กรุงเทพฯ--31 ตุลาคม--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Asia Plantation Capital บริษัทจัดการพื้นที่เพาะปลูกระดับรางวัล ได้จัดการประชุมสามัญประจำปี 2560 ขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
คุณแบร์รี รอว์ลินสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ APC Group เป็นผู้กล่าวเปิดการประชุมท่ามกลางเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกในประเทศไทยและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกว่า 400 ชีวิต โดยได้กล่าวถึงผลกระทบของภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่มีต่อภาคเกษตรกรรม ทั้งยังแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อทีมงานของ Asia Plantation Capital ทุกคนที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อจัดการและบรรเทาผลกระทบเชิงลบจากภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวทางปฏิบัติและหลักการผลิตของบริษัท
Asia Plantation Capital ยังคงยึดมั่นในปณิธาน "ความยั่งยืนแบบองค์รวม" โดยตลอดปี 2560 ทางบริษัทได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่เป็นมากกว่าแค่โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยมอบความห่วงใย ความใส่ใจ และกำลังใจให้แก่พนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงและระดับกลาง เรื่อยไปจนถึงเกษตรกรและครอบครัว
คุณจินดา ต้นคำใบ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ Asia Plantation Capital ประจำประเทศไทย ได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรม CSR ที่กำลังดำเนินอยู่ ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินการมาตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งยังประโยชน์ให้แก่ชุมชนหลายแห่ง
ในส่วนของแผนการขยายธุรกิจและเพิ่มจำนวนพื้นที่เพาะปลูกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นนั้น คุณพนิตตา มาตรวังแสง เจ้าหน้าที่ธุรการ ได้อัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ และการสอบทานก่อนซื้อที่ดิน ขณะเดียวกัน คุณภูมิ มาตรวังแสง ตำแหน่งสถาปนิก ได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดทางเทคนิค ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบที่ดิน การวางผังที่ดิน การวางระบบประปา ไปจนถึงการวางระบบบริหารจัดการต้นไม้
คุณสตีฟ วัตส์ ซีอีโอของ Asia Plantation Capital ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ Asia Plantation Capital Berhad (APCB) บริษัทสาขามาเลเซียของ APC Group ซึ่งเน้นไปที่การร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ รวมถึงการวิจัยและพัฒนา โรงงานในมาเลเซียเป็นโรงกลั่นน้ำมันกฤษณาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบัดนี้ได้เริ่มกระบวนการผลิตใหม่ๆ รวมถึงขยายโรงเพาะเลี้ยงและห้องปฏิบัติการที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพน้ำมันกฤษณาและวิธีการผลิต คุณวัตส์ประกาศด้วยว่า APCB กำลังอยู่ในช่วงรอรับหนังสือรับรอง GMP และฮาลาล
หนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ APCB คือ การที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการรับรองอย่างไม่มีเงื่อนไขจากหน่วยงาน Suruhanjaya Syarikat Malaysia (SSM) ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งเทียบเท่ากับ Monetary Authority of Singapore (MAS) ของสิงคโปร์ และ Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร
คุณบุญช่วย จอมคำสี ผู้เชี่ยวชาญด้านการป่าไม้ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการพื้นที่เพาะปลูกและกระบวนการปลูกเชื้อของ APC
ดร.เจยากุมาร์ ผู้ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาการปลูกเชื้อของ Asia Plantation Capital เปิดเผยถึงการเกิดของไม้กฤษณาตั้งแต่ระดับโมเลกุล พร้อมอธิบายถึงความสำคัญของการปลูกเชื้อ นอกจากนั้นยังนำเสนอความคืบหน้าของการวิจัยเกี่ยวกับการแสดงออกของยีนอาร์จินิโนซักซิเนต ซินเธส 1 (ASS1) ในต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรีย ซึ่งถูกควบคุมโดยสัญญาณจากรอยแผลที่เกิดจากกระบวนการปลูกเชื้อ
ขณะเดียวกัน รศ.ดร.ผกามาศ เจษฎ์พัฒนานนท์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ ได้นำเสนอรายงานเกี่ยวกับวิธีการผลิต การประยุกต์ใช้ สรรพคุณทางยา รวมถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นอื่นๆ ของน้ำมันกฤษณา
นอกจากนี้ ผู้ฟังยังได้รับทราบความคืบหน้าของ Fragrance Du Bois จากคุณคลอทิลด์ อองตวน ผู้จัดการฝ่ายแบรนด์และการค้าปลีก โดยแบรนด์น้ำหอมสุดหรูได้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ทั้งยังมีการสร้างความร่วมมือครั้งใหม่และเปิดบูติกใหม่หลายสาขาในปารีส ฮ่องกง มิลาน มาร์เบลลา โดฮา และซูริค รวมถึงแฟลกชิปบูติกที่นครเจนีวา
นอกจากนี้ การย้ายแฟลกชิปบูติกในสิงคโปร์ไปที่ย่านช็อปปิงชื่อดังอย่าง Orchard Road ยังถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นในปี 2560 และดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จในทันทีเมื่อพิจารณาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและแบรนด์ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะเดียวกัน คุณอองตวนได้กล่าวถึงการเปิดตัว Pure Oud Atomiser สุดพิเศษ รวมทั้งเปิดเผยแผนในปีหน้าของ Fragrance Du Bois ที่ครอบคลุมถึงการขยายเครือข่ายบูติกในตะวันออกกลาง (โดยจะมีการเปิดบูติกอย่างน้อย 2 แห่งในดูไบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า) รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาและโปรตุเกส
นอกจากนี้ Asia Plantation Capital ได้ประกาศว่า บริษัทได้ลงนามข้อตกลงจัดหาวัตถุดิบให้กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวน้องใหม่อย่าง Oud Essentials ที่กำลังมาแรงในวงการสกินแคร์
หนึ่งในพันธกิจสำคัญของ Oud Essentials ก็คือการ "พลิกโฉมวงการสกินแคร์" ด้วยการใช้น้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% ซึ่งผลิตตามหลักจริยธรรมและมาจากแหล่งที่ยั่งยืนในทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้พลิกเกมในตลาดสกินแคร์ที่มีการแข่งขันสูงและมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
Oud Essentials บุกเบิกการใช้น้ำมันกฤษณาในผลิตภัณฑ์สกินแคร์เป็นครั้งแรกของโลก ผ่านการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นล้ำสมัย ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะมีมูลค่าประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 10 ปีข้างหน้า โดย Asia Plantation Capital จะจัดหาน้ำมันกฤษณาอันทรงคุณค่าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผลิตและมาจากแหล่งปลูกไม้กฤษณาที่ยั่งยืนให้แก่ Oud Essentials
ในการประชุมสามัญประจำปีนี้ APC Group ได้มอบประกาศนียบัตร 2 ใบให้แก่ Africa Plantation Capital โดยใบหนึ่งมอบให้แก่คุณคอนสแตนตินอส คิโอเลโอกลู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ได้รับรางวัล "Asia Plantation Capital Global Innovation Award 2017" และอีกหนึ่งใบมอบให้แก่คุณเคลวิน คาโลกิ ซิลา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผู้คว้ารางวัล "Asia Plantation Capital Global Leadership Award 2017"
การประชุมสามัญประจำปีปิดฉากลงด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ของคุณแบร์รี รอว์ลินสัน ซีอีโอ APC Group ที่ระบุว่า "ปี 2560 เป็นปีที่ดีสำหรับเราทุกคนที่ Asia Plantation Capital เนื่องจากเราได้เห็นการเติบโตในทิศทางบวกขององค์กร และแม้จะเผชิญความท้าทายมากมาย แต่เราก็สามารถรักษาประสิทธิภาพการดำเนินงาน การเติบโต และทิศทางของธุรกิจทั่วทุกภูมิภาคเอาไว้ได้"
คุณรอว์ลินสันกล่าวสรุปว่า "ในนามของบริษัท ผมขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผู้ถือหุ้น และพนักงานทุกคน สำหรับความทุ่มเทและการสนับสนุนที่มีให้กันตลอดมา"
ข้อมูลสำหรับบรรณาธิการ:
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ซาอาฮิรา มูฮัมหมัด
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และการตลาดอาวุโส
อีเมล: zaahira@asiaplantationcapital.com
โทร. +6012-203-5344
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Asia Plantation Capital Group เป็นผู้ดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างยั่งยืนที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย บริษัทมีโครงการเพาะปลูกใน 4 ทวีป และมีพนักงานกว่า 2,000 คนทั่วโลก สำหรับคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของเราซึ่งเป็นผู้นำในวงการนั้น ประกอบด้วยนักวิชาการระดับแนวหน้าจากนานาประเทศ (จีน ไทย มาเลเซีย อินเดีย สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ที่ร่วมกันพัฒนา รวมทั้งจดสิทธิบัตรระบบและเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม
Asia Plantation Capital ให้ความสำคัญกับโครงการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบบบูรณาการแนวดิ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และการค้า จึงก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จและไม่หยุดนิ่งตามหลักการสร้างความสมดุล 3 ด้าน (Triple Bottom Line)