ผลการศึกษาล่าสุดชี้สภาพแวดล้อมภายในอาคารส่งผลกระทบที่เป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อสมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิด

กรุงเทพฯ--10 ธ.ค.-พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ผลการศึกษาล่าสุดโดยคณะนักวิจัยแห่งศูนย์สุขภาพและสภาพแวดล้อมโลกของ Harvard University T.H. Chan School of Public Health, SUNY Upstate Medical University และ Syracuse University ซึ่งได้มีการเผยแพร่ในประเทศไทยในวันนี้ พบว่าการปรับปรุงคุณภาพสภาพแวดล้อมภายในให้ดีขึ้นสามารถเพิ่มคะแนนทดสอบสมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิดของผู้เข้าร่วมการทดสอบได้ถึงสองเท่า โดยผู้ให้การสนับสนุนหลักของการศึกษา ประกอบด้วยบริษัท United Technologies (NYSE: UTX) และธุรกิจในเครือ ของบริษัทได้แก่ UTC Climate, Controls & Security

รายงานวิจัยดังกล่าวจัดทำขึ้นที่ห้องแล็บที่มีสภาพแวดล้อมแบบปิดคุณภาพสูงที่ศูนย์ความเป็นเลิศซีราคิวซ์ ประจำเมืองซีราคิวซ์ รัฐนิวยอร์ก

สมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิดของผู้เข้าร่วมการวิจัยจะถูกวัดเป็นกิจวัตรรายวันภายใต้สภาพแวดล้อมในพื้นที่ที่ถูกควบคุมในห้องแล็บสภาพแวดล้อมภายในที่คุณภาพสูงที่ศูนย์ความเป็นเลิศซีราคิวซ์

คณะนักวิทยาศาสตร์ได้ควบคุมคุณภาพของสภาพแวดล้อมภายใน เพื่อที่จะจำลองสภาวะของอาคารแบบดั้งเดิมและอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากสภาพอากาศภายใต้สภาพแวดล้อมของที่ทำงานของผู้เข้าร่วมการวิจัย ที่ศูนย์ความเป็นเลิศซีราคิวซ์

"ผลกระทบของอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อสมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิด" ผลการศึกษาพบว่า  คะแนนความรู้และความเข้าใจของพนักงานเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 101%  จากสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีการระบายอากาศที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมของอาคารทั่วไป เมื่อพูดถึงเรื่องความสามารถในการตัดสินใจของผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่" จอห์น แมนดิกค์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของยูไนเต็ดเทคโนโลยีกล่าว "เรารู้ว่าอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในอาคารให้ดีขึ้น ซึ่งผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า อาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องมือที่สำคัญด้านทรัพยากรมนุษย์สำหรับสภาพแวดงล้อมภายในอาคารที่มีความสำคัญต่อศักยภาพการผลิต การเรียนรู้ และความปลอดภัย"

แมนดิกค์ กล่าวเสริมว่า "ประโยชน์ที่ได้จากการยกระดับสภาพแวดล้อมภายในอาคารนั้นเหนือกว่าการลงทุนยิ่งนัก เมื่อพิจารณาจะเห็นว่าภายหลังจากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ  ต้นทุนของอาคารมากกว่าร้อยละ 90 นั้นมีความสัมพันธ์กับผู้คนที่ทำงานอยู่ภายในอาคาร"

อาร์ดี้ รัมมณีย์  กรรมการผู้จัดการของ UTC Climate, Controls & Security Thailand กล่าวว่า "ผลการวิจัยดังกล่าวก่อให้เกิดนัยที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เช่น ประเทศไทย ซึ่งมีการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว จนทำให้มีประชากรหนาแน่นตามอาคารสูงในศูนย์กลางเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ โดยคนที่ทำงานในเมืองส่วนใหญ่จะใช้เวลา เกือบ 90%ทำงานอยู่ภายในอาคาร บรรดาเจ้าของอาคารและผู้ว่าจ้างจึงควรประเมินคุณภาพของสภาพแวดล้อมในตัวอาคารที่บุคลากรของตนใช้เพื่อทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของระบบระบายอากาศในอาคาร เนื่องจากผลการวิจัยครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า คุณภาพอากาศที่เหมาะสมนั้นเอื้ออำนวยต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน"

การวิจัยแบบอำพรางสองฝ่าย (double-blind) นี้ได้ประเมินสมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิดของกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการวิจัย 24 ราย ซึ่งได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายในห้องปฏิบัติการที่จำลองบรรยากาศของอาคารทั่วไปและอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีการปรับปรุงระบบระบายอากาศ โดยทางคณะนักวิจัยได้ตรวจวัดสมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิดตามเกณฑ์การทำงาน 9 ประการด้วยกัน ได้แก่ ระดับพื้นฐาน ประยุกต์ และกิจกรรมมุ่งเน้นเฉพาะจุด; การมุ่งเน้นในงาน; การตอบรับกับวิกฤติ; การเสาะหาข้อมูล; การใช้ข้อมูล; ความหลากหลายของวิธีการตลอดจนกลยุทธ์

คะแนนจากแบบทดสอบสมรรถนะการรับรู้และกระบวนการคิดจะพุ่งสูงสุดเมื่อมีการตอบสนองต่อวิกฤต การใช้งานข้อมูล และกลยุทธ์

- คะแนนการตอบสนองต่อวิกฤตจะสูงขึ้นอีก 97% เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กรณีที่สภาพแวดล้อมดังกล่าวมีการระบายอากาศที่ดีขึ้นและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าสภาพแวดล้อมทั่วไป คะแนนการตอบสนองจะเพิ่มขึ้น 131%

- คะแนนการใช้งานข้อมูลสำหรับสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นนั้น สูงกว่าสภาพแวดล้อมแบบเดิม 172% และ 299% ตามลำดับ

- ในเชิงกลยุทธ์นั้น คะแนนของสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นนั้น สูงกว่าคะแนนสภาพแวดล้อมแบบเดิม 183% และ 288%

ศูนย์สุขภาพและสิ่งแวดล้อมโลกของ  Harvard Chan School ร่วมกับ SUNY Upstate Medical  เปิดตัวการวิจัยเฟสที่สอง โดยจะย้ายจากห้องปฏิบัติการเข้าไปในอาคารจริงทั่วสหรัฐ ซึ่งการวิจัยครั้งนี้มีบริษัท United Technologies ให้การสนับสนุนด้วย

สามารถชมรายงานฉบับเต็มได้ที่ www.CHGEHarvard.org/COGfxStudy และ www.theCOGfxStudy.com ติดตามการอภิปรายทางทวิตเตอร์ได้โดยใช้แฮชแท็ก  #COGfxStudy และ #IntelligenceInTheAir

เกี่ยวกับ UTC Climate, Controls & Security

UTC Climate Controls & Security เป็นบริษัทชั้นนำที่ผลิตระบบให้ความร้อน, ระบบระบายอากาศ, ระบบปรับอากาศและแช่เย็น, ระบบควบคุมและระบบอัตโนมัติภายในอาคาร, และระบบแจ้งเตือนไฟและความปลอดภัย เพื่ออาคารที่ปลอดภัยกว่า อัจฉริยะกว่า ยั่งยืนกว่าและมีประสิทธิภาพสูง UTC Climate, Controls & Security เป็นบริษัทย่อยของบริษัท United Technologies Corp. ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในแวดวงอุตสาหกรรมการผลิตระบบอากาศยานและอาคารทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ทางทวิตเตอร์ที่ @UTC_CCS

เกี่ยวกับ United Technologies

บริษัท United Technologies Corp. มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองฟาร์มิงตัน รัฐคอนเนตทิคัต เป็นบริษัทผู้ผลิตและให้บริการระบบเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาคารและอากาศยานขั้นสูง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ UTC โดยการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.utc.com หรือติดตามบริษัทของเราบนทวิตเตอร์ได้ที่: @UTC

กรุณาดูภาคผนวกได้ที่นี่:  http://photos.prnasia.com/prnk/20151203/8521508284

ติดต่อ:
Cai Li
+65-6349-5719
Li.Cai@utc.com

Danny Tan
+65-6327-0287
Danny.tan@mslgroup.com

รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20151203/8521508284-a
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20151203/8521508284-b
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20151203/8521508284-c
โลโก้   - http://photos.prnasia.com/prnh/20151203/8521508284logo