ชิงเต่า จีน--5 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ไฮเซ่นส์ (Hisense) บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและเครื่องใช้ภายในบ้านชั้นนำระดับโลก ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ซีรีส์ ULED 8K Mini-LED และโซลูชันเทคโนโลยีจอแสดงผลด้วยเลเซอร์ความละเอียด 8K ที่งาน CES 2022 ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีระดับโลก โดยคุณดั๊กลาส เคิร์น ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดของไฮเซ่นส์ในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตได้ ไฮเซ่นส์มุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงและคุณภาพสูงที่เกินความคาดหมายของผู้บริโภคเสมอมา"
ไฮเซ่นส์ใช้ประโยชน์จากการขยายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและนวัตกรรมชั้นนำของอุตสาหกรรม จนมียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็ว ไฮเซ่นส์ระบุว่า รายได้ของไฮเซ่นส์กรุ๊ปนั้นมากกว่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบรายปี
ผสานรวมเทคโนโลยี ULED และ Mini LED อันน่าตื่นตา ยกระดับคุณภาพของภาพและความสว่าง
ประสิทธิภาพและคุณภาพของภาพเป็นรากฐานของผลิตภัณฑ์ของไฮเซ่นส์ ในปี 2565 ไฮเซ่นส์ใช้เทคโนโลยี Mini LED ของตัวเองในกลุ่มผลิตภัณฑ์ U9H ระดับพรีเมียมใหม่เป็นครั้งแรก ให้ประสิทธิภาพ HDR ที่น่าทึ่งด้วยความคมชัดที่ดีกว่าเดิม ภาพที่สว่างกว่าเดิม และสีที่น่าประทับใจกว่าที่เคย ทีวีไฮเซ่นส์ 85U9H 8K ยังได้รับรางวัล CES® 2022 Innovation Award Honoree ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนถึงความพยายามอย่างจริงจังของไฮเซ่นส์ในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี - ยกระดับความเป็นผู้นำในโซลูชันเทคโนโลยีจอแสดงผลเลเซอร์ความละเอียด 8K
ไฮเซ่นส์สร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำอุตสาหกรรม Laser TV เข้าสู่ยุค TriChroma และสร้างเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อผลักดันทีวีเลเซอร์จากความละเอียดตั้งแต่ 1080P, 2K, 4K จนถึง 8K ดร.หลิว เซียนหรง หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และผู้จัดการทั่วไปของ Hisense Laser Display แนะนำว่า Laser TV เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับจอแสดงผลความละเอียด 8K ภายในบ้าน โทรทัศน์ความละเอียด 8K ให้ความลึกและรายละเอียดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการดูภาพที่แท้จริงในจอขนาดใหญ่ที่สุดจาก Laser TV ความละเอียด 8K เครื่องแรกของโลก
ด้วยการให้ความสำคัญกับ Hisense Strategic Vision สำหรับปี 2565 เดวิด แวนเดอร์วาล รองประธานฝ่ายการตลาดของไฮเซ่นส์ประจำทวีปอเมริกาได้ระบุว่า ไฮเซ่นส์มุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตของผู้คนหลายร้อยล้านคนง่ายขึ้น ดีขึ้น และได้รับความบันเทิงมากขึ้นผ่านการออกแบบที่คิดมาอย่างรอบคอบ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างมาเป็นอย่างดี ในปี 2565 ไฮเซ่นส์จะเดินหน้าชูแรงขับเคลื่อนของนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา ให้ความสำคัญกับความจำเป็นของผู้ใช้งาน ยึดมั่นกับแนวทางที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ โดยมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมเป็นแกนหลัก และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมผ่านนวัตกรรมและความร่วมมือ