อิสตันบูล, ตุรกี, 4 พ.ย. 2567 /PRNewswire/ -- ในงาน Ultra-Broadband Forum ครั้งที่ 10 หรืองาน UBBF ประจำปี 2567 คุณ James Chen ประธานธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายของหัวเว่ย (Huawei) ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "Network+AI, Unleashing More Business Value" (รวมพลังเครือข่ายและ AI เพิ่มพูนมูลค่าทางธุรกิจ) โดยคุณ Chen กล่าวว่า "การสำรวจศักยภาพของ AI จำเป็นต้องอาศัยกลยุทธ์ 'FOUR NEW' ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์กลางใหม่ บริการใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และการดำเนินงานใหม่ กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถขยายขอบเขตตลาด สร้างสรรค์บริการนวัตกรรมใหม่ ๆ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาเครือข่ายและประสบความสำเร็จทางธุรกิจ หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรทั่วโลก เพื่อปลดปล่อยมูลค่าทางธุรกิจที่มากขึ้นและสร้างอนาคตดิจิทัลและอัจฉริยะที่เป็นประโยชน์ร่วมกันผ่านกลยุทธ์ 'FOUR NEW'"
ในขณะที่อุตสาหกรรมอัลตราบรอดแบนด์ (UBB) และปัญญาประดิษฐ์เติบโตอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ใช้บรอดแบนด์ไฟเบอร์ระดับกิกะบิตทั่วโลกได้เกิน 300 ล้านรายแล้ว และความเร็วเฉลี่ยของแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบ้านอยู่ที่ 570 Mbit/s ปัจจุบันมีโมเดลพื้นฐานด้าน AI มากกว่า 1,300 โมเดล และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI มากกว่า 30,000 แห่งทั่วโลก อุตสาหกรรม UBB และ AI ต่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ผลักดันให้เกิดการใช้งานบรอดแบนด์ระดับกิกะบิตอย่างแพร่หลาย
หัวเว่ยเชื่อว่ากลยุทธ์ "FOUR NEW" เป็นกุญแจสำคัญในการปลดปล่อยมูลค่าทางธุรกิจที่มากขึ้น เมื่อผนวกรวมเครือข่ายและ AI เข้าด้วยกัน
ศูนย์กลางใหม่: AI Hub คือศูนย์กลางใหม่สำหรับบริการภายในบ้าน โดยมีแกนหลักอยู่ที่การพัฒนา AI Agent ที่สามารถเชื่อมต่อผู้คน อุปกรณ์ และแอปพลิเคชัน เข้าใจและตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว และเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน AI เพื่อขยายขอบเขตบริการภายในบ้าน ศูนย์กลางใหม่นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจในตลาดบ้านอัจฉริยะ
บริการใหม่: ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถเปิดให้บริการใหม่ ๆ และรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพสูงด้วย AI เพื่อพัฒนาระบบนิเวศแอปพลิเคชัน AI ภายในบ้าน AI ไม่เพียงแต่ยกระดับบริการแบบดั้งเดิม เช่น การออกกำลังกายแบบโต้ตอบและเกมแบบตรวจจับการเคลื่อนไหว แต่ยังนำเสนอบริการภายในบ้านรูปแบบใหม่ ๆ เช่น หุ่นยนต์บริการภายในบ้าน การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและค่อย ๆ สร้างระบบนิเวศ AI ภายในบ้าน
ประสบการณ์ใหม่: บริการใหม่ ๆ เช่น การเล่นเกมบนคลาวด์ การค้าขายแบบไลฟ์ การค้นหารูปภาพและวิดีโอด้วย AI กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริการเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านความหน่วง แบนด์วิดท์ขาขึ้นและขาลง และความแปรผันของระยะเวลาในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย (jitter) สิ่งนี้นำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย ผ่านโมเดลธุรกิจใหม่ เช่น การคิดค่าบริการตามความหน่วง การคิดค่าบริการตามแบนด์วิดท์ขาขึ้น และการคิดค่าบริการตามฟังก์ชัน AI ประสบการณ์บริการคุณภาพสูงต้องการเครือข่ายคุณภาพสูง ผู้ให้บริการเครือข่ายจึงสร้างเครือข่ายคุณภาพสูงแบบ "พรีเมียมแนวดิ่งและแนวราบ" เพื่อรองรับประสบการณ์บริการคุณภาพสูงและการสร้างรายได้ทางธุรกิจ การสร้างเครือข่ายแบบ "พรีเมียมแนวดิ่งและแนวราบ" มีกุญแจสำคัญอยู่ที่การสร้างการเชื่อมต่อระดับ 1 มิลลิวินาทีระหว่างศูนย์ข้อมูล และการเข้าถึงศูนย์ข้อมูลระดับ 1 มิลลิวินาที
การดำเนินงานใหม่: เมื่อขนาดเครือข่ายของผู้ให้บริการใหญ่ขึ้น เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองจึงมีความสำคัญมากขึ้น โดย AI สนับสนุนการขับเคลื่อนเครือข่ายอัตโนมัติระดับสูง และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเครือข่าย เครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L4 ของหัวเว่ยที่อิงกับ Telecom Foundation Model นั้น ช่วยให้ผู้ให้บริการลดข้อร้องเรียนจากลูกค้า ลดระยะเวลาในการแก้ไขข้อร้องเรียน เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ลดจำนวนการเข้าพื้นที่ และเร่งการแก้ไขปัญหา
ในยุคการเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะนั้น กลยุทธ์ "FOUR NEW" ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นนวัตกรรมเทคโนโลยีเครือข่าย แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการปลดปล่อยมูลค่าทางธุรกิจเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์กลางใหม่ บริการใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และการดำเนินงานใหม่ ต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน และร่วมกันสร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์
ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงยึดมั่นในการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรทั่วโลกในการสำรวจยุคเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ เร่งการปลดปล่อยมูลค่าทางธุรกิจของเครือข่ายบวก AI และก้าวสู่โลกอัจฉริยะที่เจริญรุ่งเรือง