ปักกิ่ง--29 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
การประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งที่ 2 ในหัวข้อเส้นทางสายไหมดิจิทัล ถูกจัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง
การประชุมว่าด้วยเรื่องเส้นทางสายไหมดิจิทัล จัดโดยคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน (NDRC) และ Cyberspace Administration of China ร่วมกับ Facilitating Center for Building the Belt and Road of the NDRC, China Center for Innovation-Driven Development of the NDRC และ International Cooperation Center (ICC) of the NDRC ภายใต้การสนับสนุนของ China Center for Urban Development of the NDRC และ China Economic Information Service (CEIS) ในเครือสำนักข่าวซินหัว
งานประชุมครั้งนี้มีผู้มาร่วมงานกว่า 200 คนจากเกือบ 30 ประเทศ รวมถึง คิวบา อียิปต์ ฝรั่งเศส เซอร์เบีย และประเทศอื่นๆ ภายใต้แนวคิด "การร่วมกันสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัลแห่งศตวรรษที่ 21"
ระหว่างการประชุม เหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลและตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศหลากหลายแห่งได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลกันอย่างกระตือรือร้น
นอกจากนี้ บริษัทกว่า 15 แห่ง จาก 8 ประเทศ รวมถึง ZTE Corporation และ Nigerian Television Authority ก็ได้จัดพิธีลงนามแลกเปลี่ยนสัญญาโครงการความร่วมมือใหม่ๆ จำนวน 8 โครงการ ภายในงานนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน ในงานยังมีการเปิดตัวสมุดอัลบั้มภาษาจีน-อังกฤษที่มุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างประเทศในการสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัลออกมาเป็นครั้งแรก
สำหรับสมุดอัลบั้มสองภาษาที่มีชื่อว่า Digital Tech Lighting the Silk Road นี้เป็นข้อมูลจาก Xinhua Silk Road Database ซึ่งรวบรวมมาร่วมกับ Department of Innovation and High-Tech Development ภายใต้การสนับสนุนของ National Development and Reform Commission (NDRC), Bureau of Information Technology Development of Cyberspace Administration of China และ China Economic Information Service of Xinhua News Agency เพื่อนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัลใน 9 ประเด็น และบอกเล่าถึงแนวโน้มที่ไม่อาจต้านทานได้ของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและโลกาภิวัตน์ ความปรารถนาของผู้คนในการแบ่งปันความรู้และเทคโนโลยี รวมถึงความปรารถนาดีเพื่อชีวิตที่ดีและการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จาก NDRC ระบุว่า "การก่อสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัลนี้ต้องอาศัยความพยายามในการสร้างความมีส่วนร่วมทางสังคมและความร่วมมือจากนานาประเทศมากขึ้น ซึ่งรวมถึงความมุ่งมั่นอันลึกซึ้งในแง่ของการแลกเปลี่ยนนโยบาย การอภิปราย และความร่วมมือที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น"