- ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ โรคเหงือก การสูญเสียฟัน และมะเร็งช่องปาก เป็นโรคไม่ติดต่อที่พบมากที่สุดทั่วโลก โดยส่งผลกระทบต่อประชากร 3.5 พันล้านคน ทั้งยังส่งผลกระทบทางสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจอย่างรุนแรงและมหาศาล
- ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่องปากต้องพยายามทุกทางในการยกระดับสุขภาพของทุกคน เพื่อสนับสนุนความพยายามป้องกันในระดับประชากรให้ประสบผลสำเร็จ และช่วยให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ
- สามารถดูรูปภาพได้ที่ AP Images (http://www.apimages.com) -
เจนีวา
18 มกราคม 2564
/PRNewswire/ -- เนื่องในโอกาสที่มีการจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลก สมัยที่ 148 ซึ่งรัฐบาลนานาประเทศมีกำหนดรับรองมติว่าด้วยสุขภาพช่องปาก ทางสมาพันธ์ทันตแพทย์โลก (FDI World Dental Federation: FDI) ได้เผยแพร่รายงาน Vision 2030: Delivering Optimal Oral Health for All ซึ่งนำเสนอโรดแมปที่ครอบคลุมแนวทางสนับสนุนนโยบายสุขภาพและจัดการกับความท้าทาย เพื่อยกระดับสุขภาพช่องปากและลดความไม่เท่าเทียมด้านสุขภาพช่องปากตลอดทศวรรษหน้า
รายงาน Vision 2030 แนะนำกลยุทธ์การจัดการกับภาระของโรคในช่องปาก ซึ่งชุมชนต่าง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างตรงจุด นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในวงกว้าง เช่น ประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่องปากต้องปรับตัวและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการดูแลคนไข้อย่างต่อเนื่อง
Prof. David Williams ประธานร่วมของคณะทำงาน FDI Vision 2030 Working Group กล่าวว่า "Vision 2030 นำเสนอแนวทางให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่องปากมีส่วนร่วมในวาระการพัฒนาระดับโลก อย่างเช่นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสหประชาชาติ"
Prof. Michael Glick ประธานร่วมของคณะทำงาน FDI Vision 2030 Working Group กล่าวเสริมว่า "ในฐานะสมาชิกของชุมชนสุขภาพช่องปาก เราจะเปลี่ยนแปลงและกำหนดทิศทางของแวดวงสุขภาพระดับโลกได้อย่างไร เราจะทำอย่างไรจึงจะเป็นสมาชิกที่มีประโยชน์ของแวดวงสุขภาพที่มีคนไข้เป็นศูนย์กลาง นี่คือคำถามส่วนหนึ่งที่เราพยายามตอบในรายงาน Vision 2030"
การบรรลุเป้าหมายสุขภาพช่องปากที่ดีสำหรับทุกคนต้องอาศัยผู้ที่พร้อมทุ่มเทให้กับการจัดการความท้าทายด้านสาธารณสุขที่สำคัญนี้ ภายใต้โรดแมปในรายงาน Vision 2030 บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่องปากที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน จะได้รับการเตรียมความพร้อมอย่างดีเพื่อผลักดันวาระสุขภาพช่องปากให้เป็นส่วนหนึ่งของวาระสุขภาพโดยรวม
ผู้เขียนรายงาน Vision 2030 ซึ่งประกอบด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ ในชุมชนสุขภาพ ได้ตอกย้ำความจำเป็นของการมีส่วนร่วมของสาธารณชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รายงาน Vision 2030 เรียกร้องให้คนไข้เป็นผู้สนับสนุนสุขภาพช่องปากของตนเองและมีบทบาทเชิงรุกในการตัดสินใจรักษาตนเอง รายงาน Vision 2030 ส่งสารให้คนไข้และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่องปากตระหนักว่า หากสุขภาพช่องปากไม่ดี สุขภาพร่างกายโดยรวมก็ไม่สมบูรณ์
เกี่ยวกับสมาพันธ์ทันตแพทย์โลก
สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก คือองค์กรระดับนานาชาติที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1900 โดยเป็นตัวแทนของทันตแพทย์กว่า 1 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและสมาคมทันตกรรมระดับชาติกว่า 200 แห่ง ในเกือบ 130 ประเทศ พันธกิจขององค์กรคือการเป็นผู้นำในการทำให้ประชากรโลกมีสุขภาพช่องปากที่ดี ทั้งนี้ สำนักงานใหญ่ขององค์กรตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
คณะทำงาน Vision 2030 Working Group ประกอบด้วย Michael Glick (ประธานร่วม), David M. Williams (ประธานร่วม), Ihsane Ben Yahya, William W. M. Cheung, Enzo Bondioni, Pam Clark, Stefan Listl, Manu Raj Mathur, Peter Mossey, Hiroshi Ogawa, Gerhard K. Seeberger, Michael Sereny
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
Charanjit Jagait, FDI Communications & Advocacy Director
อีเมล: cjagait@fdiworlddental.org โทร: +41-797967613