omniture

เมอร์คขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ พร้อมเพิ่มสมรรถนะเพื่อพัฒนาวิธีการรักษาด้วยยา Antibody-drug Conjugate (ADC) รุ่นใหม่

Merck
2021-10-30 00:15 233

ChetoSensar™ เทคโนโลยีเฉพาะตัวของเมอร์ค เป็นสัญญาณใหม่ของแนวโน้มที่ดีในการพัฒนา ADC ด้วยการจัดการกับปัญหาความท้าทายจากคุณสมบัติการละลาย

แพลตฟอร์ม DOLCORE™ ใหม่เพิ่มความเร็วในการตอบสนองตลาดได้สูงสุดหนึ่งปี

การขยายศูนย์การผลิต ADC เชิงคลินิกส่งเสริมการพัฒนา ADC รุ่นใหม่ โดยเป็นการต่อยอดจากประสบการณ์การเป็นองค์กรรับพัฒนาและผลิตตามสัญญา (CDMO) ระยะเวลา 15 ปีของบริษัท

เสริมสร้างความตั้งใจของบริษัทในการเร่งการเติบโตสามธุรกิจสำคัญ "Big Three" รวมถึงบริการ CDMO ภายใต้ Process Solutions ของบริษัท สำหรับวิธีการรักษาทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่

ดาร์มสตัดท์, เยอรมนี--29 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศว่าธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ของบริษัทได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ และขยายสมรรถนะในการพัฒนาวิธีการรักษาด้วย ADC ทิศทางเช่นนี้แสดงถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเมอร์คในการพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ ๆ อีกทั้งยังสนับสนุนความพยายามของบริษัทในการเพิ่มกำลังการผลิต ADC และสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรมศักยภาพสูง (high-potent active pharmaceutical ingredient หรือ HPAPI) ให้สูงขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคตอันใกล้นี้

Merck launches new technology and expands capacity to advance antibody-drug conjugate (ADC) therapies.
Merck launches new technology and expands capacity to advance antibody-drug conjugate (ADC) therapies.

"ยา ADC มีการเติบโตอย่างน่าทึ่ง โดย ADC ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสามเท่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา" Andrew Bulpin หัวหน้าแผนก Process Solutions ฝ่ายชีววิทยาศาสตร์ของเมอร์ค กล่าว "เราเป็นผู้บุกเบิกในด้านนี้ โดยเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับ 50% ของ ADC ที่ได้รับอนุมัติให้จำหน่ายเชิงพาณิชย์ในตลาดในปัจจุบัน นวัตกรรมใหม่ล่าสุดและสมรรถนะเพิ่มเติมนี้จะช่วยชักนำให้เกิดยารักษาใหม่ให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลก ตลอดจนส่งเสริมพันธกิจของเราในการกรุยทางสู่อนาคตสำหรับวิธีการรักษาใหม่ ๆ เหล่านี้

ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยี ChetoSensar™ เมอร์คได้อยู่ระดับแนวหน้าในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับสารไม่ชอบน้ำของ ADC ร่วมกับบริการ CDMO ของบริษัท สารที่มีศักยภาพเป็น ADC หลายตัวมีคุณสมบัติการละลายน้ำต่ำ โดยเมอร์คคาดว่ากว่า 20% ของการยุติการดำเนินการทางคลินิกกับ ADC มีสาเหตุมาจากปัญหานี้ เทคโนโลยี ChetoSensar™ ใหม่ของบริษัทช่วยปรับปรุงคุณสมบัติการละลายของ ADC จึงสร้างแนวโน้มที่ดีสำหรับ ADC ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการยุติไป

เพย์โหลดที่มักใช้ผลิต ADC คือโมเลกุลที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งต้องมีการสังเคราะห์หลายขั้นตอน จากการคำนวณของเมอร์ค แพลตฟอร์ม DOLCORE™ ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาและการผลิตได้อย่างมาก จึงช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองตลาด (speed-to-market) สำหรับเพย์โหลด ADC แบบใหม่ที่ทำจาก Dolostatin ได้เป็นเวลาสูงสุดหนึ่งปี

นอกจากนี้ บริษัทจะยกระดับสมรรถนะศูนย์การผลิตเชิงคลินิกของบริษัทในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคมนี้ ศูนย์การผลิตแห่งนี้จะมีสมรรถนะมากขึ้นเพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตระดับใหญ่ รวมถึงการทำให้บริสุทธิ์แบบ chromatographic purification สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการทางคลินิกระยะแรก แผนการนี้เกิดขึ้นหลังจากการประกาศเมื่อปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการขยายศูนย์การผลิตของเมอร์คใกล้เมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยงบประมาณ 59 ล้านยูโร ซึ่งจะเพิ่มสมรรถนะการผลิตนำร่องสำหรับสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรมศักยภาพสูงเป็นสองเท่า และช่วยให้บริษัทเร่งการผลิตสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม ส่วนเชื่อมประสานและเพย์โหลด ADC และสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API) ที่ซับซ้อนได้

นวัตกรรมนี้และสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นเป็นการสนับสนุนความตั้งใจของบริษัทในการเร่งการเติบโตด้วยการลงทุนในสามธุรกิจสำคัญ "Big Three" โดยมีหน่วยธุรกิจ Process Solutions ภายใต้ภาคธุรกิจชีววิทยาศาสตร์เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

ด้วยประสบการณ์ 15 ปีในการพัฒนาและผลิต ADC เมอร์คมีบริการ CDMO ที่ไม่เหมือนที่อื่นใด ซึ่งยกระดับประสิทธิภาพด้วยการใช้ผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์สูงรายเดียว บริษัทใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกและความเชี่ยวชาญเชิงลึกในการปรับใช้โมเลกุลแต่ละชนิดตามคุณสมบัติเฉพาะตัว พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับลูกค้าอย่างที่ผู้ผลิตยาต้องการในการบรรลุความสำเร็จที่สำคัญของพวกเขา เมอร์คบูรณาการการพัฒนาและผลิตตามสัญญากับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่หลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับหลายวิธีการรักษา ลูกค้ายังสามารถใช้บริการ BioReliance® จากบริการตรวจสอบความปลอดภัยทางชีวภาพระดับแนวหน้าของบริษัทได้ด้วย

ก่อนหน้านี้ เมอร์คได้ประกาศโครงการขยายธุรกิจในเมืองดาร์มสตัดท์ ประเทศเยอรมนี, เมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์, เมืองบูคส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, เมืองคาร์ลสแบด รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ, เมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐ, เมืองแจฟฟรีย์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐ และเมืองแดนเวอร์ส รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐ แผนการขยายธุรกิจเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะเวลาหลายปี ที่มุ่งเพิ่มสมรรถนะเชิงอุตสาหกรรมและสมรรถนะของภาคธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ เพื่อสนับสนุนความต้องการยาช่วยชีวิตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ตลอดจนสร้างประโยชน์ให้แก่วงการสาธารณสุข

ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้

เกี่ยวกับเมอร์ค
เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์ พนักงานประมาณ 58,000 คนของบริษัทต่างทุ่มเทในการสร้างความแตกต่างที่ดีต่อชีวิตของผู้คนหลายล้านคนในทุก ๆ วัน ด้วยการนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตที่มีความสุขและยั่งยืนยิ่งขึ้น เมอร์คเป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีน ไปจนถึงการเสาะหากลวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ท้าทายที่สุด ตลอดจนการคิดค้นอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยในปี 2563 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.75 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ

การสำรวจทางวิทยาศาสตร์และการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คือหัวใจหลักในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมอร์ค ทั้งยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเมอร์คนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 ปัจจุบัน ครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์เมอร์คทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ของเมอร์คดำเนินงานภายใต้ชื่อ อีเอ็มดี เซโรโน ในวงการดูแลสุขภาพ , มิลลิพอร์ซิกมา ในวงการชีววิทยาศาสตร์ และอีเอ็มดี อิเล็กทรอนิกส์

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1671958/Merck_Germany_Next_Gen_ADCs.jpg?p=medium600 

Source: Merck
Keywords: Biotechnology Health Care/Hospital Medical Equipment Medical/Pharmaceuticals Corporate Expansion New products/services