สิงคโปร์--11 ตุลาคม--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ผลการศึกษาปี 2015 ของยูนิเซฟเผยว่า ปัจจุบันประชากรโลกกว่า 88% สามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัย ทว่าสภาพความเป็นอยู่ยังคงไม่ถูกสุขอนามัย โดยมีประชากรเพียง 39% ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ขณะที่ประชากร 29% แทบเข้าไม่ถึงสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน1 แม้สถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ก็ยังสามารถทำให้ดียิ่งขึ้นได้อีก ด้วยเหตุนี้ บริษัท Dow ซึ่งเพียบพร้อมด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นล้ำสมัย จึงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ด้วยหนึ่งในสุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งศตวรรษในด้านสุขอนามัย นั่นคือ "ผ้าอ้อม" โดย Dow ได้ช่วยให้ผู้ผลิตทั่วโลกสามารถผลิตผ้าอ้อมที่มีคุณภาพดี ปลอดภัย และสวมใส่สบายที่สุดให้แก่ลูกค้า
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมผ้าอ้อมมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่สบาย นุ่ม กระชับ ซึมซับดี สวยงาม รวมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของ Dow จึงอาศัยความก้าวล้ำในด้านวัสดุศาสตร์เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่สบายและนุ่มยิ่งกว่าเดิม เพื่อความคล่องตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย - ประวัติศาสตร์อันยาวนานด้านนวัตกรรมและวิวัฒนาการ
ผ้าอ้อม ผลิตภัณฑ์ที่ติด 1 ใน 100 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งศตวรรษที่ 20 ได้วิวัฒนาการจากใบไม้มาสู่หนังสัตว์ ก่อนจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ถูกสุขลักษณะอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้นำมาสู่การผลิตผ้าฝ้ายราคาถูก และผู้คนเริ่มใช้ผ้าฝ้ายเพื่อสุขอนามัยของทารก อย่างไรก็ตาม ผ้าอ้อมผ้าฝ้ายแบบดั้งเดิมต้องเปลี่ยนบ่อยเพื่อป้องกันการรั่วซึม นอกจากนั้นยังต้องซัก ล้าง ทำความสะอาด และตากให้แห้ง ซึ่งยุ่งยากแต่ก็ต้องทำเพื่อป้องกันการเติบโตของแบคทีเรีย
ผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้งเปิดตัวครั้งแรกในยุค 1930 และได้ผ่านการพัฒนามาตลอดยุค 1980 และ 1990 ปัจจุบัน ผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้งช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หลุดพ้นจากภาระอันเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าหน้าที่หลักของผ้าอ้อมคือการดูดซับของเหลว แต่คุณพ่อคุณแม่ก็พิจารณาปัจจัยอื่นๆร่วมด้วยในการเลือกผ้าอ้อมที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยนอกเหนือจากประสิทธิภาพในการ "ปกป้อง" ลูกน้อยตลอดคืนแล้ว ความสบายขณะสวมใส่และ "สัมผัส" อันอ่อนโยนต่อผิวอันบอบบางของทารกก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ผ้าอ้อมจึงได้รับการพัฒนาในทุกแง่มุมอย่างแท้จริง ตั้งแต่รูปลักษณ์ที่ทันสมัยพร้อมลวดลายแสนน่ารัก ไปจนถึงประสิทธิภาพการปกป้องนานสูงสุด 12 ชั่วโมง
ส่วนใหญ่แล้วผ้าอ้อมจะสวมใส่โดยทารกและเด็กเล็ก แต่ผู้ใหญ่ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้ผ้าอ้อมด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป โดย "ผ้าอ้อมผู้ใหญ่" มักใช้ในหมู่ผู้ที่มีอาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ ผู้ที่มีระดับการรู้สึกตัวจำกัด หรือบกพร่องด้านการเคลื่อนไหว แม้แต่ผู้อาวุโสที่ยังกระฉับกระเฉงก็ยอมรับว่าผ้าอ้อมผู้ใหญ่มอบความรู้สึก "อุ่นใจ" โดยช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างไร้กังวล
ตลาดโตเร็วและมีศักยภาพในระดับโลก
ความสะดวกสบายทำให้ผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้งเป็นที่ต้องการมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง โดยบริษัท Price Hanna ระบุในรายงานสุขอนามัยโลกฉบับล่าสุดว่า ปริมาณผลิตภัณฑ์แผ่นรองซับอนามัยทั่วโลกจะอยู่ที่ราว 6.684 แสนล้านยูนิตในปี 2019 ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 5.8% ต่อปีจากปี 2014 นับได้ว่าเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในตลาดนี้2
เอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นภูมิภาคหลักที่ขับเคลื่อนอุปสงค์ทั่วโลก มีระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยการย้ายถิ่นฐานของคนชนบทเข้าสู่เมือง รวมถึงอำนาจซื้อที่สูงขึ้น ได้ช่วยหนุนตลาดข้าวของเครื่องใช้สมัยใหม่ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สำหรับประเทศจีนนั้น The Economist ได้คาดการณ์ไว้ว่า ประชากรกว่า 1 ใน 3 จะอยู่ในเกณฑ์รายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยภายในปี 2030 ซึ่งจะช่วยหนุนการใช้จ่ายผู้บริโภคสู่ระดับเดียวกับสหภาพยุโรปในตอนนี้ ปัจจุบัน กว่า 90% ของทารกช่วงวัย 0-2 ปีในเมืองขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ของจีนใช้ผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งชี้วัดศักยภาพการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี3 และแนวโน้มดังกล่าวก็เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆในเอเชียเช่นกัน ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดีย
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของ Dow นุ่ม สบาย ระบายอากาศได้ดี
Dow Packaging and Specialty Plastics อาศัยความรู้ ประสบการณ์ และวัสดุอันล้ำสม้ย เพื่อส่งมอบสุดยอดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยที่มาพร้อมประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
ผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้งสมัยใหม่ประกอบด้วยแผ่นต่างๆ 5 ชั้น ได้แก่ แผ่นบนสุด แผ่นกระจายของเหลว แกนดูดซับ แผ่นกันรั่วซึม และแผ่นปิดด้านหลัง โดยแผ่นชั้นบนสุดส่วนใหญ่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์หรือเยื่อบางๆที่มีรูทั่วแผ่น และเป็นชั้นที่สัมผัสผิวโดยตรง ส่วนแผ่นกระจายของเหลวจะช่วยเร่งการดูดซับและการกระจายของเหลว ขณะที่แกนดูดซับผลิตจากเยื่อกระดาษ พอลิเมอร์ซับน้ำ และคอมโพสิตไฟเบอร์ ซึ่งชั้นนี้จะทำหน้าที่ดูดซับและกักเก็บของเหลว ขณะที่แผ่นปิดด้านหลังช่วยป้องกันไม่ให้ของเหลวรั่วซึม ซึ่งในกระบวนการผลิตแต่ละชั้น Dow ได้ใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
Dow มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุใยสังเคราะห์ที่นุ่มคล้ายผ้า โดยมีการใช้ ASPUN™ Fiber Resins เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลและความสบาย ทั้งยังมีความแข็งแรงและไม่ก่อให้เกิดแผลถลอกเช่นเดียวกับผ้าใยสังเคราะห์ bico-spunbond และ mono polyethylene (PE) spunbond นอกจากนี้ Dow ยังได้เปิดตัว ASPUN™ MB Meltblown Fiber Resins ทั่วโลกในปี 2017 ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำพื้นผิวแบบ melt blown และเพิ่มความนุ่มให้แก่ผ้าใยสังเคราะห์ bi-co SMS เพราะฉะนั้น เรซินเหล่านี้ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี INSITE™ จาก Dow และกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร จึงเป็นโซลูชั่นในอุดมคติสำหรับการผลิตผ้าใยสังเคราะห์เพื่อใช้ในผ้าอ้อมเด็ก ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ผ้าทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์สำหรับการกรอง
INFUSE™ Olefin Block Copolymers เป็นเรซินชนิดใหม่ที่ผสานความยืดหยุ่น แข็งแรง และสัมผัสอันอ่อนโยนอย่างลงตัว ทั้งยังซึมซับในระดับที่แต่เดิมคิดว่าโอเลฟินอิลาสโตเมอร์ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ผ้าอ้อมที่กระชับพอดีตัวมีความสำคัญมากสำหรับเด็กทารกที่การเคลื่อนไหวถูกจำกัดด้วยน้ำหนักตัว เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ที่ต้องการการปกป้องอย่างไร้กังวล เพื่อรับประกันประสิทธิภาพการปกป้องและความสบายในเวลาเดียวกัน
INFUSE™ Olefin Block Copolymers สามารถนำไปใช้ผลิตอิลาสติกฟิล์ม อิลาสติกลามิเนต และผ้าใยสังเคราะห์อิลาสติกที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย
DOWLEX™ Linear Low-density Polyethylene Resins และ ELITE™ Enhanced Polyethylene Resins เป็นทางเลือกที่ดีเลิศสำหรับแผ่นปิดด้านหลังทั้งแบบระบายและไม่ระบายอากาศ ขณะที่ผลิตภัณฑ์เด่นอย่าง DOWLEX™ Linear Low-density Polyethylene Resins ช่วยให้แผ่นปิดด้านหลังมีขนาดบางลงโดยไม่เสียประสิทธิภาพโดยรวม ทำให้มั่นใจว่ามีความแข็งแรงและไม่ฉีกขาดง่าย ส่วนทางด้าน ELITE™ Enhanced Polyethylene Resins เป็นวัสดุที่รวมคุณสมบัติความแข็งแรงและความนุ่มไว้ด้วยกัน มาพร้อมความยืดหยุ่น ไม่ฉีกขาดง่าย และซึมซับดีเยี่ยม
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยแห่งอนาคตต้องเชื่อถือได้และตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลได้
ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยมีศักยภาพในการเติบโตทั้งในเชิงปริมาณ คุณภาพ และนวัตกรรม ปัจจุบัน แบรนด์ข้ามชาติกำลังครองตลาดเป็นส่วนใหญ่ แต่ในขณะที่แบรนด์เหล่านี้กำลังพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและเจาะจงมากขึ้น บรรดาแบรนด์เกิดใหม่ก็กำลังพยายามชิงส่วนแบ่งในตลาดเช่นกัน
Dow คือหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรม การดำเนินกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมทั้งในปัจจุบันและอนาคต ส่งผลให้ Dow มีความได้เปรียบในการร่วมมือกับบรรดาผู้ผลิตเพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ขณะเดียวกัน ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดและเทคโนโลยี ประกอบกับความใส่ใจในความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย พร้อมมอบบริการอันเหนือชั้นและการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด
อ้างอิง
1 WHO/UNICEF JMP Progress on Drinking Water, Sanitation and Hygiene: 2017 Update and SDG Baseline
https://www.unicef.org/wash/
2 Price Hanna Report: Global Summary of Hygiene Absorbent Product Volumes by Region (2019 Forecast -- Billions of Product Units in Regions Consumed)
3 China's middle class to rise to more than third of population by 2030, research firm says
https://www.google.com.hk/amp/m.scmp.com/news/china/money-wealth/article/2042441/chinas-middle-class-rise-more-third-population-2030-research%3famp=1
China will be middle-income by 2030, with spending on cars, luxuries, health to rise
https://www.google.com.hk/amp/www.cnbc.com/amp/2016/11/02/china-will-be-middle-income-by-2030with-spending-on-cars-luxuries-health-to-rise.html
®™Trademark of The Dow Chemical Company ("Dow") or an affiliated company of Dow