MCU ตระกูลใหม่ชูคุณสมบัติกินไฟต่ำ พร้อมการสัมผัสแบบคาปาซิทีฟ (Capacitive Touch) ที่ทนทานต่อสิ่งรบกวนประเภทหยดน้ำและสัญญาณรบกวน
กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ปัจจุบันอุปกรณ์ปลายทาง Internet of Things (IoT) มีจำนวนเพิ่มขึ้นสูงมาก ขณะที่ความปลอดภัยในบางครั้งก็เป็นเรื่องที่นักออกแบบหลายรายมองเป็นเรื่องรอง ส่งผลให้ทุกวันนี้มีความเสี่ยงมากขึ้นที่ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) และข้อมูลอ่อนไหวอื่น ๆ อาจรั่วไหลออกไป ดังนั้น เพื่อรองรับความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้ บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด จึงขอแนะนำ MCU ตระกูลใหม่ ได้แก่ SAM L10 และ SAM L11 ที่พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.microchip.com/SAML11
MCU ตระกูลใหม่ทำงานบนหน่วยประมวลผล Arm® Cortex®-M23 โดยตระกูล SAM L11 มาพร้อมกับ Arm TrustZone® for Armv8-M ซึ่งภาพรวมการพัฒนาแบบโปรแกรม มีการแยก Hardware, Certificate Library, IP และ Application code ไมโครชิพได้ มอบความปลอดภัยอันเป็นเลิศ ด้วยการผนวกรวมคุณสมบัติ Tamper Resistance ระดับชิป, ฟีเจอร์ Secure Boot และหน่วยเก็บข้อมูล Key Storage ที่มีความปลอดภัย ซึ่งเมื่อผสานเข้ากับเทคโนโลยี TrustZone แล้ว ก็จะช่วยปกป้องแอพพลิเคชันของลูกค้าจากการโจมตีทั้งจากระยะไกลและระยะประชิด
MCU ใหม่ทั้งสองตระกูลนำเสนอคุณสมบัติกินไฟน้อยที่สุดในอุตสาหกรรม ทั้งยังรองรับการสัมผัสแบบคาปาซิทีฟ(Capacitive Touch)ที่ทนน้ำและสัญญาณรบกวนอย่างเป็นเลิศ เมื่อประเมินผลการกินไฟแล้วพบว่า SAM L10 ทำคะแนน ULPMark™ ได้ 405 ซึ่งให้ประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่า 200% เทียบกับชิปของบริษัทอื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันและได้รับการรับรองจาก EEMBC® (Embedded Microprocessor Benchmark Consortium) โดยไมโครชิพใช้เทคโนโลยีกรรมสิทธิ์ของบริษัทอย่าง picoPower® เพื่อมอบคุณสมบัติการกินไฟต่ำในโหมด Active และโหมด Sleep ทั้งหมด
"บ่อยครั้งที่อุปกรณ์ปลายทาง IoT จำเป็นต้องกินไฟต่ำ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความปลอดภัยสูง" ร็อด เดรก รองประธานหน่วยธุรกิจ MCU32 ของไมโครชิพ กล่าว "อย่างไรก็ดี การเติบโตของจำนวนโหนด IoT นั้นกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประเด็นเรื่องความปลอดภัยอาจถูกมองข้ามไป ฟีเจอร์ของ SAM L11 จึงเป็นสิ่งที่ลูกค้าจำเป็นต้องมี เพื่อวางแผนด้านความปลอดภัยในวงจรการออกแบบตั้งแต่เนิ่น ๆ"
นอกเหนือจากเทคโนโลยี TrustZone แล้ว ฟีเจอร์ความปลอดภัยของ SAM L11 ยังประกอบด้วยโมดูลการเข้ารหัสแบบ on-board ที่รองรับ Advanced Encryption Standard (AES), Galois Counter Mode (GCM) และ Secure Hash Algorithm (SHA) ขณะที่ฟีเจอร์ Secure Boot และหน่วยเก็บข้อมูล Key Storage ที่มีความปลอดภัยพร้อมคุณสมบัติตรวจจับการพยายามเจาะข้อมูลนั้น จะเป็นตัวสร้าง Root of Trust (RoT) ในฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Bootloader เพื่อให้อัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้อย่างปลอดภัยด้วย โดยไมโครชิพได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสมาชิกโครงการ Security Design Partner Program ของไมโครชิพอย่าง Trustonic เพื่อนำเสนอเฟรมเวิร์คโซลูชั่นความปลอดภัยอย่างครอบคลุม ที่ช่วยลดความยุ่งยากในการควบคุมดูแลความปลอดภัยตามแผนงาน และเปิดโอกาสให้ลูกค้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดได้เร็วขึ้น และไมโครชิพยังได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Secure Thingz และ Data I/O Corporation เพื่อให้บริการ Provisioning ที่มีความปลอดภัยแก่ลูกค้า SAM L11 ที่มีเฟรมเวิร์คดูแลความปลอดภัยที่ทดสอบแล้ว
MCU ใหม่ทั้งสองตระกูลมาพร้อมกับ Peripheral Touch Controller (PTC) รุ่นใหม่ล่าสุดของไมโครชิพ เพื่อรองรับการสัมผัสแบบคาปาซิทีฟ (Capacitive Touch) ซึ่งนักออกแบบสามารถเพิ่มอินเทอร์เฟซการสัมผัสได้โดยง่าย เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ แม้มีความชื้นและสัญญาณรบกวน แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติกินไฟต่ำ อินเทอร์เฟซการสัมผัสนี้ทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวเหมาะกับการใช้งานหลากหลายประเภท ทั้งยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ ไปจนถึง Human Machine Interface (HMI) สำหรับผู้บริโภค
การสนับสนุนการพัฒนา
ชุดอุปกรณ์ SAM L10 และ SAM L11 Xplained Pro Evaluation Kits พร้อมสนับสนุนการเริ่มต้นพัฒนา โดย MCUs ทั้งหมดในตระกูล SAM L10/L11 รองรับการทำงานร่วมกับ Atmel Studio 7 Integrated Development Environment (IDE), IAR Embedded Workbench, Arm Keil® MDK รวมไปถึง Atmel START ซึ่งเป็นเครื่องมือออนไลน์ที่เปิดให้ใช้ฟรี สำหรับการกำหนดค่าอุปกรณ์เสริมและซอฟต์แวร์ที่ช่วยเร่งการพัฒนา นอกจากนี้ START ยังสนับสนุนเทคโนโลยี TrustZone เพื่อการกำหนดค่าและเริ่มการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือดีบักเกอร์และตัววิเคราะห์ข้อมูล เพื่อติดตามและวิเคราะห์การใช้พลังงานในแบบเรียลไทม์ และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้อย่างปัจจุบันทันด่วนเพื่อตอบสนองการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ไมโครชิพยังนำเสนอ QTouch® Modular Library, 2D Touch Surface Library และ QTouch Configurator เพื่อช่วยให้การพัฒนาการสัมผัสเป็นเรื่องง่าย
การวางจำหน่าย
อุปกรณ์ SAM L10 และ SAM L11 มีจำหน่ายแล้ววันนี้ โดยมีจำนวน pin และแพคเกจให้เลือกหลากหลาย สำหรับการสั่งซื้อในปริมาณมาก
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อพนักงานขายหรือตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกที่ได้รับแต่งตั้งจากไมโครชิพ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของไมโครชิพ และสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้ที่ microchipDIRECT ซึ่งเป็นช่องทางบริการอย่างเต็มรูปแบบของไมโครชิพ หรือติดต่อตัวแทนจัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจากไมโครชิพ
แหล่งข้อมูลและภาพ
สามารถดูรูปภาพความละเอียดสูงได้ที่ Flickr หรือติดต่อกองบรรณาธิการ (สามารถนำไปเผยแพร่ได้ตามสะดวก):
เกี่ยวกับ ไมโครชิพ เทคโนโลยี
บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด (NASDAQ: MCHP) เป็นผู้นำด้านการจัดหา Solution ของไมโครคอนโทรลเลอร์ วงจรรวมแบบผสมสัญญาณ แอนะล็อก และแฟลช-ไอพี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนโดยรวมของทั้งระบบ และยังช่วยลดระยะเวลาการออกแบบและพัฒนาของลูกค้าในตลาดทั่วโลกกว่าพันราย สำนักงานใหญ่ของไมโครชิพตั้งอยู่ที่เมืองแชนด์เลอร์ รัฐแอริโซนา บริษัทนำเสนอการสนับสนุนด้านเทคนิคที่เป็นเลิศ พร้อมกับการขนส่งและคุณภาพที่เชื่อถือได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของไมโครชิพที่ www.microchip.com
หมายเหตุ: ชื่อและโลโก้ The Microchip, โลโก้ Microchip, picoPower และ QTouch เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่นทั้งหมดที่ระบุถึงในข่าวฉบับนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทที่เป็นเจ้าของ
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180524/2141188-1