ปักกิ่ง, 15 ต.ค. 2020 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- UN Broadband Commission และ Huawei จัดงาน Ultra-Broadband Forum (UBBF 2020) ครั้งที่ 6 แบบออนไลน์ที่กรุงปักกิ่ง ในธีม "การเชื่อมต่ออัจฉริยะ คุณค่าใหม่ร่วมกัน" (Intelligent Connectivity, New Value Together) โดยงาน UBBF ปีนี้พูดคุยกันถึงความท้าทายและโอกาสต่างๆ ที่อุตสาหกรรมการเชื่อมต่อกำลังเผชิญอยู่ในยุคอัจฉริยะ
ในอีเวนต์ดังกล่าว David Wang กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการประเมินการลงทุนของ Huawei กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "การสร้างระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะสำหรับโลกอัจฉริยะ" โดย Mr. Wang ยังได้เปิดตัวโซลูชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะในทุกสถานการณ์ ซึ่งบรอดแบนด์ในบ้านจะเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจที่สร้างประสบการณ์ใหม่ ขณะที่กระบวนการทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่างๆ จะเร่งตัวเร็วขึ้น
อุตสาหกรรมการเชื่อมต่อจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้น 5 ประการ
ทุกๆ การเชื่อมต่อที่ยกระดับขึ้นจะเปลี่ยนแปลงสังคมโดยพื้นฐาน ปัจจุบันในขณะที่เราก้าวสู่ยุคอัจฉริยะนั้น ผู้คน บ้าน และองค์กรต่างก็วางข้อกำหนดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น คลาวด์ และ AI กำลังผสานกับระบบเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว สิ่งนี้กำลังนำอุตสาหกรรมการเชื่อมต่อสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้น 5 ประการ ได้แก่
การเปลี่ยนแปลงที่ 1: จาก IoT และ IoT อัจฉริยะ สู่ Intelligent Twins ที่เชื่อมต่อถึงกัน
ในอดีต เราตั้งเป้าเชื่อมต่อทุกคนและบ้านเข้าด้วยกัน นี่คืออินเทอร์เน็ตของทุกสิ่ง ในขณะที่เราแสวงหาชีวิต AI ที่ไร้รอยต่อและการอัปเกรดระบบอัจฉริยะขององค์กร เราจำเป็นต้องเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ มากขึ้นกับระบบอัจฉริยะ นี่ก็คืออินเทอร์เน็ตอัจฉริยะของทุกสิ่ง จากการคาดการณ์ขององค์กรอิสระ พบว่า จำนวนการเชื่อมต่อทั่วโลกจะแตะตัวเลข 1 ล้านล้านภายในปี 2035 ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ครอบคลุมแพร่หลายเป็นความจริงขึ้นมาได้
การเปลี่ยนแปลงที่ 2: จากสำนักงานสู่ สำนักงาน + การผลิต
โควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงความต้องการด้านบรอดแบนด์ในบ้านของผู้คน ขณะที่ภายใต้เงื่อนไขระดับองค์กรนั้น การเชื่อมต่อเป็นมากกว่าการบริการสำนักงาน สู่การบริการทั้งสำนักงานและการผลิต การให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบดิจิทัลระดับองค์กรได้เปลี่ยนแปลงจากสำนักงานดิจิทัลสู่การผลิตดิจิทัล ธุรกรรมดิจิทัล และการดำเนินงานดิจิทัล
การเปลี่ยนแปลงที่ 3: จากความพยายามที่ดีที่สุดสู่บริการที่ตอบโจทย์และแตกต่าง
อุตสาหกรรมมีความแตกต่างในแง่เงื่อนไขการให้บริการและข้อกำหนดในการเชื่อมต่อ หากการบริการที่แตกต่างเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว ประสบการณ์ที่กำหนดเองก็เป็นข้อบังคับที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นโอเปอเรเตอร์จึงทำได้เพียงเปิดประตูสู่ตลาดแนวดิ่งโดยการจัดหาบริการที่แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะ
การเปลี่ยนแปลงที่ 4: จาก Mbps สู่ Gbps ผ่านสื่อกลางใดก็ได้
มีเทคโนโลยีการเข้าถึงที่หลากหลายอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงเทคโนโลยีเซลลูลาร์, Wi-Fi และใยแก้วนำแสง ซึ่งความหลากหลายของเงื่อนไขการบริการบ่งบอกว่าเทคโนโลยีการเข้าถึงที่หลากหลายนี้จะคงอยู่ร่วมกันอย่างต่อเนื่องในหลายปีข้างหน้า ด้วยความพยายามร่วมกันของอุตสาหกรรม เทคโนโลยี 4G, 5G, Wi-Fi และไฟเบอร์สามารถมอบการเชื่อมต่อระดับกิกะบิตที่ครอบคลุมในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงที่ 5: จากการทำ O&M ด้วยตนเอง สู่ระบบอัตโนมัติขั้นสูง
ระบบ 5G จะทำให้การดำเนินงานและดูแลรักษา (O&M) เครือข่ายมีความซับซ้อนกว่าของ 4G ซึ่งการทำ O&M ด้วยตนเองจะไม่สามารถจัดการกับความซับซ้อนใหม่ๆ เหล่านี้ได้ และกรุยทางสู่ระบบอัตโนมัติขั้นสูงที่ขับเคลื่อนโดยบิ๊กดาต้าและ AI เพื่อทำให้กระบวนการตัดสินใจทำ O&M ง่ายขึ้น
ก้าวสู่การเชื่อมต่ออัจฉริยะด้วย AI
การเปลี่ยนแปลง 5 ประการนี้ได้วางข้อกำหนดใหม่ๆ เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ และเพื่อตอบสนองข้อกำหนดเหล่านี้และทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้นนั้น การเชื่อมต่อจะต้องอัปเกรดขึ้นไปอีกขั้น
ข้อกำหนดแรกคือ การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมทุกที่ทุกเวลา ในขณะที่แบนด์วิดท์คือพิ้นฐานของการเชื่อมต่อ การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมทุกที่ทุกเวลาถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิดีโอความละเอียดระดับ ultra HD, แอปพลิเคชั่น VR/AR, กล้อง AI และโดรน
ข้อกำหนดที่สองคือ ประสบการณ์ตามที่กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานในบ้าน เช่น การสื่อสารโทรคมนาคมและการเรียนออนไลน์ ตลอดจนการใช้งานในองค์กร เช่น การผลิตที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้
ข้อกำหนดที่สามคือระบบอัตโนมัติขั้นสูง ในขณะที่เครือข่ายมีความก้าวหน้าในแง่ความซับซ้อนและสเกล บิ๊กดาต้าและ AI จะต้องนำมาใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติขั้นสูง
ในยุคอัจฉริยะ การเชื่อมต่ออัจฉริยะจะมีลักษณะสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมทุกที่ทุกเวลา, ประสบการณ์ตามที่กำหนด และระบบอัตโนมัติขั้นสูง
โซลูชั้นการเชื่อมต่ออัจฉริยะในทุกสถานการณ์ของ Huawei
ในระหว่างอีเวนต์ Mr. Wang เปิดตัวโซลูชั่นอัจฉริยะสำหรับทุกสถานการณ์ของ Huawei ซึ่งรวมถึงโซลูชั่นการเข้าถึงแบบกระจายอัจฉริยะสำหรับบ้าน ตลอดจนเครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะ, สายสัญญาณส่วนตัวระดับพรีเมียมอัจฉริยะ และโซลูชั่นเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะสำหรับองค์กร
- การเข้าถึงแบบกระจายอัจฉริยะ: โซลูชั่นนี้ได้อัปเกรดอย่างครอบคลุมทั้งอุปกรณ์ในบ้าน, พื้นที่ปลายทาง และการจัดการเครือข่าย ด้วยเครือข่าย Wi-Fi ที่ครอบคลุมระดับกิกะบิตในทุกห้อง ประสบการณ์บริการคุณภาพสูง การระบุผู้ใช้ที่แม่นยำ การเข้าถึงแบบกระจายอัจฉริยะนี้จะช่วยให้โอเปอเรเตอร์ได้ประโยชน์จากประสบการณ์เครือข่ายมากกว่าจากฐานผู้ใช้
- เครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะ: จากการจัดการ LAN และ WAN ส่วนกลาง การเข้าถึงระดับ Gbps และ O&M อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI นั้น เครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะจะช่วยให้โอเปอเรเตอร์สามารถจัดหาโซลูชั่นเครือข่ายแบบครบวงจรสำหรับองค์กรต่างๆ ในขณะที่พวกเขาก้าวไปสู่คลาวด์
- สายสัญญาณส่วนตัวระดับพรีเมียมอัจฉริยะ: โซลูชั่นนี้ช่วยลดความหน่วงลงอย่างมากด้วยเทคโนโลยีการสลับเป็นระบบออปติคอลทั้งหมด เปิดทางให้โอเปอเรเตอร์ให้บริการองค์กรผู้ใช้ระดับ High End ด้วยความหน่วงต่ำเพียง 1ms พร้อมประสบการณ์ที่ดีที่สุด จากการสร้างบนเทคโนโลยี Liquid OTN ท่อแข็งที่ยืดหยุ่นนี้ช่วยสนับสนุนการเข้าถึงแบนด์วิดท์ที่ยืดหยุ่นตั้งแต่ 2 Mbps ถึง 100 Gbps และการปรับเปลี่ยนบริการโดยไม่สูญเสียอะไร นอกจากนี้สายสัญญาณส่วนตัวระดับพรีเมียมอัจฉริยะยังเชื่อมต่อลูกค้าระดับองค์กรกับเครือข่ายส่วนตัวในระดับคลื่นความยาวต่างๆ ผ่านทางทรัพยากรคลื่นความถี่และคลื่นความถี่ย่อยระดับเอ็กซ์คลูซีฟ
- เครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะ: โซลูชั่นนี้มีเป้าหมายสร้างพลังร่วมระหว่างคลาวด์กับเครือข่ายในยุคคลาวด์ ตั้งบนพื้นฐานเครือข่าย IP อัจฉริยะ เครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะจะสร้างเครือข่ายคลาวด์ส่วนตัวคุณภาพสูง ซึ่งช่วยให้องค์กรเข้าถึงคลาวด์ที่หลากหลายขึ้น
"ตลอดเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา Huawei ทำงานร่วมกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างชีวิต AI ที่ไร้รอยต่อสำหรับทุกๆ บ้าน และขับเคลื่อนการอัปเกรดระบบอัจฉริยะในทุกอุตสาหกรรม เป้าหมายสูงสุดของเราคือการส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน" Mr. Wang กล่าว
"จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน 5G, เครือข่ายออปติคอล และนวัตกรรม IPv6 Enhanced เราจึงได้เปิดตัวโซลูชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะสำหรับทุกสถานการณ์ ซึ่งโซลูชั่นเหล่านี้จะทำให้เครือข่ายอัลตร้าบรอดแบนด์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างโลกที่อัจฉริยะขึ้น ก้าวไปข้างหน้า เราเพิ่มความพยายามเป็นเท่าตัวในการวิจัยขั้นพื้นฐาน รวมทั้งลงทุนในเทคโนโลยีเครือข่ายยุคหน้าเพิ่มขึ้น และทำงานกับผู้ถือผลประโยชน์ทุกคนเพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เปี่ยมประสิทธิภาพและปล่อยคาร์บอนต่ำ"
UBBF คืออีเวนต์ระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรม ICT โดยงานในปีนี้ได้รับเกียรติจากตัวแทนของ China Mobile, FTTH Council Europe, TechUK, Ernst & Young Advisory Limited, IPv6 Forum, SAMENA Telecommunications Council และ Omdia มาร่วมกล่าวสุนทรพจน์
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20201014/2949302-1?lang=0