อิสตันบูล, 11 พ.ย. 2567 /PRNewswire/ -- ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจรชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัวโซลูชัน FWA แบบ full-stack พลัง AI ตัวแรกของอุตสาหกรรมอย่าง ZTE Nebula AI FWA Solution โซลูชันใหม่นี้สะท้อนปรัชญาผลิตภัณฑ์ที่อัปเกรดแล้วอย่าง AI-powered GIS 2.0 โดยได้เปิดตัวในเวที ZTE Devices User Congress ที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกซึ่งมุ่งเน้นไปที่ FWA และ MBB งานนี้มีขึ้นในธีม "Better 5G, Better AI" ซึ่งแขกผู้ทรงเกียรติ ผู้นำความคิดในภาคอุตสาหกรรม ผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก และผู้เชี่ยวชาญมาร่วมงานนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม FWA และ MBB
Under the AI for All strategy, ZTE is exploring a wide range of AI-powered innovations, from cutting-edge FWA & MBB products to stylish smartphones
Bai Keke รองประธานของ ZTE และผู้จัดการทั่วไปประจำธุรกิจอินเทอร์เน็ตมือถือของ ZTE Mobile Devices ได้เน้นย้ำความสำคัญของการบูรณาการ AI และ 5G เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ FWA และ MBB ว่า "ตลาด FWA น่าจะแตะหลัก 38.7 ล้านหน่วยภายในปี 2571 โดย 5G FWA จะครอบคลุม 72% ของความต้องการนี้ เรายังคงเดินหน้าสำรวจศักยภาพของ AI เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายที่ผู้ให้บริการและผู้ใช้งานเผชิญอยู่ เราจะยังคงเสริมสร้างปรัชญาผลิตภัณฑ์ GIS 2.0 ของเราต่อไปโดยใช้ AI เพื่อผลักดันนวัตกรรมใหม่ ๆ ในภาค FWA และ MBB ให้คงความเป็นผู้นำระดับโลก"
ZTE ชูปรัชญาผลิตภัณฑ์ FWA และ MBB ใหม่ในชื่อ AI-Powered GIS 2.0
ในงานนี้ ZTE ได้เปิดตัวปรัชญาผลิตภัณฑ์ที่อัปเกรดแล้วอย่างเป็นทางการอย่าง AI-powered GIS 2.0 ซึ่งย่อมาจาก Green (เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม), artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์), และ Security (ความปลอดภัย) โดย GIS 2.0 ผนวกรวมเทคโนโลยี AI ขั้นสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายโดยเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้ใช้ จำแนกแอปพลิเคชันกว่า 4,000 รายการ เพิ่มประสิทธิภาพแบนด์วิดธ์ได้ 20% และลดความแออัดของเครือข่ายได้ 30% ทั้งนี้ GIS 2.0 เปิดโอกาสให้ ZTE เข้ามากำหนดมาตรฐานใหม่ในการนำเสนอโซลูชัน FWA และ MBB ที่เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และปลอดภัยขึ้น
GIS 2.0 มีฟีเจอร์โดดเด่นอย่างหนึ่งอยู่ที่ Super Antenna พลัง AI ซึ่งใช้เทคโนโลยีปรับเฟส (phase scanning) และสวิตชิง (switching) ของ ZTE จนเพิ่มความเร็วของเครือข่ายได้ถึง 20% ในพื้นที่ที่สัญญาณอ่อน ในด้านความปลอดภัยนั้น GIS 2.0 ใช้ AI ในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ทั้งข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ไวรัส และภัยคุกคามจากแฮกเกอร์แบบเรียลไทม์ ส่วนฟีเจอร์ Child Guardianship ก็ช่วยมอบสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างของ GIS 2.0 คือ Smart Cloud Platform ที่ใช้ AI เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถจัดการอุปกรณ์ FWA และ MBB ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความจำเป็นในการให้บริการถึงสถานที่และปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการ
โซลูชัน FWA แบบ full-stack ที่ใช้ AI เป็นรายแรกของอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ 5G+AI
ภายในงานนี้ ZTE ได้เปิดตัว Nebula AI FWA Solution ซึ่งเป็นโซลูชัน FWA แบบ full-stack พลัง AI ตัวแรกของอุตสาหกรรม มาพร้อม 6 ฟีเจอร์พลัง AI ไม่ว่าจะเป็น AI Multi-Scenario Application, AI QoS Management, AI Voice Control, AI Application Recognition, AI Children Protection และ AI Network Optimization แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้และความปลอดภัยของเครือข่าย พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับเครือข่ายอัจฉริยะ
นอกจากนี้ ZTE ยังได้เปิดตัวซีรีส์ 5G FWA และ MBB พลัง AI มาพร้อมรุ่น G5 Ultra และ G5F โดย ZTE G5 Ultra นั้นเป็นอุปกรณ์ FWA ระดับแฟล็กชิปตัวแรกของโลกที่ใช้ AI มีความสามารถเต็มรูปแบบในการรองรับ 5G-Advanced ให้อัตราข้อมูลสูงถึง 19Gbps มี Wi-Fi 7 แบบ tri-band และพอร์ตเครือข่าย 2.5G ความเร็วสูงแบบคู่เพื่อการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า ทั้งยังมีระบบ AI สั่งการด้วยเสียง, การจัดการ QoS อัจฉริยะ และเสาอากาศ beam-switching อัจฉริยะระดับ 13dBi ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ตในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สตรีมมิง เกม และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ปลอดภัย และราบรื่น ขณะที่ ZTE G5F เป็นอุปกรณ์ FWA พลัง AI แบบติดตั้งภายนอก พร้อมรองรับ 5G-Advanced เป็นรายแรกของโลก โดยเป็นรุ่นแฟล็กชิปในซีรีส์ FWA เจนที่ 5 ของ ZTE ให้ความเร็วสูงถึง 10Gbps และมี sub-6GHz และ mmWave NR DC เพื่อเพิ่มความครอบคลุมทั้งสองย่านคลื่น พร้อมเสาอากาศระดับ 13dBi และพอร์ตเครือข่าย 2.5G PoE ให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้และมีความเร็วสูงนอกสถานที่ เหมาะกับการเล่นเกมบนคลาวด์และสตรีมมิง 4K
ZTE ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำระดับโลกด้าน FWA และ MBB โดยมีสิทธิบัตรกว่า 1,000 ฉบับ และร่วมมือกับผู้ให้บริการกว่า 130 รายทั่วโลก ส่งมอบอุปกรณ์กว่า 250 ล้านเครื่อง ZTE มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบวงจร ตั้งแต่ชิปไปจนถึงอุปกรณ์ในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น บ้าน การเดินทาง ยานพาหนะ และ IoT ภายใต้อีโคซิสเต็มอย่าง Full-Scenario Intelligent Ecosystem 3.0 ทั้งนี้ ZTE จะยังคงนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีความล้ำหน้า เพื่อมอบการเชื่อมต่อความเร็วสูงและเหนือระดับ พร้อมผลักดันอนาคตของเครือข่ายอัจฉริยะ
สื่อมวลชนติดต่อได้ที่: ZTE Corporation
ฝ่ายการสื่อสาร
อีเมล: ZTE.press.release@zte.com.cn