานหมุนเวียนแก่องค์กรธุรกิจ รัฐบาล และสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทฯ จะร่วมมือกับ DHL ในการจัดหาไฟฟ้าสีเขียว เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนของ DHL
ในขณะเดียวกัน DHL จะทำหน้าที่เป็นพันธมิตรด้านโลจิสติกส์รายหลักของ Envision โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอันกว้างขวางของ DHL ที่ครอบคลุมกว่า 220 ประเทศและดินแดน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของ Envision ในการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนสู่ระดับโลก DHL จะนำโซลูชันโลจิสติกส์แบบครบวงจรมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพ เพื่อให้จัดการซัพพลายเชนได้อย่างราบรื่นในระดับโลก และให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุมในการรับมือกับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและความท้าทายในการดำเนินงาน
เมื่อรวมพลังกันแล้ว Envision และ DHL Group จะร่วมกันพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อส่งเสริมโซลูชันที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และสร้างคุณค่าร่วมกัน โดยนิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ ผสานการผลิตพลังงานสีเขียวเข้ากับการจัดการโหลด ส่งเสริมการสร้างระบบพลังงานหมุนเวียน และขับเคลื่อนระบบนิเวศอุตสาหกรรมสีเขียว นิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ซึ่ง Envision ได้เปิดตัวแล้วในเอเชียและบางส่วนของยุโรปและตะวันออกกลางนั้นจะขยายขอบเขตไปทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนจาก DHL เพื่อนำเสนอโซลูชันสุดล้ำรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ทั่วโลก
"กรอบความร่วมมือกับ Envision ถือเป็นก้าวสำคัญอีกขั้นของ DHL Group ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก เราอาศัยความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ที่ไม่มีใครเทียบได้และเครือข่ายระดับโลกที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา โดยมุ่งสนับสนุน Envision ในการขยายธุรกิจในระดับสากลและรับมือกับความท้าทายด้านโลจิสติกส์" Tobias Meyer ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHL Group กล่าวเสริม "เมื่อรวมพลังกันแล้ว เราก็พร้อมเข้ามาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการบูรณาการเทคโนโลยีสีเขียวและปรับปรุงซัพพลายเชน สร้างมาตรฐานใหม่เพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลกผ่านการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน"