สิงคโปร์-- 1 กันยายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Geberit Group ผู้นำด้านระบบระบายน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากยุโรป นำเสนอนวัตกรรมใหม่ SuperTube เพื่อสร้างสมดุลระหว่างสถาปัตยกรรมกับการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Geberit SuperTube คือผลสำเร็จของการวิจัยและประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายปี ผสานกับการออกแบบอัจฉริยะในการสร้างสรรค์อาคารที่มีความยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพื้นที่มีมูลค่าสูง
กิจกรรมการสร้างอาคารสีเขียวในตลาดอาคารสูงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น กฎระเบียบใหม่ของภาครัฐและแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระตุ้นให้ตลาดและลูกค้ามีความต้องการแตกต่างไปจากเดิม โดยหันมาให้ความสำคัญกับอาคารที่มีความยั่งยืน
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สิงคโปร์ได้ประกาศเป้าหมายว่าจะทำให้อาคาร 80% เป็นอาคารสีเขียวภายในปี 2573 ตามแผนแม่บท Singapore Green Building's Masterplan (SGBMP) โดยสิงคโปร์กระตุ้นให้นักลงทุนทำธุรกิจด้วยความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพื่อทำตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ด้วย ส่วนประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ก็มีสถานการณ์คล้ายคลึงกัน โดยมีความต้องการอาคารสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
หนึ่งในความท้าทายสำคัญในการสร้างอาคารสูงที่มีความยั่งยืนก็คือการใช้พื้นที่ และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างการออกแบบ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนก็คือระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง Geberit SuperTube มีการปรับปรุงวิธีการระบายน้ำแบบดั้งเดิมขนานใหญ่ จึงช่วยลดพื้นที่และวัสดุที่ใช้ในระบบระบายน้ำในอาคารได้อย่างมหาศาล
"พื้นที่อยู่อาศัยรวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์กำลังขาดแคลนและมีราคาแพง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อคนและสิ่งแวดล้อม เมื่อพื้นที่มีมูลค่าสูง เราต้องมีความยืดหยุ่นและรู้จักปรับตัวในการออกแบบและวางระบบสาธารณูปโภค ด้วยเหตุนี้ ระบบระบายน้ำที่เหมาะสมจึงเป็นทางออกในการลดใช้พื้นที่ในอาคารสูง เทคโนโลยี SuperTube ของ Geberit นำเสนอโซลูชันที่เรียบง่าย ทันสมัย และประหยัดพื้นที่อย่างแท้จริงสำหรับระบบระบายน้ำในอาคารสูง ตั้งแต่ชั้นบนสุดลงไปจนถึงชั้นใต้ดิน" Simon Wong กรรมการผู้จัดการของ Geberit กล่าว
กุญแจสำคัญของเทคโนโลยี Geberit SuperTube คือการทำให้น้ำในระบบท่อไหลอย่างราบรื่นที่สุด โดยออกแบบให้ไม่ต้องติดตั้งท่ออากาศคู่ขนานท่อระบายน้ำอีกต่อไป นอกจากนี้ SuperTube ยังแตกต่างจากระบบระบายน้ำทั่วไป เพราะไม่ต้องติดตั้งท่อระบายน้ำแนวนอนให้ลาดเอียง/ลาดชัน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลให้ใช้ท่อน้อยลงมาก จึงประหยัดวัสดุก่อสร้างและพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ Geberit SuperTube จึงสร้างสรรค์พื้นที่อยู่อาศัยที่ใช้สอยได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มพื้นที่อาคารสุทธิและความสูงของห้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างอาคารสูง
สำหรับในมุมมองด้านความยั่งยืนนั้น การใช้เทคโนโลยี Geberit SuperTube ในการก่อสร้างอาคารสูง จะช่วยให้อาคารต่าง ๆ สามารถตอบสนองความต้องการด้านความยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้นทั้งจากภาครัฐ ตลาด และสิ่งแวดล้อมเอง โดยโครงการที่ใช้ระบบท่อ SuperTube จะใช้วัสดุและพลาสติกรีไซเคิล (HDPE) น้อยลง และมีกระบวนการติดตั้งที่ง่ายขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดและมีความยั่งยืนมากขึ้น
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Geberit SuperTube ได้ที่ https://www.geberit.com.sg/products/piping-systems-for-building-drainage/geberit-supertube/
เกี่ยวกับ Geberit
Geberit Group คือผู้นำด้านเทคโนโลยีและระบบห้องน้ำจากยุโรปที่ดำเนินธุรกิจทั่วโลก Geberit มีธุรกิจที่แข็งแกร่งในเกือบทุกประเทศทั่วยุโรป โดยนำเสนอเทคโนโลยีสุขภัณฑ์และสุขภัณฑ์เซรามิกที่เพิ่มมูลค่าให้ห้องน้ำ เครือข่ายการผลิตของบริษัทประกอบด้วยโรงงานผลิต 29 แห่ง โดย 6 แห่งในจำนวนนี้อยู่ในต่างประเทศ บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองรัพเพอร์สวิล-โจนา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีพนักงานราว 12,000 คน ใน 50 ประเทศ และมียอดขาย 3.0 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2563 ทั้งนี้ Geberit จดทะเบียนในตลาด SIX Swiss Exchange และรวมอยู่ในดัชนี SMI (Swiss Market Index) ตั้งแต่ปี 2555