omniture

CGTN: จีนเรียกร้องทั่วโลกยึดมั่นในระบบพหุภาคี ยอมรับการเปิดกว้าง และยกระดับความร่วมมือภายใต้โครงการ BRI

CGTN
2021-04-21 20:01 202

ปักกิ่ง--21 เมษายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสุขภาพและเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จีนได้เรียกร้องให้ทุกประเทศในเอเชียและนอกภูมิภาคยึดมั่นในระบบพหุภาคี ยอมรับการเปิดกว้าง และยกระดับความร่วมมือภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI)

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์หลักผ่านวิดีโอลิงก์ในพิธีเปิดการประชุม Boao Forum for Asia (BFA) ประจำปี 2564 เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การประชุมซึ่งจัดขึ้นในหัวข้อ "A World in Change: Join Hands to Strengthen Global Governance and Advance Belt and Road Initiative Cooperation" ถือว่ามีความเหมาะสมและตรงประเด็นที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน

ต้องการความเป็นธรรม ไม่ใช่การแผ่อิทธิพล

ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า การเรียกร้องให้ทั่วโลกยึดมั่นในระบบพหุพาคีมีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เราอยู่ในยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย

"อนาคตของโลกควรให้ทุกประเทศตัดสินร่วมกัน เราต้องไม่ปล่อยให้กฎที่กำหนดโดยประเทศเดียวหรือไม่กี่ประเทศมีผลบังคับใช้กับประเทศอื่น ๆ หรือปล่อยให้การกระทำเพียงฝ่ายเดียวของประเทศใดประเทศหนึ่งกลายเป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางของทั้งโลก"

"สิ่งที่เราต้องการในโลกทุกวันนี้คือความเป็นธรรม ไม่ใช่การแผ่อิทธิพล ประเทศยักษ์ใหญ่ควรประพฤติตนให้เหมาะสมกับสถานะของตนเองและมีความรับผิดชอบมากกว่าเดิม" นายสี จิ้นผิง กล่าวย้ำ พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกประเทศรักษาระบบระหว่างประเทศที่มีองค์การสหประชาชาติ (UN) เป็นศูนย์กลาง

จีนแสดงบทบาทในฐานะประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อกิจการระหว่างประเทศมาโดยตลอด อย่างเช่นเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา จีนได้จ่ายเงินอุดหนุนเต็มจำนวนให้แก่ UN และ International Residual Mechanism for Criminal Tribunals สำหรับปี 2564 นอกจากนี้ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จีนได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพกว่า 40,000 คน เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพของ UN รวม 25 ปฏิบัติการ

การเปิดกว้าง

"การเปิดกว้างมีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด" นายสี จิ้นผิง กล่าว "เราต้องส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตลอดจนยกระดับห่วงโซ่อุปทาน อุตสาหกรรม ข้อมูล และทรัพยากรมนุษย์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง"

หลิน กุ้ยจวิน รองอธิการบดี University of International Business and Economics กล่าวว่า การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในเอเชียดำเนินไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นนับตั้งแต่มีการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ การพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศในเอเชียอยู่ที่ราว 50% ในปี 2562 ขณะที่มูลค่าการค้าระดับทวิภาคีก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ความพยายามในการ "สร้างกำแพง" และ "แบ่งแยก" นั้น ขัดต่อกฎหมายเศรษฐกิจและหลักการทางตลาด โดยเป็นการทำลายผลประโยชน์ของผู้อื่นและตนเองก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด

ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

"เราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนและชีวิตความเป็นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ตลอดจนส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและความพยายามร่วมกัน รวมทั้งยกระดับความร่วมมือทางการแพทย์และสาธารณะสุข" นายสี จิ้นผิง กล่าว

เขาเรียกร้องให้มีการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการแจกจ่ายวัคซีน รวมถึงช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงวัคซีนได้ในราคาย่อมเยา เพื่อให้ทุกคนบนโลกได้รับวัคซีนที่มีความจำเป็น

จนถึงตอนนี้ จีนได้มอบอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดให้ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 160 แห่งทั่วโลก และกำลังจัดหาวัคซีนซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างเร่งด่วนให้แก่ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 100 แห่งทั่วโลก

โครงการ BRI คือถนนสาธารณะที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า โครงการ Belt and Road Initiative คือถนนสาธารณะที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ใช่ทางส่วนตัวของฝ่ายใดเพียงฝ่ายหนึ่ง โดยทุกประเทศที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้

นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสุขภาพ ผู้ประกอบการจีนหลายรายได้เริ่มผลิตวัคซีนร่วมกับประเทศต่าง ๆ ในโครงการ BRI

นายสี จิ้นผิง กล่าวเสริมว่า จีนจะกระชับความร่วมมือด้านการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมโครงการ BRI ให้เป็นเส้นทางที่นำไปสู่การบรรเทาความยากจนและการเติบโต

สรุปแล้วมี 126 ประเทศ ทั้งประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา และองค์กรระหว่างประเทศ 29 แห่ง ที่ร่วมลงนามความร่วมมือกับจีนภายใต้โครงการ BRI

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนกับประเทศในโครงการ BRI เพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับ 9.37 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) ในปีที่ผ่านมา

https://news.cgtn.com/news/2021-04-20/China-s-voices-at-Boao-Multilateralism-openness-and-BRI--ZBO4YRbHfW/index.html 

Source: CGTN
Related Links:
Keywords: Banking/Financial Service Broadcast Technology Computer/Electronics Multimedia/Online/Internet Publishing/Information Service
Related News