ปราก, 26 สิงหาคม 2567 /PRNewswire/ -- งานวิจัยต่อเนื่องโดยดร. Yael Halaas (สหรัฐอเมริกา) และดร. Woraphong Manuskiatti (ไทย) ได้เผยให้เห็นหลักฐานชิ้นแรกเกี่ยวกับประสิทธิผลในระยะยาวของ EMFACE ซึ่งเป็นนวัตกรรมบำรุงผิวหน้าที่พัฒนาโดย BTL
EMFACE เป็นหัตถการเสริมความงามที่ไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดวิธีแรกที่รักษาเนื้อเยื่อใบหน้าได้หลายชนิด ตั้งแต่กล้ามเนื้อจนถึงผิวหนัง โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2564 "EMFACE เป็นหัตถการเดียวที่สามารถยกกระชับโครงใบหน้าได้โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด ผู้ป่วยจะสัมผัสได้ถึงใบหน้าที่อวบอิ่มและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ" ดร. Halaas หนึ่งในผู้วิจัยดั้งเดิมของเทคโนโลยี EMFACE กล่าว
EMFACE ผสานรวมเทคโนโลยี Synchronized RF และ HIFES™ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรโดย BTL เข้าไว้ด้วยกัน และได้ก้าวขึ้นมาเป็นการรักษาขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องการเสริมความงามบนใบหน้า และยังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใช้ควบคู่กับการรักษาแบบฉีด
ดร. Halaas ได้เปิดตัวชุดเคสที่ประเมินผู้ป่วยหลังเข้ารับการรักษาด้วย EMFACE เป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งจากข้อมูลที่เธอค้นพบได้เผยให้เห็นว่าปริมาณวอลลุ่มที่เปลี่ยนแปลงไปถึง 68% ยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยมีวอลลุ่มแก้มส่วนบนที่เพิ่มขึ้น 2.6 มล. และวอลลุ่มแก้มลดลง 2.7 มล. เมื่อเทียบกับการวัดค่าก่อนการรักษา1
"ส่วนหนึ่งของกระบวนการแก่ชราตามธรรมชาติคือการสูญเสียวอลลุ่มและโครงหน้าที่เลื่อนลง ซึ่งทำให้ใบหน้าของเราดูเหี่ยวและโทรมมากขึ้น ผลลัพธ์การเพิ่มวอลลุ่มในระยะยาวเหล่านี้นั้นช่างยอดเยี่ยมมาก เพราะการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อใบหน้าด้วย EMFACE สามารถยกกระชับ และนำไขมันกลับเข้าไปที่แก้มได้" ดร. Halaas กล่าว
การปรับปรุงวอลลุ่มใบหน้าในผู้ป่วยชาย หลังการรักษาด้วย EMFACE ครั้งสุดท้ายเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ภาพโดย ดร. Yael Halaas สหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมจากการศึกษาวิจัยของ ดร. Manuskiatti ที่ได้นำเสนอที่งานประชุม American Society for Laser Medicine and Surgery (ASLMS) อันทรงเกียรติในบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ จากข้อมูลการศึกษาของเขาในผู้ป่วยชาวเอเชีย ดร. Manuskiatti ได้สำรวจเห็นว่าผิวหนังมีความกระชับมากขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 81% และผู้ป่วย 93% รายงานว่าใบหน้าของพวกเขาดูดีขึ้น ผ่านการประเมินตนเอง 6 เดือนหลังจากเริ่มต้นการรักษา ทั้งนี้การวัดผลการยกกระชับคิ้วโดยใช้กล้อง 3 มิติแสดงให้เห็นพัฒนาการที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลาหกเดือนเดียวกัน2 อีกด้วย
งานศึกษาวิจัยของดร. Manuskiatti ถือเป็นการวิจัยทางคลินิกในระยะยาวเกี่ยวกับ EMFACE ในผู้ป่วยชาวเอเชียครั้งแรกที่ได้รับนำเสนอในงานประชุมด้านเวชศาสตร์ความงามครั้งสำคัญ
"หลักฐานทางคลินิกล่าสุดได้สนับสนุนผลลัพธ์ระยะยาวตามที่คาดหวังของ EMFACE ซึ่งเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเหล่านักวิจัยที่ยอดเยี่ยมที่ได้ทุ่มเทเพื่อนำข้อมูลที่สำคัญนี้มาให้" Tomas Boleslavsky ผู้อำนวยการฝ่ายคลินิกที่ BTL กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ BTL
BTL ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 และได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และความงามระดับชั้นนำของโลก โดยมีวิศวกรกว่า 500 คน และพนักงานกว่า 3,000 คนในกว่า 80 ประเทศ BTL นำเสนอโซลูชันแบบไม่ต้องผ่าตัดขึ้นสูงเพื่อปรับปรุงรูปร่าง ยกกระชับผิว และการเสริมความงามทางการแพทย์อื่นๆ รวมถึง สุขภาพและสุขภาวะทางเพศของสตรี ผลิตภัณฑ์ของ BTL ประกอบไปด้วยแบรนด์ต่างๆ รวมถึง EMSCULPT NEO®, EMFACE®, EXION™ , EMSELLA®, EXILIS® รวมถึงหัตถการ HIFEM® และ HIFES™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ โปรดเข้าไปที่ www.btlaesthetics.com เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
แหล่งที่มา:
1 Cohen, J., Halaas, Y., Chilukuri, S., Clark-Loeser, L., McCoy, J.D. (2024) Non-Invasive Restoration of Facial Volume Loss: Synergistic Effects of HIFES & Synchronized RF Technology in Facial Rejuvenation - A Retrospective Study. ต้นฉบับส่งตีพิมพ์แล้ว
2 Manuskiatti W., Evaluating the Efficacy and Safety of Combined Synchronized Radiofrequency and HIFES Stimulation for Facial Lifting in Asians: A 6-Month Analysis. นำเสนอที่ American Society for Laser Medicine and Surgery (ASLMS) บัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ 11 เมษายน 2567
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2486650/BTL_EMFACE_Treatment.jpg