ดับลิน และซานเตียโก, ชิลี--2 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Mainstream Renewable Power ("Mainstream" หรือ "บริษัท") บริษัทพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก บรรลุข้อตกลงทางการเงินสำหรับเฟสที่ 3 และขั้นสุดท้ายของแพลตฟอร์มพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ "Andes Renovables" ในชิลี โดยเงินทุนมูลค่า 182 ล้านดอลลาร์ที่ระดมได้มานั้นจะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างระยะ "Copihue" ซึ่งรวมถึงฟาร์มกังหันลม 1 แห่งภายใต้ชื่อ Camán ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของชิลี
โครงการดังกล่าวซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปี 2565 นั้น ในขั้นต้นมีกำลังการผลิตที่ 100 เมกะวัตต์ โดยหลังจากนั้นก็ได้เพิ่มขึ้นเป็น 148.5 เมกะวัตต์ หลังจากที่มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระดับทวิภาคีระยะยาวกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติม
การจัดหาเงินทุนโดยหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธินั้นมาจาก KfW IPEX-Bank, DNB, CaixaBank และการจัดหาเงินทุนส่วน VAT มาจาก Scotiabank Chile
ด้วยการประกาศปิดระดมทุนในวันนี้ Mainstream จึงบรรลุเป้าหมายการลงทุนมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม Andes Renovables ทั้งหมด โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2565 และจะสามารถจัดหาพลังงานราว 20% สำหรับลูกค้าควบคุมในชิลีโดยใช้พลังงานหมุนเวียน
Sacyr จะเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง Balance of Plant สำหรับฟาร์มกังหันลม Camán พร้อมดำเนินการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า ส่วน ABB จะรับหน้าที่เป็นผู้จัดหาหม้อแปลงไฟฟ้าหลัก
Mary Quaney ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Mainstream กล่าวว่า
"ภารกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ (Net Zero) ทั่วโลก จำเป็นต้องใช้การลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นระบบ ด้วยองค์กรของเราตลอดจนการร่วมมือกับพันธมิตรในตลาดที่เติบโตเต็มที่และตลาดเกิดใหม่นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสำเร็จของโมเดลการพัฒนาโครงการของเรา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้"
"Andes Renovables เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา โดยจะมีกำลังการผลิตพลังงานสะอาดอยู่ที่ 1.35 GW ซึ่งจะสร้างงานได้ราว 3,100 ตำแหน่งในระหว่างการก่อสร้าง"
"สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรมของเรา ในการจัดตั้งโครงสร้างโครงการไฮบริดด้วยการผสมผสานการผลิตลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสิ้น 10 รูปแบบ เพื่อตอบสนองความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบพลังงานที่มั่นคงตลอดระยะเวลา 20 ปี"
"นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและประสบการณ์ของเราในชิลี ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดพลังงานหมุนเวียนที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก และตอกย้ำตำแหน่งความเป็นผู้นำของเราในประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งในไม่ช้าเราจะจัดหาพลังงานซึ่งมีปริมาณเทียบเท่าการใช้พลังงานในครัวเรือนกว่า 1 ใน 5 ของชิลีจากสิ่งอำนวยความสะดวกของเรา"
Manuel Tagle ผู้จัดการทั่วไปของ Mainstream ประจำลาตินอเมริกา กล่าวว่า
"Andes Renovables จะให้พลังงานเทียบเท่าครัวเรือนในชิลีมากกว่า 1.7 ล้านหลังคาเรือน พร้อมหลีกเลี่ยงการปล่อย CO2 มากกว่า 1.6 ล้านตันต่อปี หรือเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาจากรถยนต์ประมาณ 350,000 คันต่อปี ฟาร์มกังหันลมและโซลาร์ฟาร์ม 10 แห่งที่รวมกันเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่นี้ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอันโตฟากัสตาและลอสลากอส ซึ่งความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้มีการจ่ายไฟฟ้าที่ปลอดภัยและสม่ำเสมอมากขึ้น"
"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เพิ่มขนาดพอร์ตโฟลิโอของ Copihue ขึ้น 50% ด้วยการเพิ่ม PPA ระดับทวิภาคีนอกเหนือจาก PPA ที่มีอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของเราในตลาด"
"และเราจะไม่หยุดเพียงแค่นั้น เนื่องจากเรากำลังใช้แพลตฟอร์มในด้านพลังงานหมุนเวียนและประสบการณ์ที่สั่งสมมาในฐานะผู้นำตลาดเพื่อบุกเบิกการพัฒนาใหม่ ๆ ในเทคโนโลยีเกิดใหม่ เพื่อเสริมความสามารถที่มีอยู่ และสร้างหลักประกันว่าเราอยู่แนวหน้าของเทคโนโลยีสะอาด นอกเหนือจากแพลตฟอร์ม Andes Renovables แล้ว เรายังได้ลงทุนใน Nazca Renovables ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหมุนเวียนขนาดใหญ่แห่งใหม่ และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราได้ลงนามในสัญญาการจัดหาพลังงานใหม่ 4 ฉบับกับลูกค้าเอกชน เราหวังว่าจะได้แบ่งปันข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนทั้งสองหากมีความคืบหน้าต่อไป"
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:
เกี่ยวกับ Mainstream Renewable Power ในชิลี
เมื่อปี 2559 Mainstream ชนะประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าแบบเป็นกลางทางเทคโนโลยีโครงการใหญ่ที่สุดในชิลี โดยคว้าส่วนแบ่งมากที่สุด 27% จากทั้งหมด คณะกรรมาธิการพลังงานแห่งชาติของชิลีได้ทำสัญญาในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐระยะเวลา 20 ปี เพื่อมอบหมายให้ Mainstream ผลิตไฟฟ้า 3,366 กิกะวัตต์ชั่วโมงตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป นอกจากนี้ Mainstream ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 332 เมกะวัตต์ในชิลีผ่านแพลตฟอร์ม Aela Platform ร่วมกับพันธมิตรร่วมทุนอย่าง Actis และเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อปี 2557 นอกจากนี้ Mainstream ยังมีโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 2,700 เมกะวัตต์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในชิลีด้วย
โครงการ Andes Renovables
เฟส |
ชื่อโครงการ |
บรรลุการระดมทุน |
โครงการพลังงานลมระดับเมกะวัตต์ |
โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ระดับเมกะวัตต์ |
1 |
Cóndor |
พฤศจิกายน 2562 |
3 โครงการ (426 เมกะวัตต์) |
1 โครงการ (145 เมกะวัตต์) |
2 |
Huemul |
กันยายน 2563 |
3 โครงการ (425 เมกะวัตต์) |
2 โครงการ (205 เมกะวัตต์) |
3 |
Copihue |
มิถุนายน 2564 |
1 โครงการ (148,5 เมกะวัตต์) |
--- |
ติดต่อ:
Emmet Curley, Head of Communications & Positioning
โทร: +353 86 2411 690
อีเมล: emmet.curley@mainstreamrp.com
Caroline Cutlet | Ojasvi Goel, FTI Consulting
โทร: +44 20 3727 1000
อีเมล: mainstreamRP@fticonsulting.com
เกี่ยวกับ Mainstream
Mainstream Renewable Power เป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำที่มีผลงานในระดับโลกบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับ 13 กิกะวัตต์ทั่วลาตินอเมริกา แอฟริกา เอเชียแปซิฟิก รวมถึงพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทั่วโลก ในเดือนพฤษภาคม 2564 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ Aker Horizons โดยเข้าถือหุ้น 75% ในบริษัท ส่งผลให้ Mainstream สามารถเร่งแผนการขยายธุรกิจทั่วโลกเพื่อบรรลุข้อตกลงทางการเงินมูลค่า 5.5 กิกะวัตต์ภายในปี 2566 ก่อนการเสนอขายหุ้น IPO ตามที่วางแผนไว้
Mainstream ส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 6.5 กิกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้ารวม 1.2 กิกะวัตต์ (สุทธิ) ทั่วลาตินอเมริกาและแอฟริกา ในประเทศชิลี โรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1.35 กิกะวัตต์ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของทั้งหมด กำลังจะเข้าสู่การดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในปี 2564 ขณะเดียวกัน ในทวีปแอฟริกานั้น บริษัทได้ส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 842 เมกะวัตต์เข้าสู่การดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นยังร่วมทุนกับบริษัท Lekela Power ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 410 เมกะวัตต์ในเซเนกัลและอียิปต์
Mainstream เป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งอิสระที่ประสบความสำเร็จที่สุดในระดับโลก โดยประสบความสำเร็จในโครงการ Hornsea One (1.2 กิกะวัตต์) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน รวมทั้งประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ Hornsea 2 (1.4 กิกะวัตต์) ก่อนขายโครงการเหล่านี้ในปี 2558 โดยรวมแล้ว บริษัทได้พัฒนาและขายโครงการในภายหลังซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 22% ของกำลังการผลิตลมนอกชายฝั่งของสหราชอาณาจักรไม่ว่าจะเปิดดำเนินการหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ Mainstream ยังขายสัมปทานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Neart na Gaoithe ขนาด 450 เมกะวัตต์ในสกอตแลนด์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ ขณะเดียวกัน Mainstream ได้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Soc Trang ขนาด 1.4 กิกะวัตต์ในเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จนถึงขณะนี้ Mainstream ระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการได้มากกว่า 3 พันล้านยูโร และมีพนักงานกว่า 340 คน ใน 5 ทวีป
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/686512/Mainstream_Renewable_Power_Logo.jpg?p=medium600