ปรากฏความแตกต่างระหว่างรุ่นเกี่ยวกับทัศนคติต่อการศึกษาในต่างประเทศ ข้อมูลจาก HSBC ชี้

ลอนดอน, 9 กันยายน 2567 /PRNewswire/ --

• 51% ของผู้ตอบแบบสำรวจมุ่งหวังที่จะส่งลูกไปศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือมีลูกที่กำลังศึกษาต่อในต่างประเทศอยู่แล้ว
• มากกว่าสองในสามของคนรุ่นเจนซี (Gen Z) และมิลเลนเนียล (Millennial) อยากให้ลูกเรียนใกล้บ้านมากกว่า เทียบกับเพียงเกินครึ่งเล็กน้อยของคนรุ่นบูมเมอร์ (Boomer) 
• 82% ของคนรุ่นมิลเลนเนียล และ 77% ของคนรุ่น Gen Z เชื่อว่าการศึกษาเชิงนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเทียบกับ 30% ของคนรุ่นบูมเมอร์

HSBC's Quality of Life report suggests emerging preferences as younger generations are shifting towards new academic destinations

ความแตกต่างในทัศนคติระหว่างรุ่นต่อการศึกษาในต่างประเทศและสถานที่ศึกษาเริ่มปรากฏให้เห็น ตามข้อมูลจากรายงานฉบับใหม่ของ HSBC

รายงาน Quality of Life ของ HSBC ซึ่งสำรวจบุคคลวัยผู้ใหญ่ที่มีฐานะมั่งคั่งมากกว่า 11,200 คนในตลาด 11 แห่งทั่วโลก เผยว่า ขณะที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการศึกษาชั้นนำ พ่อแม่รุ่นใหม่ในปัจจุบันและในอนาคต อย่างรุ่นเจนซี (68%) และรุ่นมิลเลนเนียล (67%) มีแนวโน้มให้ความสำคัญกับมหาวิทยาลัยในภูมิภาคใกล้บ้านมากกว่า

รายงานพบจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ ๆ สำหรับการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ดังนี้

• จีนแผ่นดินใหญ่เป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่พ่อแม่รุ่นใหม่ชาวสิงคโปร์
• สิงคโปร์กำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับพ่อแม่รุ่นใหม่จากจีนแผ่นดินใหญ่ อินเดีย มาเลเซีย และไต้หวัน
• ยุโรปภาคพื้นทวีปกำลังกลายเป็นภูมิภาคชั้นนำสำหรับพ่อแม่จากสหราชอาณาจักร
• แคนาดามีความนิยมสูงขึ้นสำหรับพ่อแม่จากสหรัฐอเมริกา

คุณ Katie Wilkins หัวหน้าระดับโลกฝ่ายบริการนานาชาติของ HSBC กล่าวว่า "เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติต่อการศึกษาในต่างประเทศในหมู่พ่อแม่รุ่นใหม่ ซึ่งต้องการที่จะรักษาสมดุลสำหรับการศึกษาของลูกระหว่างความมุ่งหวังระดับโลกกับความใกล้บ้าน เมื่อเทียบกับพ่อแม่รุ่นก่อนหน้า

"ครอบครัวจำนวนมากขึ้นมาหาเราขณะที่พวกเขาเริ่มต้นเส้นทางการศึกษาในต่างประเทศ เนื่องจากตัวเลือกที่ซับซ้อนทำให้พวกเขาต้องการพันธมิตรผู้ให้บริการทางการเงินที่มีการเชื่อมโยงในระดับโลก เพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างกระจ่างชัดเจนและมั่นใจ"

พ่อแม่ส่วนใหญ่ (78%) จะเลือกมหาวิทยาลัยที่เอื้อให้ลูกสามารถทำตามความหลงใหล โดยคนรุ่นมิลเลนเนียล (83%) มีแนวโน้มสูงกว่า 10% ที่จะให้ความสำคัญกับความสนใจของลูกในการเลือกมหาวิทยาลัยเมื่อเทียบกับคนรุ่นบูมเมอร์ (73%) พ่อแม่รุ่นมิลเลนเนียล (81%) มีแนวโน้มสูงกว่าพ่อแม่รุ่นบูมเมอร์ (66%) อยู่ 15% ที่จะ 'เห็นด้วยอย่างมากหรือค่อนข้างเห็นด้วย' กับตัวเลือกการศึกษาที่เอื้อให้ลูกได้สำรวจเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ หากเส้นทางนั้นส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาวะโดยรวมของลูกขณะศึกษาต่อในต่างประเทศ

พ่อแม่รุ่นใหม่ยังเลือกสถาบันที่มีหลักสูตรมุ่งเน้นอนาคต โดยผู้ตอบแบบสอบถามรุ่นมิลเลนเนียล 82% และรุ่นเจนซี 77% เห็นด้วยว่าการศึกษาเชิงนวัตกรรมมีความสำคัญ เมื่อเทียบกับ 30% ของรุ่นบูมเมอร์ที่ 'เห็นด้วยอย่างมาก' ว่าเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ส่วนใหญ่ (66%) เชื่อว่าการศึกษาในต่างประเทศจะนำไปสู่การเปิดประสบการณ์ระดับโลกสำหรับลูกของตนและยกระดับโอกาสในอนาคต

ในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ Dr Wanying Zhou มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) นักวิจัยประจำศูนย์วิจัยสุขภาวะ (Wellbeing Research Centre) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะวัยรุ่นและการศึกษานานาชาติ กล่าวว่า

"รายงานของ HSBC มาในจังหวะที่ภูมิทัศน์การศึกษาขั้นอุดมศึกษาในต่างประเทศกำลังมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความหลากหลายอย่างรวดเร็ว ครอบครัวนักศึกษาหันมาพิจารณา 'วิทยาเขตดาวเทียม (satellite campuses)' และขณะที่การเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลภายในภาคการศึกษากำลังรุดหน้าไป พ่อแม่และนักศึกษาต่างสำรวจหนทางใหม่ ๆ อย่างเช่น การเรียนรู้ออนไลน์ ซึ่งสามารถเอื้อให้นักศึกษาเรียนได้อย่างเป็นอิสระขณะอยู่ใกล้บ้าน ไม่ว่านักศึกษาจะเลือกเส้นทางการศึกษาแบบใด การศึกษาในต่างประเทศสามารถนำมาซึ่งทั้งผลตอบแทนและความท้าทาย จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับครอบครัวที่จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาเช่นนี้"

เครือข่ายระดับโลก ชุดทรัพยากร และความร่วมมือของ HSBC ช่วยให้พ่อแม่และนักศึกษาได้มีเครื่องมือในการรับมือกับโลกของการศึกษาในต่างประเทศ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ HSBC สำหรับนักศึกษาในต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์นี้

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2498711/HSBC_Quality_Life_Report.jpg?p=medium600