ปักกิ่ง, 4 ก.ย. 2567 /PRNewswire/ -- เมืองเฉวียนโจวในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ขึ้นแท่นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้น ๆ ของจีน ซึ่งปัจจุบันกำลังเฟื่องฟูทางวัฒนธรรม อันเป็นผลมาจากความมั่นใจทางวัฒนธรรมที่เพิ่มสูงขึ้น
Photo shows a villager pins a flowery headwear for a tourist at Xunpu Village of Quanzhou City, southeast China's Fujian Province.
ความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของเมืองนี้ถูกบันทึกไว้อย่างมีชีวิตชีวาในเอกสารทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมถึง "การเดินทางของมาร์โค โปโล" (The Travels of Marco Polo) ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของนักสำรวจชาวอิตาเลียนผู้นี้ในดินแดนตะวันออก
เมืองเฉวียนโจวเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลของจีนในสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) และราชวงศ์หยวน (พ.ศ. 1814-1911) โดยเป็นจุดบรรจบของอารยธรรมเกษตรกรรมและอารยธรรมทางทะเล ก่อให้เกิดภูมิทัศน์เมืองที่วัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
ปัจจุบัน เมืองนี้มีแหล่งมรดกโลก 1 แห่ง ตลอดจนแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสำคัญระดับชาติถึง 44 แห่ง
นอกจากนี้ เมืองเฉวียนโจวยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระดับโลกมากถึง 6 รายการ และระดับชาติอีก 36 รายการ
ในปี 2564 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน "เฉวียนโจว: ศูนย์กลางการค้าโลกในจีนสมัยซ่ง-หยวน" (Quanzhou: Emporium of the World in Song-Yuan China) เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
นับตั้งแต่นั้นมา เสน่ห์อันเก่าแก่ของเฉวียนโจวก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยในปี 2566 เฉวียนโจวต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศรวมถึง 86.5297 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกิน 1 แสนล้านหยวน (ราว 1.406 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
แม้เฉวียนโจวจะเก่าแก่ แต่เมืองนี้ก็ทันสมัยและเปี่ยมด้วยพลัง
ปัจจุบัน เฉวียนโจวมีคลัสเตอร์อุตสาหกรรมระดับแสนล้านถึง 9 แห่ง มีบริษัทจดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ 115 แห่ง และผู้ประกอบการกว่า 1.52 ล้านรายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้ โดยในปี 2566 เมืองนี้มีผลผลิตทางเศรษฐกิจรวม 1.22 ล้านล้านหยวน ทำให้ได้รับฉายา "เมืองหลวงแห่งแบรนด์" ของจีน
ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/341940.html