ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่คลื่นความร้อนที่ร้ายแรงจนถึงน้ำท่วมรุนแรง ซึ่งเอเชียได้รับผลกระทบและจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างมากต่อไป ชุมชนธุรกิจจะพลิกแนวโน้มนี้และรักษาความยั่งยืนของธุรกิจและทุนมนุษย์ได้อย่างไร ด้วยความเสี่ยงต่อ GDP มูลค่า 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ งาน LESA 2021 พยายามที่จะแก้ไขปัญหานี้และปัญหาอื่น ๆ
กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย--19 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เอเชียคือภูมิภาคลำดับต้น ๆ ในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ โดยจะได้รับความเสียหายมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (มูลค่า GDP สูงถึง 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ตามการวิเคราะห์ล่าสุดของ McKinsey) วิทยาศาสตร์มีความชัดเจน และภาคการเงินได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากน้ำท่วมรุนแรง ไต้ฝุ่น และภัยแล้ง ขณะที่การลงทุนทั่วโลกด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ได้ประสบกับคลื่นแห่งการเติบโตหลังเกิดการระบาดครั้งใหญ่และการตั้งเป้าหมายใหม่ด้านความยั่งยืน โดยคาดว่าสินทรัพย์ ESG จะมีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารภายในปี 2568 (ที่มา: Bloomberg)
แม้ต้นแบบธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน การประเมินความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ และการลงทุน ESG ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เกิดขึ้นแล้ว ธุรกิจในเอเชียพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้หรือไม่ เราจะเริ่มลดผลกระทบได้อย่างไร สายเกินไปหรือเปล่า ศ. John Sterman ผู้อำนวยการโครงการ MIT Sloan Sustainability Initiative และวิทยากรในการประชุม Leadership for Enterprise Sustainability Asia (LESA 2021) ที่กำลังจะจัดขึ้นในปีนี้ ยืนกรานว่าเรายังมีความหวัง
ศ. Sterman จะเป็นผู้นำสำคัญของงานนี้ ซึ่งจัดโดย Asia School of Business ที่ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย งานนี้จะเน้นไปที่ความเร่งด่วนสำหรับธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกิดใหม่ในการดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศและวางแผนแนวทางใหม่ในอนาคต โดยตัวแทนจากองค์กรต่าง ๆ เช่น MIT Sloan, McKinsey & Company, Esquel Group, BlackRock, United Overseas Bank (UOB) และอื่น ๆ อีกมากมายจะร่วมบรรยายในงาน LESA 2021 เช่นกัน
LESA 2021 เชิญชวนผู้นำธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมในการสนทนาประเด็นความท้าทาย รวมถึงโซลูชันและเทคโนโลยีเชิงเศรษฐกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์ เพื่อปรับตัวและเผชิญกับเศรษฐกิจโลกร้อน (climate-changed economy) ในบริบทของเอเชีย ในขณะที่ผู้นำทางธุรกิจในภูมิภาคต่างเตรียมพร้อมสำหรับ "ยุค Next Normal" เช่นเดียวกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และสิงคโปร์ที่เพิ่งให้คำมั่นสัญญาในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
ศ. Charles H. Fine, (Ph.D. Stanford) ซีอีโอ ประธาน และคณบดีของ Asia School of Business กล่าวว่า "แทนที่จะปล่อยสิ่งต่าง ๆ ตามหลัก "รอดูต่อไป" ที่ประชาชนต้องพึ่งพาธุรกิจ บริษัทขนาดเล็กพึ่งพาให้กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่เป็นผู้นำ และรัฐบาลชี้นิ้วให้รัฐบาลอื่น ๆ ดำเนินนโยบาย แต่ LESA 2021 มีเป้าหมายที่จะสื่อสารข้อความว่า ทุกบุคคลและองค์กรล้วนมีบทบาทและความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก่อนที่ผลลัพธ์จะย้อนคืนไม่ได้"
แบ่งการเปลี่ยนแปลงออกเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ ที่ทำได้
หลังจากที่ใช้เวลาหลายทศวรรษในการศึกษาปฏิกิริยาและความพยายามของผู้คนในการลดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ศ. Sterman ยืนยันว่าผู้คนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม "ปัญหาหลักคือผู้คนจมอยู่กับความซับซ้อนและความล่าช้าเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามักคุ้นเคยกับการได้ผลตอบรับทันที"
เมื่อเราต้องเผชิญกับผลที่ตามมาซึ่งดูเหมือนเป็นหายนะ รุนแรง และสิ้นหวัง เขากล่าวไว้ว่า "คนส่วนใหญ่มักจะโน้มน้าวตัวเองว่า "ปัญหาไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น" "อุตสาหกรรมจะแก้ปัญหาได้" หรือ "รัฐบาลจะจัดการเอง""
ศ. Sterman ท้าทายแนวคิดเหล่านี้และเรียกร้องให้ผู้คนดำเนินการทั้งส่วนบุคคลและส่วนรวม โดยพัฒนาแบบจำลอง En-ROADS และ C-ROADS ซึ่งเปรียบเทียบกับอ่างอาบน้ำ ("ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเหมือนกับปริมาณน้ำในอ่างอาบน้ำ หากคุณเติมน้ำใส่อ่างเร็วกว่าที่ระบายออก น้ำก็จะสูงขึ้นจนล้น ตามกฎฟิสิกส์พื้นฐาน") และเปิดเผยแบบจำลองให้ประชาชนทั่วไปได้เห็น ในทำนองเดียวกับที่นักบินต้องเตรียมตัวเผื่อเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตก การจำลองจะช่วยสอนและฝึกอบรมนักบินให้สามารถดำเนินการปรับเปลี่ยนที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องบินตกได้
"บทสรุปของการจำลองจะเหมือนกันเสมอ เราทุกคนล้วนมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนใดที่เล็กเกินไป ผู้ที่ร่วมมือมักจะมีพลังเสมอ" ศ. Sterman กล่าวสรุป โดยเขาเคยดำเนินการจำลองดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ทั้งสำหรับหน่วยงานรัฐบาล บริษัท และเอ็นจีโอระดับสูงในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และสำหรับนักศึกษา รวมถึงที่ Asia School of Business
ความคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ที่เชื่อว่าผลสะสมของการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เคลื่อนภูเขาได้ คือข้อความสำคัญที่ Asia School of Business พยายามจะเผยแพร่ผ่านการประชุม LESA 2021 ในปีนี้
การลงมือและการเปลี่ยนแปลงเกิดจากความคิด
"เอเชียมีโอกาสที่ดีที่จะวางแผนแนวทางใหม่ในการจัดการความเสี่ยงด้านสังคม เศรษฐกิจ และสภาพอากาศ แต่การกำหนดขอบเขตความคิดใหม่จะต้องอาศัยแนวคิด แนวทาง ความกล้าหาญ ความคล่องตัว และกรอบความคิดเชิงกลยุทธ์ที่สดใหม่" ศ. Fine กล่าว
งาน LESA ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 9 ในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 15-18 พ.ย. 2564 โดยปีนี้จัดแบบออนไลน์
การประชุมประกอบด้วยเนื้อหามากกว่า 16 ชั่วโมงในระยะเวลา 4 วัน โดยมีผู้นำธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลเชิงลึกและการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนสำหรับเอเชีย
นอกจากนี้ งานประชุมยังมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การมอบรางวัล Iclif Leadership Energy Awards (ILEA) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Maybank และเป็นการยกย่องบุคคลที่ใช้สถานะ "Leadership Energy in Action" ของตัวเองเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและยั่งยืนในองค์กรหรือชุมชนของตน และการประชุมยังได้รับการสนับสนุนจาก Associate Sponsor Sarawak Energy อีกด้วย
การประชุม LESA 2021 กำหนดให้ความยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญสำหรับ ASB และความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการสร้างการตระหนักรู้ในหมู่ผู้นำธุรกิจ โดยขอมอบบัตร Discovery Pass ฟรีให้กับผู้ที่สนใจ บัตร Discovery Pass มีการจำกัดจำนวนการประชุมที่เลือกไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่เผยแพร่ในงาน LESA เป็นที่เข้าถึงมากขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์ LESA แบบเต็มรูปแบบ โดยซื้อบัตรเข้างานแบบ All-Access Pass ที่ครอบคลุมการบรรยาย ชั้นเรียน และการอภิปรายทั้งหมด (แบบสดและแบบ on-demand) ได้ที่ https://asb.edu.my/lesa