บริษัทประกาศตัวเข้าร่วมโครงการส่งเสริมความยั่งยืนระดับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลกในไตรมาสแรก
สิงคโปร์--14 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Maxeon Solar Technologies, Ltd. (NASDAQ: MAXN) ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ประกาศเข้าร่วม United Nations Global Compact ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนสำหรับองค์กรโดยสมัครใจที่ใหญ่ที่สุดของโลก บริษัทมุ่งมั่นในการเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงระดับโลกดังกล่าวในการดำเนินงานตลอดไตรมาสแรก จากสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ซึ่งได้กลายเป็นหน่วยงานอิสระในปลายเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
ในฐานะที่เป็นโครงการริเริ่มพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติ United Nations Global Compact ถือเป็นการเรียกร้องให้บริษัททุกแห่งจัดแนวทางปฏิบัติการและกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับหลักการสากล 10 ประการ ซึ่งครอบคลุมด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต และดำเนินการเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Global Goal หรือ SDG) โครงการริเริ่มนี้ประกอบด้วยบริษัทมากกว่า 10,000 แห่งและผู้ลงนามที่ไม่ใช่หน่วยงานธุรกิจกว่า 3,000 รายในกว่า 160 ประเทศ รวมถึงเครือข่ายท้องถิ่นมากกว่า 60 แห่ง
"เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ปีในการบรรลุวาระปี 2573 ขององค์การสหประชาชาติด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน นั่นจึงทำให้พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนวาระการลดปริมาณคาร์บอนของสิงคโปร์และของโลก" Esther Chang กรรมการบริหาร Global Compact Network Singapore กล่าว "Global Compact Network Singapore ให้ความสำคัญกับการช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่สร้างคาร์บอนในปริมาณต่ำได้อย่างราบรื่น ผ่านชุมชนและการสร้างขีดความสามารถ เราขอต้อนรับ Maxeon Solar Technologies เข้าสู่ข้อตกลงฉบับนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาดตามเป้าหมาย SDG"
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาระดับโลก Maxeon จะปรับกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย SDG ขององค์การสหประชาชาติ ในขณะที่ยังคงส่งมอบเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรมเพื่อให้ลูกค้าสามารถริเริ่มการลดปริมาณการสร้างคาร์บอนได้ กรอบการทำงานระดับโลกนี้ประกอบด้วยเป้าหมาย 17 ประการซึ่งได้รับความเห็นชอบในปี 2558 จากประเทศสมาชิกทั้งหมด 193 ประเทศขององค์การสหประชาชาติ จากถ้อยแถลงล่าสุดของเลขาธิการสหประชาชาติในรายงานเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2563 การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันกำลังคุกคามชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คน ชี้ให้เห็นและเน้นย้ำถึงความไม่เท่าเทียมและความอยุติธรรมที่มีอยู่ในสังคม ทำให้ความปรารถนาในการบรรลุเป้าหมายโลกนั้นท้าทายยิ่งขึ้น
"ด้วยการขยายกลยุทธ์ความยั่งยืนของเราไปสู่ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมต่อชุมชนที่เราให้บริการในกว่า 100 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้ ที่ซึ่งการดำเนินการเพื่อสนับสนุน SDG อย่างเร่งด่วนคือกุญแจสำคัญ" Jeff Waters ซีอีโอของ Maxeon Solar Technologies กล่าวในบล็อกที่โพสต์วันนี้ "ความมุ่งมั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากจุดประสงค์ของบริษัทเราอย่าง Powering Positive Change™ อันเป็นความเชื่อที่แน่วแน่ของเราว่า การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับโลกใบนี้ รวมถึงผู้มีส่วนร่วมและธุรกิจของเรา"
เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันภายนอกที่มีต่อ UN Global Compact บริษัทได้แต่งตั้งทีมงานภายในได้แก่คุณ Lindsey Wiedmann ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย เป็นผู้ดูแลงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลระดับโลก (ESG) ประจำบริษัท คุณ Wiedmann จะเป็นหัวหน้าทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG ที่มีประสบการณ์โดยตรงกับ UN Global Compact โดยคุณ Matthew Kasdin ผู้อำนวยการและที่ปรึกษาอาวุโส เคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของ UN Global Compact และโครงการริเริ่ม Principles for Responsible Investment (PRI) และเคยเป็นสมาชิกของคณะกรรมการด้านโครงการพัฒนาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (UN Development Program Stakeholder Advisory Committee on Climate Change) อีกทั้งยังได้ร่วมงานเมื่อไม่นานมานี้กับคุณ Alvin Seo หัวหน้าฝ่าย ESG ระดับโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบคนที่ได้รับการยกย่องในระดับโลกในปี 2562 ในฐานะผู้บุกเบิก Global Compact SDG ซึ่งเชิดชูบุคคลในแวดวงธุรกิจที่สนับสนุนความยั่งยืนและเชิญชวนให้บริษัทต่าง ๆ ขับเคลื่อนพลังแห่งความดี
คุณ Wiedmann กล่าวสรุปว่า "ที่ Maxeon เราขับเคลื่อนจากโอกาสที่จะทำให้ผู้คนทุกหนทุกแห่งสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อโลกของเราได้ โดยมุ่งเน้นที่การลดคาร์บอนในโลก พวกเราภูมิใจในสิ่งที่เราสร้างไว้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด และมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วม UN Global Compact รวมถึงสานต่องานสำคัญนี้ร่วมกับองค์กรและบริษัทที่มีแนวคิดเดียวกันในการให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลที่ดี จากการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามด้าน ESG ของ Maxeon สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.maxeon.com/esg
เกี่ยวกับ Maxeon Solar Technologies
Maxeon Solar Technologies (NASDAQ: MAXN) ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก (Powering Positive Change™) บริษัทออกแบบ ผลิต และจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบรนด์ SunPower® ในกว่า 100 ประเทศ และบริหารแบรนด์ SunPower ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐและแคนาดา ทั้งยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ โดยครอบครองสิทธิบัตรมากกว่า 900 ฉบับ และมี 2 ไลน์ผลิตภัณฑ์แผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ดีที่สุด Maxeon เป็นผู้ลงนามในข้อตกลง UN Global Compact และสนับสนุนเป้าหมาย UN Global Goals โดยเป็นผู้บุกเบิกความยั่งยืนของพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมครั้งแรกของอุตสาหกรรม และเป็นเจ้าของศูนย์ที่ได้รับการรับรอง LEED 5 แห่ง บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และดำเนินธุรกิจในแอฟริกา เอเชีย โอเชียเนีย ยุโรป และเม็กซิโก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุมตลาดการผลิตไฟฟ้าพลังงานอาทิตย์บนหลังคาและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก โดยจำหน่ายผ่านเครือข่ายหุ้นส่วนและตัวแทนที่เชื่อถือได้กว่า 1,100 ราย บริษัทเป็นผู้บุกเบิกการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์อย่างยั่งยืน โดยอาศัยประสบการณ์กว่า 35 ปีในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ และเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลมากมาย หากต้องการทราบว่า Maxeon ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างไร สามารถดูได้ที่ www.maxeon.com หรือ LinkedIn และ Twitter @maxeonsolar
ข้อความคาดการณ์อนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความคาดการณ์อนาคตตามที่นิยามไว้ในกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อความเกี่ยวกับขอบข่ายและผลลัพธ์จากความพยายามของบริษัทในการปรับกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และความสามารถของบริษัทในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ข้อความคาดการณ์อนาคตอ้างอิงจากสมมติฐาน ความคาดหวัง และความเชื่อของเราในปัจจุบัน ซึ่งมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากมายที่อาจทำให้ผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จที่แท้จริง ออกมาแตกต่างอย่างมากจากที่กล่าวถึงหรือกล่าวเป็นนัยในข้อความคาดการณ์อนาคต ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา ได้มีการรวบรวมไว้ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ตลอดมา ซึ่งรวมถึงรายงาน Form 20-F ที่ได้รับการประกาศให้มีผลบังคับใช้โดย SEC ในวันที่ 4 สิงหาคม 2563 โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้หัวข้อ "Item 3.D. Risk Factors" โดยสำเนาของเอกสารเหล่านี้มีการเผยแพร่ออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของ SEC หรือในหัวข้อการเงินและการส่งงบบนเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ของเราที่ www.maxeon.com/financials-filings/sec-filings ทั้งนี้ ข้อความคาดการณ์อนาคตทั้งหมดในข่าวประชาสัมพันธ์นี้อ้างอิงจากข้อมูลที่เรามีในปัจจุบัน และเราไม่มีพันธะผูกพันในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์อนาคต แม้ว่าจะมีข้อมูลใหม่หรือเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในอนาคตก็ตาม
© สงวนลิขสิทธิ์ 2563 Maxeon Solar Technologies, Ltd. ทั้งนี้ MAXEON เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Maxeon Solar Technologies, Ltd. สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.maxeon.com/trademarks
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1275353/Maxeon_Logo_Open_Blue_RGB2_Logo.jpg?p=medium600