ฉางโจว, จีน, 3 ก.ย. 2567 /PRNewswire/ -- Trinasolar ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินรอบครึ่งปีแรกของปี 2567 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีรายได้ 6.047 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิที่ส่วนของบริษัทใหญ่ 74.058 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกำไรติดต่อกัน 2 ไตรมาส นอกจากนี้ ในช่วง 6 เดือนดังกล่าว บริษัทฯ ได้ส่งมอบโมดูลแสงอาทิตย์ไป 34GW รวมถึงระบบเก็บพลังงานและ DC คอนเทนเนอร์ 1.7GWh และระบบจับยึดแผงโซลาร์เซลล์ 3.2GW สะท้อนให้เห็นความเป็นผู้นำในแวดวงเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และระบบเก็บพลังงานอัจฉริยะ
เติบโตอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจโซลาร์เซลล์ โซลาร์แทรกเกอร์ และระบบเก็บพลังงาน
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ Trinasolar ได้ส่งมอบโมดูลไป 34GW เพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดส่งมอบสะสมของโมดูลรุ่น 210 เกินกว่า 140GW ทำให้บริษัทฯ ยังคงเป็นผู้นำระดับโลก Trinasolar รับหน้าที่นำอุตสาหกรรมในยุคของโมดูลระดับ 700W+ ด้วยซีรีส์ Vertex N 720W ซึ่งใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยี 210 มิลลิเมตรและเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง n-type i-TOPCon
Trina Storage ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของ Trinasolar ได้ให้บริการระบบเก็บพลังงานแบบครบวงจรตั้งแต่ระดับ Cell to Pack ไปจนถึงระดับคอนเทนเนอร์ โดยได้เปิดตัวโซลูชัน Elementa 2 Elevate ในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นโซลูชันเก็บพลังงานแบบ Cell-to-AC ครบวงจรเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ Trina Storage ยังคงเป็นผู้บุกเบิกในการนำเสนอโซลูชันสำหรับสถานีเก็บพลังงานแบบใช้ร่วมกันในระดับกริด สถานีชาร์จรวมระบบโซลาร์-เก็บพลังงาน และนิคมอุตสาหกรรมปลอดคาร์บอน Trina Storage ยังได้รับการยอมรับให้เป็นผู้จัดจำหน่ายระบบเก็บพลังงานระดับ Tier 1 จาก Bloomberg New Energy Finance เป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันปีนี้ด้วย ทั้งยังส่งมอบ DC คอนเทนเนอร์และระบบพลังงานรวมแล้วกว่า 7GWh ทั่วโลกนับจนถึงปลายเดือนมิถุนายน
TrinaTracker ให้บริการตลาดโซลาร์ทั่วโลก โดยมียอดส่งมอบรวมกว่า 23GW ณ สิ้นเดือนมิถุนายน จัดส่งมากเป็นอันดับ 6 ของโลกในปีที่ผ่านมา และอันดับ 3 ในประเทศและภูมิภาคหลัก โดย S&P Global ยกให้เป็นบริษัทที่เติบโตเร็วเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนี้ รายงานของ Wood Mackenzie ยังยกให้ TrinaTracker เป็นหนึ่งในบริษัทโซลาร์ระดับท็อป 3 ในภูมิภาคอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และอื่น ๆ
ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา
Trinasolar ได้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนามากถึง 381.409 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการยื่นขอจดสิทธิบัตรรวมถึง 5,649 ฉบับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน Trinasolar ให้ความสำคัญกับสิทธิบัตรของตนมาก โดยเฉพาะในเทคโนโลยี TOPCon ที่มีมากกว่า 500 ฉบับ ณ เดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขยายความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยในระดับโลก เพื่อรักษาความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีเอาไว้ให้ได้ โดยในเดือนมิถุนายน บริษัทฯ ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระยะยาวกับสถาบันพลังงานแสงอาทิตย์ในสังกัดมหาวิทยาลัย Universidad Politécnica de Madrid และในเดือนสิงหาคม ก็ได้ประกาศความร่วมมือทางการวิจัยกับหน่วยงานวิจัยและพัฒนาภาครัฐชั้นนำของสิงคโปร์อย่าง Agency for Science, Technology and Research
ส่งมอบอย่างมั่นคงทั่วโลก
บริษัทฯ อาศัยกำลังการผลิตทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและจัดส่งทั่วโลกได้อย่างไร้กังวล Trinasolar ได้จัดตั้งฐานการผลิตเซลล์และโมดูลขนาด 1GW ในประเทศอินโดนีเซีย และฐานการผลิตโมดูลขนาด 5GW ที่สหรัฐอเมริกาในปี 2566 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในครึ่งปีหลังของปี 2567
Trinasolar ยึดมั่นในพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทุกคน" (Solar Energy for All) โดยหวังใช้เทคโนโลยีชั้นยอดและผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง เพื่อนำพาอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้าต่อไป