เฉวียนโจว, จีน--7 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
สารคดีชุด "Return to Zai Tun" กำลังออกอากาศทางเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก โดยนำเสนอเรื่องราวของเมืองเฉวียนโจว ซึ่งได้รับการจัดให้อยู่ในรายชื่อแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 44 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเมืองเฉวียนโจวได้รับการยกย่องให้เป็นศูนย์กลางทางการค้าของโลกสมัยราชวงศ์ซ่ง-หยวนของจีน หรือ "Emporium of the World in Song-Yuan China" สารคดีชุดนี้เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ครอบคลุม 170 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ใน 43 ภาษา
คำบรรยายภาพ - สำรวจอารยธรรมแห่งท้องทะเลของจีนในสารคดีชุด "Return to Zai Tun" ทางเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก
การที่เมืองเฉวียนโจวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้นถือเป็นความสำเร็จทางประวัติศาสตร์ของเส้นทางสายไหมทางทะเลตะวันออก (Eastern Maritime Silk Road) โดยนับเป็นความทรงจำและความมั่งคั่งที่มีร่วมกันของมวลมนุษยชาติที่ผู้คนทั่วโลกให้การยอมรับในฐานะสมบัติอันล้ำค่า สารคดีชุด "Return to Zai Tun" เริ่มต้นด้วยการเรียกชื่อเมืองเฉวียนโจวในสมัยโบราณ ผ่านการใช้น้ำเสียงและมุมมองในปัจจุบันมาอธิบายอย่างละเอียดถึงอดีตและปัจจุบันของ Zai Tun รวมถึงความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์
ในฐานะตัวอย่างที่โดดเด่นของท่าเรือศูนย์กลางการค้าทางทะเลของโลก และเป็นจุดเริ่มต้นเพียงจุดเดียวของเส้นทางสายไหมทางทะเลที่ UNESCO ยอมรับ เมืองเฉวียนโจวพัฒนาจากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ สู่เมืองท่าสำคัญที่เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร? การค้าทางทะเลทั่วโลกที่มีเส้นทางอันยาวไกลหลอมรวมความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลกไว้ได้อย่างไร? และก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองระหว่างวัฒนธรรมขึ้นมาได้อย่างไร อะไรคือแรงผลักดันทางประวัติศาสตร์และรากเหง้าของมรดกที่อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้กันแน่?
สารคดีชุด "Return to Zai Tun" จะใช้เวลาเพื่อค้นหาคำตอบทั้งหมด 2 ตอน รวม 90 นาที ซึ่งเปิดเรื่องโดยอิงข้อมูลจากบันทึกการเดินทางสู่ดินแดนตะวันออก "The City of Light" ของ Jacob de Ancona เพื่อถอดรหัสเอกลักษณ์ของตะวันออกและอิทธิพลของอารยธรรมทางทะเลของจีนจากมุมมองทั่วโลก ก่อนจะไปทำความรู้จักกับผู้คนหลากหลายที่รักการผจญภัย กล้าหาญ และเชื้อเชิญซึ่งมีรากเหง้าที่ยึดโยงอยู่กับท้องทะเล
สารคดีชุดนี้ดำเนินการถ่ายทำและกลั่นกรองมาเกือบ 4 ปีเพื่อให้มั่นใจว่าข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในเนื้อหาของสารคดีมีความถูกต้องแม่นยำ พร้อมทั้งนำเสนอมุมมองที่สดใหม่ โดยทีมงานฝ่ายผลิตได้เดินทางไปยังกว่า 20 ประเทศและภูมิภาคเพื่อรวบรวมเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองเฉวียนโจว รวมถึง "บันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล" (The Travels of Marco Polo) ฉบับคริสตจักร และ "The City of Light" ฉบับพิมพ์ครั้งแรกเพื่อทำการศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูล
จากพื้นฐานการทำงานดังกล่าวนี้ ทีมงานยังได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงหลายท่านจาก Chinese Academy of Social Sciences และ National Museum of China เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสำคัญของกิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางทะเลของประชาชนในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตลอดจนเพื่อไขข้อสงสัยในองค์ความรู้เดิม ทีมถ่ายทำได้ถ่ายทอดมุมมองจากเมืองเฉวียนโจว และค่อยๆ คลายปมไปตามเหตุการณ์สำคัญตลอดเส้นทางเพื่อติดตามร่องรอยที่ยังหลงเหลืออยู่และเรื่องราวร่วมสมัย เพื่อสร้างระบบการรับรู้ข้อมูลในหลายมิติโดยมีเมืองเฉวียนโจวเป็นศูนย์กลาง
สารคดียังนำเสนอรายละเอียดเพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ งานฝีมือพื้นบ้านกับวิถีสังคมโบราณ เพื่อฉายภาพของมรดกและการพัฒนา นวัตกรรม และความเป็นหนึ่งเดียวกัน ท่าเรือโบราณ Zai Tun เคยเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก และวิวัฒนาการของท่าเรือดังกล่าวยังคงจุดประกายแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุดให้กับผู้คนในทุกวันนี้
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารคดี ได้ที่ www.docuchina.cn