กรุงเทพฯ—17 ก.ย.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง (Central JD Fintech Holding) ธุรกิจร่วมทุนระหว่างผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเจดี ดิจิตส์ (JD Digits) กับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของไทยอย่างกลุ่มเซ็นทรัล ได้ประกาศเปิดตัวดอลฟิน แพลตฟอร์มอัจฉริยะ (Dolfin Intelligent Platform) อย่างเป็นทางการ โดยเป็นแอปที่นำเสนอโซลูชันทางการเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดไทยโดยเฉพาะ
ดอลฟิน แพลตฟอร์มอัจฉริยะ ประกอบด้วยแพลตฟอร์มบริการอัจฉริยะอันครบครัน 5 รายการด้วยกัน ได้แก่ บริการธุรกรรมอัจฉริยะ สินเชื่อดิจิทัล ประกันดิจิทัล บริการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล และบริการทำการตลาดดิจิทัล มุ่งตอบโจทย์เทรนด์และความต้องการในตลาด พร้อมมอบความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้นแก่ผู้ใช้ทั้งรายย่อยและภาคธุรกิจ
บริการแรกที่เปิดตัวผ่านแอปดอลฟินนี้ เป็นบริการชำระเงินดิจิทัลและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นบริการที่จะเข้ามาพลิกวงการ เพราะเป็นแพลตฟอร์มแรกในไทยที่ใช้เทคโนโลยี eKYC (electronic Know-Your-Customer) มาใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้บริการ ซึ่งผสานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเข้ากับเทคโนโลยีการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (OCR) เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ถึงขีดสุด
นอกจากนี้ ยังเป็นแอปพลิเคชันแรกที่รองรับระบบชำระเงินแบบ open-loop สำหรับการเติมเงินและการชำระเงินออนไลน์ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินด้วยเงินสด การเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต บัตรเครดิต รวมถึงการรับชำระที่จุดพร้อมเพย์และดอลฟิน ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินแต่ละครั้งด้วยเทคโนโลยี Dynamic QR Code ที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับแต่ละยอดการใช้จ่าย
ดอลฟิน รองรับการใช้งานตามจุดรับชำระเงินดิจิทัล 2,700 จุดทั่วประเทศตามร้านค้าปลีกสาขาต่าง ๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทั้งยังรองรับการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านพร้อมเพย์ ณ จุดพร้อมเพย์ราว 4.5 ล้านจุด นอกจากนี้ เครือข่ายผู้ค้าปลีกที่รองรับยังครอบคลุมผู้ค้าบนแพลตฟอร์มของธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทยด้วย ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มจะเดินหน้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์รายใหม่ ๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ต่อไปทั่วประเทศไทย
การเปิดตัวแอปดอลฟิน เป็นการส่งสัญญาณจากเจดี ดิจิตส์ ในการบุกตลาดโลก เพื่อแสดงผลลัพธ์ที่เจดี ดิจิตส์ และเทคโนโลยีของบริษัท มีต่อการพัฒนาวงการฟินเทคในตลาดสากล นอกจากนี้ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยระดับเวิลด์คลาส
อีวอลเลตแรกที่ใช้เทคโนโลยี eKYC
ดอลฟิน เป็นบริการอีวอลเลตแรกในไทยที่ใช้เทคโนโลยี eKYC ในการยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้งาน เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเจดี ดิจิตส์ และเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง โดยจะเข้ามาพลิกขั้นตอนการยืนยันตัวตนแบบออฟไลน์ที่ใช้เวลานาน ให้มาอยู่ในรูปแบบออนไลน์ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานขุมพลังของเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (Optical Character Recognition)
สำหรับการพัฒนาแอปดอลฟิน ทางเจดี ดิจิตส์ เป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีการชำระเงิน ระบบป้องกันการฉ้อโกงและฟอกเงิน ข้อมูลเจาะลึกอุตสาหกรรม เทคโนโลยีจดจำใบหน้า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลวิเคราะห์บิ๊กดาต้า ตลอดจนบริการทางเทคนิคที่ปรับให้ตอบโจทย์ตลาดไทยโดยเฉพาะ บริษัทได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง เพื่อปรับขั้นตอนเหล่านี้ให้สอดรับกับของไทย และปรับประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ส่งผลให้ดอลฟิน กลายเป็น "ม้ามืด" ขึ้นนำตลาดชำระเงินผ่านมือถือในไทย และคาดว่าจะได้รับความนิยมจนเติบโตต่อเนื่องในไทย เมื่อมีการเปิดตัวบริการอัจฉริยะเพิ่มเติมอีกในอนาคต
พันธมิตรร่วมลงทุนอย่างกลุ่มเซ็นทรัล ได้ร่วมมือเพื่อมอบการใช้งานดอลฟินในร้านค้าปลีกหลายแห่ง โดยร้านค้าปลีกเกือบ 3,000 แห่งในเครือเซ็นทรัล ซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท จะเริ่มรองรับการใช้งานดอลฟิน นอกจากนี้ รอยัลตี้โปรแกรมของเครือเซ็นทรัลอย่าง T1 ก็จะมีการลิงก์เข้ากับระบบการชำระเงินดอลฟินอีกด้วย
นอกเหนือจากระบบการชำระเงินแบบออฟไลน์แล้ว ดอลฟินยังรองรับการชำระเงินในเจดี เซ็นทรัล แพลตฟอร์มค้าปลีกของไทยซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง JD.COM กับกลุ่มเซ็นทรัล โดยในอนาคต ดอลฟินวางแผนที่จะผนึกกำลังกับร้านค้าปลีกทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงธนาคารต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์
ดอลฟินเป็นแอปพลิเคชันแรกของประเทศไทย ที่ใช้ระบบการชำระเงิน open-loop อย่างเต็มรูปแบบ รองรับทั้งการเติมเงินด้วยเงินสด เชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต บัตรเครดิต รวมถึงบริการโอนเงินต่างธนาคารของไทยอย่าง "พร้อมเพย์" และการชำระเงินผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด
นอกเหนือจากการตั้งเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้าชาวไทยแล้ว แอปดอลฟินยังมีระบบการวิเคราะห์จาก AI และบิ๊กดาต้าที่จะช่วยทำการตลาดให้กับผู้ค้า โดยจะเปิดทางให้ผู้ค้าเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้ามากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ พร้อมพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
แม้ร้านค้าออฟไลน์ในไทยส่วนใหญ่ใช้เงินสดในการชำระเงิน แต่ความต้องการของลูกค้าในด้านการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อปี 2560 รัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างสังคมไร้เงินสด ทั้งนี้ การเปิดตัวดอลฟินถือเป็นสัญญาณสำคัญว่า เจดี ดิจิตส์ กำลังช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
กลยุทธ์เด็ดของเจดี ดิจิตส์ ในการสยายปีกสู่ตลาดโลก
"รายงานภาพรวมฟินเทคของประเทศไทย" โดยเอินส์ทแอนด์ยัง (EY) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก ระบุว่า ประเทศไทยมีกลุ่มคนที่มีบัญชีแต่ยังนิยมใช้เงินสดหรือเช็คเงินสด (underbanked) และมีอัตราการใช้มือถือและอินเทอร์เน็ตสูงอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ พื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์มหภาคยังแข็งแกร่งด้วย ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยหนุนให้ประเทศไทยเตรียมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางฟินเทคแห่งต่อไปของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เจดี ดิจิตส์ ได้รุกเข้าสู่ตลาดไทยในปี 2560 ผ่านความร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่ได้ร่วมก่อตั้งธุรกิจร่วมทุนเพื่อรองรับตลาดฟินเทคในไทย โดยทั้งสองได้มอบโซลูชันเทคโนโลยีทางการเงินที่มีความล้ำสมัยยิ่งกว่าสู่ตลาดของไทย ด้วยเป้าหมายที่จะมอบบริการการเงินที่สะดวกสบายและมีความปลอดภัยให้กับลูกค้า
การรุกธุรกิจเข้าสู่ตลาดโลกถือเป็นเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเจดี ดิจิตส์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และทางบริษัทได้ทุ่มลงทุนอย่างหนักทั้งในแง่เงินทุน ทรัพยากร เทคโนโลยี และบุคลากรมากความสามารถ ในการสนับสนุนการเดินหน้ากลยุทธ์นี้ ปัจจุบัน เจดี ดิจิตส์ มีการดำเนินงานในอินโดนีเซีย ไทย และฮ่องกง พร้อมเดินหน้าบ่มเพาะธุรกิจที่มีความสร้างสรรค์ รวมถึงค้นหาโมเดลในการร่วมมือกับองค์กรนานาชาติด้วยความเปิดกว้าง เท่าเทียม และโปร่งใส เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพออกสู่ตลาดโลก
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20190917/2582964-1?lang=0