โอเดนเซ, เดนมาร์ก, 2 กันยายน 2567 /PRNewswire/ -- Universal Robots (UR) ผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ หรือ Cobot (Collaborative Robot) จากประเทศเดนมาร์ก ได้ทำการสำรวจบริษัทผู้ผลิต 1,200 รายทั่วอเมริกาเหนือและยุโรป ว่ามีการใช้เทคโนโลยีอย่างไร และวางแผนว่าจะลงทุนในอนาคตอย่างไร ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มากกว่า 50% ตอบว่าได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (ML) มาใช้ในการผลิตเรียบร้อยแล้ว
Anders Billesø Beck รองประธานฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมของ Universal Robots กล่าวว่า "AI ไม่ใช่การปั่นกระแส แม้ว่าเพิ่งมีการพูดถึง AI กันอย่างแพร่หลายในช่วงสองปีมานี้เอง แต่ AI และ ML ก็ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน"
ในส่วนของการลงทุนในอนาคตนั้น ผู้ผลิต 48% วางแผนว่าจะลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยี AI และ ML ภายในปี 2568 ซึ่งบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคตของภาคการผลิต
"เราพบว่าการนำ AI มาใช้ร่วมกับหุ่นยนต์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่ระบบนิเวศ UR+ ของเรายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันก็คือแอปพลิเคชันและโซลูชัน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากพันธมิตรของเรา รวมถึงพันธมิตร OEM ของเราที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า" Anders Billesø Beck กล่าว
ประเด็นสำคัญอื่น ๆ
• ผลสำรวจแสดงให้เห็นถึงความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล โดยปัจจุบันผู้ผลิต 47% ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และดิจิทัลทวิน (Digital Twins) ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถปรับปรุงการทำงาน ลดเวลาหยุดทำงาน และประหยัดต้นทุนโดยอาศัยการจำลองสถานการณ์และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ทำให้ผู้ผลิตสามารถเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการผลิตแบบผสมผสานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น
• ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่า 50% ระบุว่า การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ การเพิ่มผลผลิต และการเพิ่มความแม่นยำ เป็นเหตุผลหลักที่นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ นอกจากนี้ ผู้ผลิต 30% กำลังใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงสภาพการทำงาน และ 26% ใช้เทคโนโลยีเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน
• ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นสิ่งที่ผู้ผลิต 32% กังวลมากที่สุด แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นกัน ได้แก่ ความสามารถในการใช้งาน ความเชี่ยวชาญภายในองค์กร ความปลอดภัย และอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น (ทั้งหมดอยู่ที่ราว 20%)
สามารถดูข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดจากการสำรวจได้ที่นี่
เกี่ยวกับการสำรวจ
ด้วยระดับความเชื่อมั่น (confidence rate) สูงถึง 99% ผลสำรวจนี้ได้รวบรวมคำตอบจากผู้ตอบแบบสำรวจ 1,195 คน จาก 7 ประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรขนาดใหญ่ 569 แห่ง รวมถึงบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง 278 แห่ง ครอบคลุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการผลิต การดูแลสุขภาพ อาหารและเครื่องดื่ม และยานยนต์