omniture

"เซนต์คิตส์และเนวิส" ขึ้นแท่นประเทศที่ขอสัญชาติผ่านการลงทุนได้เร็วที่สุดในโลก

The Government of St Kitts and Nevis
2020-09-09 12:52 411

บาสแตร์, เซนต์คิตส์และเนวิส

9 กันยายน 2563

/PRNewswire/ -- รายงานฉบับใหม่ที่เผยแพร่โดยนิตยสาร Professional Wealth Management ในเครือ Financial Times ระบุว่า สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส เป็นประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ (CBI) ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากมีกระบวนการมอบสัญชาติที่รวดเร็ว ทำให้เป็นโปรแกรมที่มีความแน่นอนและเอื้อต่อการขอสัญชาติทั้งครอบครัว ผ่านการมอบข้อเสนอพิเศษในเวลาจำกัด

St Kitts and Nevis stood out in the 2020 CBI Index for its CBI Programme’s robust vetting procedures, convenient travel and residence requirements, and for offering a safe and reliable product.
St Kitts and Nevis stood out in the 2020 CBI Index for its CBI Programme’s robust vetting procedures, convenient travel and residence requirements, and for offering a safe and reliable product.

รายงาน CBI Index ปี 2563 ระบุว่า โปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส ครองอันดับหนึ่งหรืออันดับหนึ่งร่วมในด้านกระบวนการขอสัญชาติที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน การตรวจสอบที่เชื่อถือได้ และความแน่นอนของโปรแกรม อันเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 36 ปี นอกจากนั้นยังได้คะแนนสูงสุดเพราะไม่บังคับว่าต้องท่องเที่ยวหรืออาศัยอยู่ในประเทศก่อนขอสัญชาติ

CBI Index กล่าวถึงข้อเสนอพิเศษในเวลาจำกัดของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส ที่เปิดโอกาสให้ครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เกิน 4 คนสามารถขอสัญชาติผ่านการลงทุนในกองทุนมูลค่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่ต้องลงทุนถึง 195,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ รายงานยังเน้นย้ำว่านักลงทุนให้ความสำคัญมากขึ้นกับการขอสัญชาติให้ครอบครัว โดยสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสอนุญาตให้สมาชิกในครอบครัวรุ่นต่อไปสามารถถือสัญชาติได้

ดร.ทิโมธี แฮร์ริส นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส กล่าวว่า "สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสไม่ใช่แค่สวรรค์สำหรับนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านที่อบอุ่นสำหรับลูกหลานของนักลงทุนด้วย เราสร้างบ้านเมืองที่ปลอดภัยและทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ เรายังลงทุนด้านการศึกษาและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของเรายังคงแข็งแกร่งแม้เผชิญแรงกระแทกจากภายนอกอย่างการระบาดใหญ่ทั่วโลก"

เลส คาห์น ซีอีโอของโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส กล่าวว่า "เรายังคงโฟกัสไปที่สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน พร้อมกับรักษา "มาตรฐานระดับแพลทินัม" ของเราเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เรามอบข้อเสนอพิเศษในเวลาจำกัดในช่วงที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความมั่นคงของครอบครัวมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจให้นักลงทุนสามารถขอสัญชาติให้สมาชิกในครอบครัวได้อีกไม่เกิน 3 คน ในเงินลงทุนจำนวนเท่ากับการขอสัญชาติเพียงคนเดียว"

ภายใต้กระบวนการขอสัญชาติที่รวดเร็ว นักลงทุนสามารถรับสัญชาติและพาสปอร์ตภายใน 60 วัน โดยผู้ขอสัญชาติต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบหลายระดับ ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทางโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสจึงเปิดโอกาสให้บุคคลที่ได้รับอนุญาตสามารถยื่นคำร้องผ่านทางออนไลน์ได้เป็นการชั่วคราว แต่จะยังไม่ออกใบอนุญาตให้จนกว่าจะได้รับคำร้องฉบับจริงในภายหลัง

เมื่อการขอสัญชาติเสร็จสมบูรณ์ พลเมืองทางเศรษฐกิจจะได้รับสิทธิ์ในการพำนัก ทำงาน และศึกษาในสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส ทั้งยังได้รับสิทธิ์เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังเกือบ 160 ประเทศและดินแดน รวมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมทั้งหมดเช่นเดียวกับพลเมืองท้องถิ่น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสได้ที่เว็บไซต์ 

อีเมล: ciuunitskn@gmail.comwww.ciu.gov.kn

รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/1249823/st_kitts_and_nevis__2020_cbi_index.jpg?p=medium600 

Source: The Government of St Kitts and Nevis
Keywords: Banking/Financial Service Publishing/Information Service Travel Awards Survey, Polls & Research
Related News