เพิ่มสถานที่จัดงาน ณ Barangaroo
ขยายทางเดิน Royal Botanic Garden Sydney กว้างขวางยิ่งขึ้น
Goldfrapp, AIR และ Nick Murphy ร่วมสร้างความบันเทิงให้กับ Vivid Music
Shepard Fairey ศิลปินร่วมสมัยชาวอเมริกัน โชว์ไอเดียสร้างสรรค์ใน Vivid Ideas
รับชมวิดีโอแถลงข่าวการจัดงาน Vivid Sydney 2017 ได้ที่
https://www.vividsydney.com/media-centre
ซิดนีย์--14 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Vivid Sydney เทศกาลแสดงแสงสี ดนตรี และความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กลับมาอีกครั้งอย่างอลังการ ตระการตา และเจิดจรัสยิ่งกว่าที่เคย ด้วยพื้นที่จัดงานใหม่ ณ Barangaroo, ทางเดิน Royal Botanic Garden Sydney ประดับไฟที่ขยายกว้างขึ้นตลอดเส้นทาง พร้อมสัมผัสกับผลงานสร้างสรรค์เหนือจินตนาการที่จะแปลงโฉมอาคาร Sydney Opera House สู่มุมมองใหม่
ตลอด 23 คืน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน Vivid Light จะเนรมิตภูมิทัศน์ของนครซิดนีย์ให้กลายเป็นผืนผ้าใบสุดตระการตา ขณะที่ Vivid Music จะยึดทุกเวทีทั่วเมืองซิดนีย์ด้วยโปรแกรมการแสดงที่อัดแน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์กับกูรูระดับโลก ณ Vivid Ideas
Vivid Sydney อำนวยการผลิตโดย Destination NSW ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและการจัดงานกิจกรรมของรัฐนิวเซาท์เวลส์
Vivid Light
นับเป็นครั้งแรกของงาน Vivid Sydney ที่จะมีการฉายภาพสะท้อน (kaleidoscope) สีสันจัดจ้านสาดส่องทั่วบริเวณจัดงานแห่งใหม่ ณ Barangaroo ด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามตรอกซอกซอย ทัศนียภาพติดแม่น้ำ ไปจนถึงแหล่งรวมอาหารเลิศรส นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำไปกับ A Day in the Light โรงละครแสงสีเสียงกลางแจ้งที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลป์ พร้อมรับชมเรื่องราวในอดีตของย่าน Barangaroo ผ่านการฉายภาพลวงตาที่ Trapdoor
การแสดงประดับไฟจะกลับมาสร้างสีสันให้กับ Royal Botanic Garden Sydney อีกครั้งในปีนี้ ทั้งยังพิเศษยิ่งกว่าเดิม ด้วยทางเดินกว้างขวางขึ้นที่จะนำผู้มาเยือนสู่ใจกลางโอเอซิสริมท่าเรืออันงดงาม ณ ที่แห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมฝูงนก Birds of Lumos แสงสีระยิบระยับราวกับมีชีวิต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Rowi นกกีวีพันธุ์หายากของนิวซีแลนด์ พร้อมร่วมระลึกความหลังไปกับ Dipping Birds ประติมากรรมแสงไฟขนาดยักษ์ 2.5 เมตร ที่จะเปลี่ยนสีขณะจุ่มจะงอยปากลงในบ่อน้ำ อีกทั้งสนุกสนานไปกับงานศิลปะสุดหรรษา You lookin' at me? เมื่อมีดวงตาขนาดใหญ่หลายดวงหันมองตามทุกคนที่เดินผ่านไปมา สำหรับ Sydneyland ซึ่งเป็นป๊อปอัพแลนด์มาร์คที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองนครซิดนีย์นั้น จะมอบฉากหลังสวยๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยว รวมถึงคนในพื้นที่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
สำหรับการแสดงแสงไฟซึ่งถือเป็นหัวใจของงาน Vivid Sydney ได้แก่ การแสดงสุดตระการตา ณ สถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่าง Sydney Opera House ซึ่งในปีนี้ Ash Bolland ผู้กำกับภาพ บรรณาธิการ และนักออกแบบกราฟิกผู้โด่งดัง จะรังสรรค์ให้หลังคารูปทรงเรือใบของ Sydney Opera House เจิดจรัสและเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาจากบรรดาพืชพรรณเหนือจินตนาการ ผ่านการแสดง Audio Creatures ซึ่งจะฉายภาพดอกไม้ใบหญ้าอันพลิ้วไหวสัมพันธ์ไปกับสิ่งรอบข้างอย่างลงตัว
ขณะเดียวกัน สถานที่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของซิดนีย์อย่าง Museum of Contemporary Art จะได้รับการแปลงโฉมโดย Julia Gorman ศิลปินชาวออสซี่ และ Danny Rose ศิลปินและนักออกแบบจากปารีส ด้วยการแสดงศิลปะนามธรรมสีสันจัดจ้าน Organic Vibrations ขณะที่ Dreamscape ซึ่งเป็นการแสดงประดับไฟแบบอินเตอร์แอคทีฟ จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เติมแต่งสีสันลงบนเส้นขอบฟ้าของเมืองซิดนีย์ จากท่าเรือ Circular Quay เรื่อยมาจนถึงทางด่วน Cahill Expressway จนสิ้นสุดที่สะพาน Sydney Harbour Bridge
Sandra Chipchase ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Destination NSW และผู้อำนวยการบริหารการผลิต Vivid Sydney กล่าวว่า "เมื่อปีที่แล้ว งาน Vivid Sydney ทำลายสถิติผู้เข้าชมที่จำนวน 2.31 ล้านคน ซึ่งถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความน่าประทับใจของเทศกาลนี้ ตลอดจนการสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่และการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 9 ปีที่ผ่านมา"
"Vivid Sydney 2017 จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนด้วยโปรแกรมการแสดงสุดตระการตา ที่จัดเต็มทั้ง Vivid Light, Vivid Music และ Vivid Ideas ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่นักท่องเที่ยวควรเริ่มวางแผนเดินทางมายังนครซิดนีย์ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในเทศกาลแห่งแสงสี ดนตรี และความคิดสร้างสรรค์ที่ Vivid Sydney"
แน่นอนว่าการแสดงสุดอลังการ ณ สถานที่ยอดนิยมอย่าง Chatswood, Taronga Zoo, Martin Place และ Darling Harbour จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้
อาคาร ศูนย์การค้า และถนนหนทางในย่าน Chatswood CBD จะได้รับการเนรมิตให้เป็น "Future City, Smart City" เมืองอัจฉริยะในสไตล์ retro-futuristic ซึ่งจะตกแต่งประดับประดาไปด้วยงานศิลป์สุดสร้างสรรค์ และประติมากรรมแสงไฟที่มีกลิ่นอายแบบ 'Steampunk' สะท้อนสุนทรียภาพในการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องจักรไอน้ำในศตวรรษที่ 19
สำหรับการจัดแสดงไฟ Lights for the Wild ที่สวนสัตว์ Taronga Zoo ก็เตรียมเปิดการแสดงอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยมีดาวเด่นเป็นโคมไฟรูปสัตว์ขนาดยักษ์ที่เคยทำให้ทุกคนตกตะลึงมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ตัวใหม่ และเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่จะมาสร้างความประทับใจในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝูงผึ้งตัวน้อย หรือเจ้าฉลามยักษ์ใหญ่แห่ง Port Jackson
Martin Place จะถูกเนรมิตให้เป็นสวรรค์แห่งอาหารและเครื่องดื่มยอดนิยมของซิดนีย์ พร้อมด้วยการจัดแสดงไฟแบบอินเตอร์แอคทีฟสุดอลังการ สำหรับไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้จะเป็นการฉายภาพ 3 มิติระดับรางวัลในชื่อชุด Urban Tree 2.0 และ Deep Forest ซึ่งเป็นเป็นป่าคอนกรีตที่แสนจะลงตัวกับงานเฉลิมฉลอง พร้อมด้วยแคมป์ไฟสำหรับปิ้งบาร์บีคิวจาก Porteno และพ่อครัวฝีมือเยี่ยมของรัฐนิวเซาท์เวลส์
ในบริเวณ Darling Harbour ผู้ชมจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงโชว์น้ำพุ 28 ตันที่จะเริงระบำไปพร้อมกับแสงเลเซอร์ เปลวไฟ ดนตรี และพลุแสนสวย เพื่อเฉลิมฉลองให้กับพลังแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ โดยการโชว์ม่านน้ำ Magicians of the Mist สุดอลังการ จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีและศิลปะที่กำหนดนิยามใหม่แห่งโลกยุคดิจิทัล
Vivid Music
เสียงดนตรีในงาน Vivid Music จะดังกระหึ่มกว่าที่เคย ด้วยการแสดงกว่า 250 รายการในปีนี้ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การแสดงสุดพิเศษจากศิลปินคู่ดูโอ้แนวอิเล็กทรอนิกป๊อปชาวออสซี่อย่าง Goldfrapp และการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Curve Ball งานแสดงศิลปะเคล้าดนตรีสดจาก Fuzzy Music ซึ่งโชว์ทั้งสองรายการนี้จะจัดขึ้นที่บริเวณ Carriageworks
สำหรับงานแสดงดนตรีที่ได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมาอย่าง Heaps Gay, Soul of Sydney, Purple Sneakers และ Tokyo Disco ของ The Argyle ก็พร้อมกลับมาสร้างสีสันอีกครั้งในปีนี้
ขณะที่งาน Vivid LIVE ณ Sydney Opera House จะคัดสรรการแสดงสุดพิเศษที่ไม่ควรพลาดโดยบรรดาศิลปินดังจากทั่วโลก อาทิ วงโฟล์ค-ร็อค Fleet Foxes จากสหรัฐฯ, AIR วงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์จากฝรั่งเศส, นักร้องและนักแต่งเพลงสาวมากความสามารถ Laura Marling จากสหราชอาณาจักร รวมถึงโปรดิวเซอร์และเจ้าของเพลงฮิตติดชาร์ทอย่าง Nick Murphy จากออสเตรเลีย
ด้าน City Recital Hall ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงดนตรีคลาสสิก แต่สำหรับงานนี้ สถานที่แห่งนี้จะนำเสนอการแสดงในชื่อ "Metamorphosis" ที่พร้อมเสิร์ฟดนตรีหลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็นเพลงแจ๊ซ เพลงแดนซ์ ไปจนถึงผลงานดนตรีอันเป็นอมตะ ทั้งนี้ วงดนตรีอินดี้ขาร็อคอย่าง Dappled Cities จะมาเปิดตัวผลงานเพลงอัลบัมใหม่ในชื่อชุด IIIII (ไฟว์) ขณะที่นักร้องเพลงแจ๊ซดีกรีรางวัลแกรมมีอย่าง Dianne Reeves ก็เตรียมขึ้นเวทีพร้อมด้วยการแสดงสุดพิเศษที่จะหาชมจากที่ไหนไม่ได้ ส่วนงาน Sound Bubble Sound Party จะได้ Paul Mac มารับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมสร้างความสนุกสนานให้กับงานปาร์ตี้สุดมันส์
ปีนี้ถือเป็นปีแรกสำหรับ Vivid Music ที่ Vivid Sydney ได้จับมือกับ City of Sydney เพื่อนำเสนอการแสดงอันหลากหลายทั่วทุกมุมเมืองที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเมืองซิดนีย์ที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีได้โชว์ความสามารถ โดยไฮไลท์จะรวมถึงงานแสดงบนชั้นดาดฟ้าจาก Cake Wines,Pie in the Sky และการแสดงจาก Women in Electronic Music ณ Oxford Art Factory
ขณะที่ย่าน Kings Cross จะกลับมาอย่างตื่นเต้นเร้าใจด้วยการแสดงดนตรีและศิลปะ 'Avant Cabaret' รวมถึงการแสดงล้ำสมัย เป็นอิสระ และผสมกลิ่นอายโบฮีเมียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการ Vivid KX
Vivid Ideas
ร่วมสำรวจการพลิกโฉมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไปกับ Vivid Ideas ที่จะมาสร้างความท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจผ่านกิจกรรมกว่า 200 รายการ โดย Shepard Fairey ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกันผู้ทำลายเส้นแบ่งระหว่างศิลปะและการออกแบบ จะเป็นผู้นำทัพ Vivid Ideas ในปีนี้ สำหรับผลงานโดดเด่นของ Fairey นั้นรวมถึงแคมเปญ HOPE ของ Barack Obama โปรเจคงานศิลปะ OBEY GIANT และผลงานระดับโลกในปีนี้อย่างโครงการ "We The People"
พิเศษสำหรับงาน Vivid Sydney เท่านั้น Fairey จะแบ่งปันแนวทางสร้างผลงานศิลปะแบบ DIY ความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ และวิธีการที่เขาเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองจนกลายเป็นวัฒนธรรมสตรีทแบบต้นฉบับ นอกจากนี้ เขาจะสร้างสรรค์งานจิตรกรรมบนฝาผนังขนาดใหญ่ในเขต CBD ของซิดนีย์ และนำเสนอผลงานบางส่วนที่โด่งดังจวบจนปัจจุบันในรูปแบบของนิทรรศการป๊อปอัพ ณ Darling Quarter
สำหรับการประชุมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นทั่วเมืองในปีนี้ จะเปิดโอกาสให้บรรดาสตาร์ทอัพ คนรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจ มาพบปะกับนักสร้างสรรค์และผู้นำทางความคิดระดับโลก โดยไฮไลท์ของการประชุม ได้แก่ The Sunrise ที่เหล่าสตาร์ทอัพจะได้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์จากผู้ก่อตั้งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว, Semi Permanent ที่กลับมาพร้อมการนำเสนอประสบการณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟสมจริง โดยมีผู้นำจาก Getty Images, NIKE, Google และอีกมากมายมาร่วมพูดคุย ปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่เป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวอย่างการแข่งขันหุ่นยนต์ Robowars ซึ่งเหล่าวิศวกรคนเก่งและผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ของประเทศจะนำหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมาประลองกัน
ขณะเดียวกัน งาน Vivid Ideas Exchange ณ Museum of Contemporary Art จะจุดพลังแห่งการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างหลากหลาย นำเสนอโดย Creative Practitioners ซึ่งจะครอบคลุมประเด็นต่างๆ ตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงการสร้างพื้นที่สาธารณะ การเล่าเรื่อง วยาคติ การนำเสนอแผนการตลาด สุขภาพ นวัตกรรม บิ๊กดาต้า และความจริงผสม
ผู้สนับสนุน Vivid Sydney
Vivid Sydney ขอขอบคุณสปอนเซอร์ที่สนับสนุนการจัดงานประจำปีนี้ ได้แก่ Partners Huawei, Ford และ American Express ตลอดจนผู้สนับสนุนอย่าง Allianz, Canon, City of Sydney, NSW Department of Industry, Google, Oracle Liquid, Property NSW, Sensis, Sydney Airport, Sydney Opera House, TAFE NSW, Technical Direction Company และ 32 Hundred Lighting สำหรับพันธมิตรด้าน Access and Inclusion ของ Vivid Sydney คือ Cushman and Wakefield และพันธมิตรด้านความยั่งยืน ได้แก่ Banksia Foundation
สามารถรับชมหรือดาวน์โหลดสื่อวัสดุ โปรแกรมการจัดงาน วิดีโอ และภาพความคมชัดสูงของงาน Vivid Sydney 2017 ซึ่งรวมถึงการแสดงแสงสีเสียง Vivid Sydney 2017 และไฮไลท์ของงาน Vivid Sydney 2016 ได้ที่ www.vividsydney.com/media-centre
สื่อมวลชนติดต่อ:
Katie Lettice, Red Agency
มือถือ: +61 405 470 925
อีเมล: katie.lettice@redagency.com.au
และ/หรือ vivid@redagency.com.au
Kate Campbell, Destination NSW
มือถือ: +61 418 126 211
อีเมล: kate.campbell@dnsw.com.au
Melissa Coates, Destination NSW
มือถือ: +61 419 093 882
อีเมล: Melissa.coates@dnsw.com.au
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20170314/8521701621-a
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20170314/8521701621-b