ฝอซาน, จีน--8 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
คันทรี การ์เด้น โฮลดิ้งส์ (Country Garden Holdings) บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ปรับตัวขึ้นสู่อันดับที่ 143 ในการจัดอันดับ Forbes Global 2000 ประจำปี 2018 ซึ่งมีการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของฟอร์บส์เมื่อไม่นานมานี้ การติดอันดับดังกล่าวในปีนี้ ซึ่งพุ่งทะยานขึ้นถึง 130 อันดับจากปีที่แล้ว รวมทั้งการติดอันดับ Fortune 500 ด้วยนั้น ถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงการเป็นบริษัทระดับโลกของคันทรี การ์เด้น โดยการจัดอันดับบริษัทขนาดใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในโลกนี้พิจารณาจากตัวชี้วัด 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่ รายได้ กำไร สินทรัพย์ และมูลค่าตลาด ด้วยรายได้ 3.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ, กำไร 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, สินทรัพย์ 1.612 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าตลาด 4.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ คันทรี การ์เด้น ประสบความสำเร็จในการขยับอันดับขึ้นสู่ 200 อันดับแรกร่วมกับบรรดาบริษัทชั้นนำของโลกรายอื่น ๆ
ปีที่ผ่านมา คันทรี การ์เด้น (2007.HK) มียอดขายที่ทำสัญญาแล้ว 5.508 แสนล้านหยวน (ประมาณ 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรม บริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแง่ของการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และมูลค่าของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น พิสูจน์ได้จากการที่บริษัทพุ่งขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 273 ในการจัดอันดับของฟอร์บส์ในปี 2017 นอกจากนี้ บริษัทยังติดอันดับ Fortune 500 อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งถูกรวมอยู่ในหุ้นกลุ่มบลูชิพของดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกง ตลอดจนได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือสู่ระดับน่าลงทุน โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก
สำหรับในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ คันทรี การ์เด้น มียอดขายที่ทำสัญญาแล้ว 2.5752 แสนล้านหยวน (ประมาณ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) รักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้อย่างเหนียวแน่น ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมของบริษัทยังสะท้อนให้เห็นในตลาดทุน ด้วยราคาปิดตลาดสูงสุดภายในเดือนล่าสุดที่ 17.34 ดอลลาร์ฮ่องกง ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งขึ้นเป็นเกือบ 3.77 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 302% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของตลาดซึ่งอยู่ที่ 42%
บริษัทหลักทรัพย์ BOC International ชี้ว่า เมืองชั้นสามและชั้นสี่ของจีนจะยังคงเป็นพื้นที่ที่มียอดการซื้อขายมากที่สุด เนื่องจากสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ผ่อนคลายลง และราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำลง นอกจากนี้ ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่อยู่ในระดับสูงของคันทรี การ์เด้น ทำให้เป็นเรื่องง่ายมากขึ้นที่บริษัทจะได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยดังที่กล่าวมา BOC International จึงยังคงคำแนะนำ "buy" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 25.12 ดอลลาร์ฮ่องกง ขณะที่ JPMorgan ยังคงน้ำหนักการลงทุน "overweight" ราคาเป้าหมาย 24.2 ดอลลาร์ฮ่องกง พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะสามารถเติบโตต่อไปได้ในปี 2019 ในแง่ของขนาด และมีกำไรเติบโตไปจนถึงปี 2021
