omniture

ZTE คว้ารางวัล "สุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G" ที่งาน MWC 2018

ZTE Corporation
2018-02-28 14:36 937

เซินเจิ้น, จีน--28 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกด้านโซลูชั่นโทรคมนาคม เทคโนโลยีระดับองค์กร และเทคโนโลยีเพื่อการบริโภคสำหรับแวดวงอินเทอร์เน็ตมือถือ ชนะรางวัล"สุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G" จาก Informa อันเนื่องมาจากนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี 5G แบบครบวงจร ที่มหกรรม Mobile World Congress 2018 ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

ZTE Won "Best Technology Innovation for 5G" Award at MWC 2018
ZTE Won "Best Technology Innovation for 5G" Award at MWC 2018

โซลูชั่น 5G แบบครบวงจรโดยทั่วไปของ ZTE ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่าง ๆ เช่น เครือข่ายการเข้าถึงแบบไร้สาย เครือข่ายหลัก เครือข่าย Bearer ชิปและเทอร์มินัล ซึ่งล้วนตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกที่ต้องการติดตั้งระบบ 5G เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ โซลูชั่นต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นว่า ZTE มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องเครือข่าย 5G และความต้องการเครือข่าย 5G ในอนาคต อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงการมีบทบาทสำคัญของ ZTE ในการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม 5G ให้เติบโต

ZTE เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเทคโนโลยีหลักของระบบ 5G อย่าง Massive MIMO มาใช้ในเครือข่าย 4G ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพสเปกตรัมขึ้นถึง 8 เท่า ในส่วนของความต้องการในการเข้าถึงเครือข่าย 5G โดยมีผู้ใช้ครั้งละมาก ๆ นั้น ZTE ได้นำเสนอโซลูชั่น MUSA โซลูชั่นที่รองรับการใช้งานของผู้ใช้จำนวนมากที่ใช้ทรัพยากรความถี่-เวลาเดียวกันได้ดีขึ้นถึง 3-6 เท่า ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมก็มีการนำเสนอเทคโนโลยี non-orthogonal multiple access (NOMA)

โซลูชั่นดังกล่าวจัดลำดับงานได้อย่างอิสระ และลดการใช้พลังงานเทอร์มินัลได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงที่ 2 ของการทดสอบระบบ 5G ที่จีน ผลปรากฎว่าโซลูชั่น MUSA ของ ZTE ได้รับการเชื่อมต่อถึง 90 ล้านครั้งต่อเมกะเฮิร์ตซ์ต่อชั่วโมง ทิ้งห่างตัวบ่งชี้ที่กำหนดโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และด้วยความเป็นต้นฉบับและความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี MUSA ทำให้ ZTE ในฐานะผู้ออกแบบรายแรก เป็นผู้นำในด้าน 3GPP RAN1 และผ่านโครงการวิจัย NOMA ซึ่งเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรม

ด้วยศักยภาพอันแข็งแกร่งในการออกแบบและพัฒนาชิป ZTE จึงได้นำเสนอ NG BBU ที่ครบเครื่องที่สุดในอุตสาหกรรม รวมไปถึง 5G AAU ที่มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม โดยสถานีฐาน 5G คลื่นความถี่สูงและต่ำที่สร้างขึ้นก่อนนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์นั้น มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการทดสอบระบบ 5G ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ในประเทศจีน

ในส่วนของเครือข่ายหลักในระบบ 5G นั้น ZTE ได้เปิดตัวโซลูชั่นแยกส่วนเครือข่าย 5G แบบครบวงจรเพื่อการสื่อสารทางไกล โดย Cloud ServCore ซึ่งเป็นเครือข่ายหลักสำหรับระบบคลาวด์ 5G นั้น จะใช้เทคโนโลยีหลัก ๆ เช่นส่วนประกอบไมโครเซอร์วิสน้ำหนักเบา เครือข่ายแยกส่วน (Network Slicing) และการผนวกรวมเครือข่ายการเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการก้าวเข้าสู่ยุค 5G ได้อย่างไหลลื่น พร้อมเทคโนโลยีอัลตราแบนด์วิดท์, Internet of Things และธุรกิจใหม่ ๆ อีกมากมาย

สำหรับเทคโนโลยี 5G Bearer โซลูชั่น 5G Flexhaul ของ ZTE ซึ่งต่อยอดมาจากนวัตกรรมเทคโนโลยีที่รองรับการขยายตัวอย่าง FlexE นั้น สนับสนุนการทำงานของเครือข่าย Bearer ที่ผนวกรวมทั้งเทคโนโลยีตัวเก่า สื่อกลาง และระบบ back-haul ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการเครือข่าย 5G Bearer ที่แยกส่วนได้ ทั้งยังประสบความสำเร็จในการผนวกรวมเครือข่าย 3G 4G และ 5G เป็นหนึ่งเดียวด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ตัวชี้วัดศักยภาพโซลูชั่น 5G Flexhaul ของ ZTE ยังอยู่ในระดับผู้นำอุตสาหกรรม โดยมี switching time เพื่อการป้องกันระบบแบบครบวงจรไม่ถึง 1 ms ขณะที่ระยะเวลาแฝงในการฟอร์เวิร์ดโหนดเดี่ยวนั้นก็ต่ำกว่า 0.5 μs

ในขณะเดียวกัน ZTE ยังได้เดินหน้าร่วมงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำหลายราย อาทิ Telefonica และ China Mobile ในการทดสอบสมรรถนะหลากหลายด้าน ซึ่งช่วยยืนยันถึงศักยภาพอันโดดเด่นของโซลูชั่น 5G Flexhaul ในเครือข่าย Bearer ที่ผนวกรวม CPRI / eCPRI ด้วยระยะเวลาแฝงต่ำ และระบบ switching ที่ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โซลูชั่นดังกล่าวตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องโหลดงานได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังช่วยรับมือกับความท้าทายในด้านศักยภาพที่ธุรกิจ 5G ในกลุ่มต่าง ๆ กำลังเผชิญ

ในส่วนของชิปนั้น ZTE ได้เข้ามาบุกเบิกเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ด้วยเทคโนโลยีชิปอัจฉริยะที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นเอง โดยบริษัทได้ทุ่มเทให้กับการปรับระดับการใช้พลังงานและสมรรถนะการทำงาน เพื่อก่อให้เกิดโซลูชั่นชิปชั้นนำในอุตสาหกรรม

สำหรับด้านเทอร์มินัลนั้น ZTE มีแผนเปิดตัวเทอร์มินัลอัจฉริยะที่รองรับเครือข่าย 5G ภายในช่วงปลายปี 2561 หรือช่วงต้นปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ ZTE ขึ้นแท่นซัพพลายเออร์เจ้าแรก ๆ ของโลกที่ให้บริการเทอร์มินัล 5G

ZTE ทุ่มเทพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมทดสอบเทคโนโลยี 5G อย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งยังเป็นผู้นำในด้านการทดสอบศักยภาพของเทคโนโลยี และเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ ทางบริษัทมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการอุปกรณ์ 5G เชิงพาณิชย์รายแรกของโลก เพื่อให้พร้อมรับมือกับยุคของ Internet of Everything ที่กำลังจะมาถึง

เกี่ยวกับ ZTE

ZTE เป็นผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมขั้นสูง อุปกรณ์เคลื่อนที่ และโซลูชั่นเทคโนโลยีระดับองค์กร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ZTE มุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมแบบบูรณาการครบวงจรให้แก่ลูกค้าตามนโยบายของบริษัท เพื่อมอบคุณค่าและความเป็นเลิศในยุคที่เทคโนโลยีโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ZTE จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น (รหัสหุ้นในตลาดฮ่องกง: 0763.HK / รหัสหุ้นในตลาดเซินเจิ้น: 000063.SZ) บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมกว่า 500 ราย ในกว่า 160 ประเทศ ในแต่ละปี ZTE จัดสรรเงินรายได้ 10% ให้กับการวิจัยและพัฒนา ทั้งยังมีบทบาทเป็นผู้นำในองค์กรกำหนดมาตรฐานระดับโลก ทั้งนี้ ZTE ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.zte.com.cn

สื่อมวลชนติดต่อ:

Margaret Ma 
ZTE Corporation 
โทร: +86 755 26775189  
อีเมล: ma.gaili@zte.com.cn 

รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180228/2066937-1

Source: ZTE Corporation
Related Stocks:
HongKong:0763 OTC:ZTCOY Shenzhen:000063
Keywords: Computer Networks Computer/Electronics Internet Technology Telecommunications Telecommunications Carriers and Services Telecommunications Equipment Awards Trade show news
Related News