ฉางโจว, จีน—20 ก.ค.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริยะระดับชั้นนำของโลก ได้ประกาศเปิดตัวรายงาน 210 Vertex White Paper 2.0 ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอคุณประโยชน์ของโมดูลกำลังสูงพิเศษระดับ 210 ในอุตสาหกรรม
โมดูลกำลังสูงพิเศษระดับ 210 เกิดความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในเรื่องกำลังการผลิต สมรรถนะ และการที่ลูกค้านำไปใช้ นับตั้งแต่ที่ได้เผยแพร่รายงาน 210 Vertex White Paper 1.0 เมื่อปีที่แล้ว โดยรายงาน White Paper 2.0 ให้ความสำคัญกับการแสดงนวัตกรรมในแง่มุมต่าง ๆ รวมถึงความน่าเชื่อถือของโมดูลกำลังสูงพิเศษ ซึ่งเป็นการวางมาตรฐานใหม่และยกระดับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ไปอีกขั้น https://www.trinasolar.com/sites/default/files/20210719165500.jpg
นวัตกรรมลำดับที่ 1: โมดูล 210 เหนือกว่าด้วยการออกแบบผังที่หลากหลาย รองรับการใช้งานทุกประเภท
โมดูลทั่วไปมีการออกแบบในลักษณะ 6*10 หรือ 6*12 ขณะที่โมดูล 210 Vertex มีการออกแบบหลากหลาย ทั้งในลักษณะ 5*8, 5*10, 5*11, 6*10 และ 6*11 เป็นต้น ตามคุณลักษณะของเวเฟอร์ซิลิคอนขนาด 210mm การออกแบบเหล่านี้รองรับเทคโนโลยีเซลล์แบบ half-cut หรือ 1/3-cut เพื่อมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์การใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ให้ลูกค้า ในขณะเดียวกัน การออกแบบเหล่านี้มีขึ้นเพื่อสร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะทางไฟฟ้าของตัวโมดูล เพื่อให้คุณสมบัติด้านพื้นที่ น้ำหนัก และด้านอื่น ๆ ออกมาเหมาะสมที่สุด และยกระดับความเข้ากันได้ในการติดตั้งด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้ไม่ต้องใช้ต้นทุนเพิ่มเติมและไม่ต้องเผชิญกับปัญหาวัสดุหลักมีอย่างจำกัด โดยในกรณีการใช้งานทุกประเภทนั้น โมดูล 210 Vertex มีสมรรถนะเหนือระดับเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 40-90W ซึ่งมอบคุณประโยชน์ที่มากกว่าให้แก่ลูกค้า
นวัตกรรมลำดับที่ 2: โมดูลกำลังสตริงสูงออกแบบตามลอจิกระบบ เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ของระบบ
ปัจจัยหลักในการลดต้นทุน BOS คือการเพิ่มกำลังสตริง สตริงที่ว่านี้เป็นหน่วยวงจรพื้นฐานของระบบพลังงานแสง ไม่ว่าจะเป็นเซลล์และโมดูล ไปจนถึงสตริง อาร์เรย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงทั้งโรง กำลังสตริงนั้นปรับเพิ่มได้โดยใช้การออกแบบให้มีแรงดันต่ำและกระแสไฟสูง โดยเมื่อติดตั้งในระดับปริมาณเดียวกันแล้ว ยิ่งกำลังสตริงสูงเท่าใด สตริงที่จำเป็นต้องใช้ก็น้อยลงเท่านั้น ส่งผลให้ต้นทุน BOS ปรับตัวลดลง และเมื่อต้นทุน BOS ปรับตัวลดลงแล้ว ต้นทุนค่าโมดูลติดตาม ฐานรากเสาเข็ม เคเบิล และแรงงานปลายน้ำก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยโมดูล 600W+ มีกำลังสตริงมากกว่าโมดูลอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมถึง 41% ขณะที่ลดต้นทุน BOS ได้มากถึง 4-6% มอบข้อได้เปรียบสำคัญในการลด LCOE ลงให้มากขึ้นอีก
โมดูลกำลังสูง 600W+ ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และจากการคิดในแง่ของการใช้งานระบบ โมดูลเหล่านี้ช่วยเพิ่มกำลังสตริงและลดต้นทุน BOS
นวัตกรรมลำดับที่ 3: โซลูชันบรรจุภัณฑ์แนวตั้งสุดล้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการขนสินค้าได้ถึง 12%
นับตั้งแต่มีการใช้โมดูล 210 Vertex ทั่วโลก ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ความปลอดภัยในการขนส่ง และความสะดวกในการใช้งานจึงเข้ามามีบทบาทอย่างมาก สำหรับผลิตภัณฑ์ซีรีส์ 600W+ นั้น ทรินา โซลาร์ ได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นแบบแนวตั้ง เพื่อขจัดปัญหาความกว้างของโมดูลที่ถูกจำกัดด้วยความสูงของคอนเทนเนอร์ วิธีการบรรจุหีบห่อใหม่นี้ทำให้สามารถใช้พื้นที่ความจุภายในของคอนเทนเนอร์ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการขนย้ายเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 12% อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้ถึง 11% การบรรจุหีบห่อของโรงงานนั้นจัดทำโดยอุปกรณ์อัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด และเมื่อมีการขนย้ายพาเลทโมดูล ก็จะมีการจัดเรียงกันภายในคอนเทนเนอร์อย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน ในที่สุด การถ่ายโอนสินค้าที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้ก็บรรลุผลสำเร็จ พร้อมสร้างหลักประกันถึงการส่งมอบที่ปลอดภัยให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ โมดูล 210 ยังมีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอีก 8 อย่าง ซึ่งรวมถึงการออกแบบแรงดันต่ำ การเชื่อมต่อที่มีความหนาแน่นสูง และเครื่องมือเสริม โมดูล 210 ให้การรับประกันถึงความสามารถของอุปกรณ์อย่างเต็มที่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ได้รับการตรวจสอบอย่างครบถ้วนทั้งในแง่ของโหลดเชิงกลพลวัติ (dynamic mechanical load) จุดร้อน อุณหภูมิในการทำงาน และอื่น ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในสมุดปกขาว
https://pages.trinasolar.com/210VertexWhitepaper2.0.html
คุณค่าของเทคโนโลยี 210 อัดแน่นอยู่ในการสร้างแพลตฟอร์มเชิงเทคนิก
210 ไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังให้คุณค่าที่มากกว่าเพราะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมขั้นสูง ด้วยแพลตฟอร์มนี้ ตลอดจนการทำงานร่วมกันของนวัตกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ ร่วมด้วยการวิจัยและพัฒนา ทรินา โซลาร์ จึงได้แก้ปัญหาด้านความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ การรับประกันการจัดหาวัตถุดิบ และความเข้ากันได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอและพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มดังกล่าวมอบความเป็นไปได้ในการออกแบบโมดูลโซลาร์เซลล์และโซลูชันสำหรับลูกค้าด้วยศักยภาพสูง
ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันเซลล์แสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ทรินา โซลาร์ ซึ่งยึดมั่นต่อพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับทุกคน" จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเรียกร้องให้อุตสาหกรรมทั้งหมดส่งเสริมการจัดตั้งกลไกนวัตกรรมและนวัตกรรมระบบนิเวศเพื่อสร้างโลกใหม่ด้วยพลังงานสะอาด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดาวน์โหลดสมุดปกขาวได้ที่
https://pages.trinasolar.com/210VertexWhitepaper2.0.html
