เมดัน, อินโดนีเซีย—23 ก.พ.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ระหว่างการประกาศนโยบายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 ก.พ.) นายซานเดียกา ซาลาฮุดดีน อูโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย ได้กระตุ้นให้ประชาชน "สนับสนุนแคมเปญที่เพิ่งเปิดตัวออกมาใหม่อย่าง #BeliKreatifDanauToba (BKDT)" ด้วยความภาคภูมิใจในสินค้าท้องถิ่นของทะเลสาบโตบาและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ
นายซานเดียกา ซาลาฮุดดีน อูโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย ระหว่างงานเปิดตัวโครงการ Beli Kreatif Danau Toba ที่ Debang Resort ในเขตไดรีของจังหวัดสุมาตราเหนือเมื่อวันเสาร์ (20 ก.พ.2564)
รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวฯ ได้ประกาศนโยบายใหม่นี้ออกมาควบคู่ไปกับแนวทางปฏิบัติด้านต่าง ๆ ร่วมกับ นายลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุน, นายเพอร์รี วาจิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย, นางศรีมุลยานี อินดราวาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายจอห์นนี เจอร์ราด เพลต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ รวมถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แองเจลา ตาโนโซดิบโจ จากเมืองบาลิเจ จังหวัดสุมาตราเหนือ และ เอ็ดดี้ เกอเลง อาเต เบอรูตู ผู้บริหารเขตไดรี
สำหรับกิจกรรมสำคัญในงานนี้ นายซานเดียกาได้เข้าร่วมงานเปิดตัวนโยบาย Beli Kreatif Danau Toba ซึ่งจัดขึ้นที่ Debang Resort ในเขตไดรี จังหวัดสุมาตราเหนือ ด้วยชุดผ้าทอซอแก๊ะแบบดั้งเดิม Tapak Catur และ Ulos Simalungun ที่เป็นผลงานการออกแบบของแฟชั่นดีไซเนอร์ท้องถิ่นผู้มีนามว่า อิลซาน
"ผมมาจากเขตไดรี ผมจึงสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าซอแก๊ะ Tapak Catur แบบดั้งเดิมนี้มาเพื่อแสดงความขอบคุณต่อดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่น่าเหลือเชื่อชิ้นนี้ และในขณะเดียวกันก็เพื่อแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อโครงการ Beli Kreatif Danau Toba เสื้อผ้าชุดนี้เป็นแค่เพียงหนึ่งในหลาย ๆ ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากพื้นที่บริเวณทะเลสาบโตบา ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางเศรษฐกิจสุดเอ็กซ์คลูซีฟของประเทศอินโดนีเซีย" นายซานเดียกา ซาลาฮุดดีน อูโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์กล่าว
#BeliKreatifDanauToba (BKDT)
โครงการ BKDT ประกอบด้วย 2 โปรแกรมหลัก:
เพื่อให้แน่ใจว่านโนบาย BKDT จะประสบความสำเร็จ MOTCE ได้เตรียมกลยุทธ์ไว้ 3 ประการ ได้แก่ นวัตกรรม, การปรับตัว และการทำงานร่วมกัน เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอินโดนีเซีย
รัฐมนตรีอูโนได้พูดถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางที่มีต่อ MoTCE ว่า "กลยุทธ์และชุดโปรแกรมทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจด้านงานฝีมือทั้ง 5,700 แห่งบริเวณทะเลสาบโตบาในจังหวัดสุมาตราเหนือ"
เขาเสริมว่า "นอกจากนี้ ในฐานะแคมเปญระดับรากหญ้าของประเทศ โครงการต่าง ๆ ยังได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่าง ๆ, รัฐบาลท้องถิ่น, ตลาด, ชุมชน MSE และผู้เล่นในด้านเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาของอินโดนีเซียได้"
เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาระดับชาติ Bangga Buatan Indonesia (BBI) ที่ท่านประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซียประกาศออกมาเมื่อปี 2563 ทาง MOTCE ยังได้เปิดตัวแคมเปญ Beli Kreatif Lokal (ซื้อผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ในท้องถิ่น) ออกมา โดยนโยบายใหม่ดังกล่าวมุ่งให้การสนับสนุนทางการตลาดและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้สร้างสรรค์งานแฟชั่น, งานฝีมือ และการทำอาหารในเขตจาร์กาต้าและปริมณฑล (Jabodetabek)
MOTCE ยังมีแผนที่จะขยายโครงการสัญญาอนุพันธ์ระดับชาติในปี 2564 นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างการเติบโตให้กับช่างฝีมือในจังหวัดสุมาตราเหนือภายใต้โครงการ BKDT ด้วย
นอกจากนี้ MOTCE ยังจะโปรโมทพื้นที่ในเขตทะเลสาบโตบาให้กลายมาเป็น "จุดหมายปลายทางที่พิเศษที่สุด" โดยมีประธานาธิบดีโจโก วิโดโด คอยเฝ้าติดตามการพัฒนาอย่างใกล้ชิด
"MOTCE ต้องการใช้โครงการนี้กระตุ้นให้เกิดความภาคภูมิใจในการซื้อหาและใช้งานผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากเกาะสุมาตราเหนือในหมู่สาธารณชน เพื่อให้เราได้เข้าไปส่วนร่วมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ" Sandiaga อธิบาย