omniture

รายงาน PwC เผย 5G หนุน GDP ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 โดยบริการด้านสุขภาพและสังคมได้รับประโยชน์สูงสุด

PwC Global Corporate Affairs
2021-02-08 11:59 256

- รายงานวิเคราะห์เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายยุคที่ 5 เพื่อประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการใช้งาน 5G ในรูปแบบใหม่ๆ และรูปแบบเดิม
- กว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลก (5.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะมาจากการปฏิรูปบริการสุขภาพและสังคมภายในอีกสิบปีข้างหน้า ขณะที่หนึ่งในสี่จะมาจากสาธารณูปโภคอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงาน ตลอดจนปรับปรุงการจัดการน้ำและขยะ
- เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่พึ่งพาการผลิตมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี คาดว่าทั่วโลกจะได้รับผลประโยชน์เช่นกัน เนื่องจาก 5G จะกลายเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม
- ความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความไว้วางใจในการใช้ 5G สำหรับผู้บริโภคและหน่วยงานกำกับดูแล

ลอนดอน

8 กุมภาพันธ์ 2564

/PRNewswire/ -- ผลิตภาพและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยี 5G จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ทักษะ และบริการ คิดเป็นมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของ GDP ทั่วโลกภายในปี 2573

PwC เผยแพร่รายงาน Powering Your Tomorrow ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการใช้งาน 5G ในรูปแบบใหม่และรูปแบบเดิม ครอบคลุมภาคสาธารณูปโภค บริการด้านสุขภาพและสังคม การบริโภค สื่อ และบริการทางการเงินใน 8 ประเทศที่เริ่มมีการเปิดตัวเทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร

5G ไม่ได้เป็นแค่การสื่อสารไร้สายที่รวดเร็วกว่า 4G หากแต่ความเร็ว ความน่าเชื่อถือ การใช้พลังงานที่น้อยลง และการเชื่อมต่อข้อมูลในปริมาณมากของ 5G ยังจะเข้ามาพลิกโฉมธุรกิจและสังคมในวงกว้าง ทำให้สามารถเข้าถึงบรอดแบนด์ความเร็วสูงได้อย่างแพร่หลาย โดยเมื่อใช้ร่วมกับการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์นั (AI) และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) 5G จะสามารถเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจและสังคมใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเกิดใหม่ได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ คาดว่าทุกประเทศในรายงานการศึกษาฉบับนี้จะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจาก 5G นำเสนอศักยภาพในการพลิกโฉมโมเดลธุรกิจ ทักษะ ผลิตภัณฑ์และบริการ โดยจะเริ่มเห็นผลเร็วขึ้นตั้งแต่ปี 2568 เนื่องจากแอปพลิเคชันที่รองรับ 5G จะเริ่มแพร่หลายมากขึ้น

จากการศึกษาพบว่า สหรัฐ (4.84 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ), จีน (2.20 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) และญี่ปุ่น (7.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการใช้เทคโนโลยี 5G เนื่องจากทั้งสามประเทศมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งมีภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและแข็งแกร่ง

ส่วนในระดับภูมิภาค คาดว่ายุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้เทคโนโลยี 5G ในภาคการผลิต อันเนื่องมาจากขนาดของภาคการผลิต โดยมีการใช้แนวทางต่างๆ เพื่อกำกับดูแลและนำเทคโนโลยีมาใช้งาน ซึ่งทำให้ภูมิภาคนี้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน

วิลสัน เชา ผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สื่อและโทรคมนาคมระดับโลกจาก PwC China กล่าวว่า
"ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่อาจสำคัญกว่านั้นคือ ผลการศึกษาของเราสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของ 5G โดย 5G จะช่วยยกระดับการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะทำให้บริษัทต่างๆ สามารถมองเห็น ลงมือทำ และประสบความสำเร็จได้มากขึ้น 5G จะเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องทบทวนและปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานในโลกยุคหลังโควิด

"การแพร่ระบาดของโควิดเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทั่วทุกภาคอุตสาหกรรม และ 5G จะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นภายในช่วงสิบปีนี้ เนื่องจาก 5G จะกลายมาเป็นชิ้นส่วนพื้นฐานของโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมของเรา และเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โมเดลธุรกิจ ทักษะ และอุตสาหกรรมใหม่ๆ"

บรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและเร็วขึ้นในด้านบริการสุขภาพและสังคม

กว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลก (5.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะเกิดจากการพลิกโฉมบริการด้านสุขภาพและสังคมสำหรับผู้ป่วย ผู้ให้บริการ และบุคลากรทางการแพทย์ภายในช่วงสิบปีข้างหน้า

การแพทย์ทางไกลซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เรามองเห็นภาพอนาคตของบริการด้านสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาทางไกลเป็นเพียงหนึ่งในขอบข่ายที่จะได้ประโยชน์จาก 5G ทั้งในแง่ของผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้นและการประหยัดค่าใช้จ่าย

รูปแบบการใช้เทคโนโลยี 5G ในด้านบริการสุขภาพ ประกอบด้วย การตรวจและการให้คำปรึกษาทางไกล การแบ่งปันข้อมูลในโรงพยาบาลแบบเรียลไทม์ การปรับปรุงการสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย และระบบอัตโนมัติในโรงพยาบาลเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ

ผลประโยชน์ในระดับภูมิภาคและระดับอุตสาหกรรม

ในระดับภาคอุตสาหกรรมนั้น จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ โดยในสหรัฐและออสเตรเลีย คาดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ 5G ในภาคบริการทางการเงิน ขณะที่อินเดียจะได้ประโยชน์จากภาคสาธารณูปโภคอัจฉริยะมากที่สุด ส่วนจีนและเยอรมนีจะได้ประโยชน์จากภาคการผลิต นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ยังพบรูปแบบการใช้งาน 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจะขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านทักษะ งาน การบริโภค และการกำกับดูแลในช่วงสิบปีข้างหน้า ได้แก่

  • การใช้ 5G ในการจัดการสาธารณูปโภคอัจฉริยะ ซึ่งจะสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดคาร์บอนและขยะ โดยการใช้มิเตอร์และกริดอัจฉริยะจะช่วยประหยัดพลังงาน ขณะที่การติดตามการรั่วไหลของน้ำและขยะจะช่วยปรับปรุงการจัดการน้ำและขยะ (3.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • การใช้งานด้านสื่อและผู้บริโภค ได้แก่ เกมแบบ over the top (OTT), การโฆษณาแบบเรียลไทม์ และบริการลูกค้า (2.54 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • การใช้งานในภาคการผลิตและอุตสาหกรรมหนัก ประกอบด้วยการตรวจสอบและลดข้อบกพร่อง, การใช้ยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติเพิ่มขึ้น (1.34 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • การใช้งานด้านบริการทางการเงิน ได้แก่ การลดการทุจริต และการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า (8.6 หมื่นล้านดอลลาร์)

วิลสัน เชา กล่าวว่า
"5G เป็นมากกว่าการเชื่อมต่อไร้สาย เทคโนโลยีนี้ทำให้เรามองเห็นการพัฒนาผลิตภาพและการทบทวนโมเดลธุรกิจสำหรับอนาคตผ่านมุมมองใหม่ โดยเมื่อพิจารณาจากศักยภาพและผลประโยชน์ต่างๆ ทุกองค์กรจำเป็นต้องวางแผนในการนำ 5G มาใช้ภายในห้าปี เพื่อเพิ่มโอกาสและเตรียมความพร้อมในการรวมกลยุทธ์ทางธุรกิจและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ตลอดจนมีส่วนร่วมกับลูกค้า ห่วงโซ่อุปทาน และหน่วยงานกำกับดูแล"

นโยบายและความน่าเชื่อถือ

การศึกษาชี้ให้เห็นว่าการที่จะเข้าถึงศักยภาพของเทคโนโลยี 5G ได้นั้น ภาคธุรกิจและภาครัฐจะต้องพิจารณาแนวทางใหม่ๆ ในด้านการกำกับดูแลและการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นไปที่วิธีการใช้เทคโนโลยี

วิลสัน เชา กล่าวว่า
"ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใดก็ตาม การมีส่วนร่วมในนโยบาย ความโปร่งใส และความไว้วางใจของสาธารณชนถือเป็นปัจจัยสำคัญ กล่าวคือ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติหรือการแพทย์ทางไกล การจัดการข้อมูล การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน หรือการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ ภาคธุรกิจและภาครัฐจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองจากที่เน้นควบคุมเทคโนโลยีไปเป็นการส่งเสริมความโปร่งใสในการใช้งาน 5G ตลอดจนทำให้ประชาชนรู้สึกไว้วางใจในศักยภาพของเทคโนโลยีและวางใจที่จะใช้งาน พร้อมทั้งรักษาความไว้วางใจดังกล่าว"

ดาวน์โหลดรายงานได้ที่นี่

เกี่ยวกับรายงาน

PwC อาศัยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญและใช้แบบจำลองทางเศรษฐกิจเพื่อประเมินผลของการใช้ 5G ใน 5 อุตสาหกรรม การคาดการณ์ในการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจสุทธิของเทคโนโลยี 5G โดยคำนึงถึงผลกระทบของการแทนที่ เช่น กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางอย่างที่ล้าสมัย และมุ่งเน้นไปที่มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในห่วงโซ่มูลค่าและทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจ แทนที่จะให้ความสำคัญเพียงรายได้ของธุรกิจโทรคมนาคม 5G สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจัยได้ที่นี่

เกี่ยวกับ PwC

PwC มุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจในสังคมและแก้ปัญหาที่สำคัญ เราคือเครือข่ายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใน 157 ประเทศ และมีบุคลากรกว่า 276,000 คนที่ทุ่มเทให้บริการรับประกัน ให้คำปรึกษา และให้บริการด้านภาษีที่มีคุณภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่ www.pwc.com

PwC หมายถึงเครือข่ายบริษัท PwC และ/หรือ บริษัทสมาชิกหนึ่งบริษัทหรือหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทเป็นนิติบุคคลที่แยกกันชัดเจน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pwc.com/structure

(C) 2564 PwC ขอสงวนสิทธิ์

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1121790/PWC_Logo.jpg?p=medium600

Source: PwC Global Corporate Affairs
Related Links:
Keywords: Computer/Electronics Publishing/Information Service Telecommunications Wireless Communications Economic news, trends, analysis New products/services Survey, Polls & Research STEM (Science,Technology,Engineering,Mathematics)