Forever Oceans ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลบราซิล ในโครงการสัมปทานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อผลิตอาหารทะเลอย่างยั่งยืน

- พื้นที่สัมปทานมีขนาดใหญ่กว่ากรุงวอชิงตันดีซีสามเท่าครึ่ง

- ข้อตกลงครั้งสำคัญนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตปลากลุ่ม Finfish ของ Forever Oceans กว่า 25% พร้อมทั้งผลักดันให้บราซิลกลายเป็นผู้นำรายใหม่ด้านอาหารทะเลยั่งยืน

บราซิเลีย, บราซิล--14 มกราคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

คุณ Bill Bien ซีอีโอของบริษัท Forever Oceans ผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารทะเลยั่งยืน ได้เข้าพบคุณ Jorge Seif Junior เลขาธิการฝ่ายการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการประมง ของกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และอุปทานอาหาร เพื่อลงนามในข้อตกลงสัมปทานซึ่งจะทำให้บราซิลกลายเป็นผู้นำรายใหม่ในด้านการผลิตอาหารทะเลยั่งยืน โดยข้อตกลงเบื้องต้นระยะเวลา 20 ปีได้อนุญาตให้ Forever Oceans ดำเนินการเลี้ยงปลาในมหาสมุทรในพื้นที่ปิดล้อมพร้อมระบบอัตโนมัติในสองโซน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งของรัฐบาเยีย 7-15 กิโลเมตร (4.3-9.3 ไมล์) นับเป็นสัมปทานนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ที่สุดในส่วนของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในทะเลอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมพื้นที่รวม 64,200 เฮกตาร์ หรือใหญ่กว่ากรุงวอชิงตันดีซีสามเท่าครึ่ง และคาดว่าโครงการนี้จะสร้างงานสูงสุด 500 ตำแหน่งตลอดระยะเวลา 8 ปีข้างหน้า

(L-R) Mr. John Lopes, Forever Oceans President, Brazil, Mr. Bill Bien, Forever Oceans CEO, Brazilian President Mr. Jair Bolsonaro, Secretary of Aquaculture and Fisheries Mr. Jorge Seif Júnior, attending to an event at the Palácio do Planalto, in Brasília, where the contract for Concession of the Use of Union Domain Waters between the Union and Forever Oceans. Photo credit: Alan Santos/PR

"บราซิลมีชายฝั่งความยาวรวมกว่า 8,500 กิโลเมตร จึงเป็นหัวหอกสำคัญในการผลิตปลา ซึ่งนอกจากจะช่วยผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยสร้างงานและรายได้อีกด้วย" คุณ Seif กล่าว "ข้อตกลงนี้มีความสำคัญอย่างใหญ่หลวงสำหรับบราซิล และจะทำให้บราซิลอยู่บนเส้นทางของการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในทะเลอย่างยั่งยืน"

ในปี 2561 ตลาดการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในทะเลทั่วโลกผลิตปลากลุ่ม Finfish รวม 7.3 ล้านเมตริกตัน คิดเป็นมูลค่าราว 3.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ [1] นอกจากนี้ คาดว่าความต้องการปลากลุ่ม Finfish ที่เพาะเลี้ยงในทะเลจะเพิ่มขึ้นสามเท่าทั่วโลก สู่ระดับ 21 ล้านเมตริกตันภายในปี 2593 [2] เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นหันมาบริโภคปลาเพื่อสุขภาพที่ดี

"ข้อตกลงครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนของอาหารทะเลที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งทำให้เรามีพื้นที่ในการขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็ว ตลอดจนมีโอกาสพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพการผลิตอาหารทะเลยั่งยืนนอกชายฝั่งมากที่สุดในโลก" คุณ Bien กล่าว "เราจะนำแนวทางที่แตกต่างของเรามาสู่น่านน้ำของบราซิล โดยจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเรา ประกอบกับการอนุรักษ์และการพัฒนานวัตกรรม เพื่อเลี้ยงปลาที่มีรสชาติอร่อยและอุดมไปด้วยโปรตีนในทะเลลึก ด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน ซึ่งดีต่อผู้คนและโลกของเรา"

นอกจากพื้นที่ใหม่ในบราซิลแล้ว บริษัทจากรัฐเวอร์จิเนียในสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในฮาวาย รวมทั้งมีการดำเนินงานนอกชายฝั่งในปานามา พร้อมมีแผนขยายการดำเนินงานนอกชายฝั่งในอินโดนีเซียด้วย

สำหรับในบราซิลนั้น บริษัทจะเลี้ยงปลา Forever Oceans Amberjack หรือที่เรียกในท้องถิ่นว่าปลา "Olho de Boi" หรือ Remeiro ซึ่งเป็นปลาในกลุ่ม Finfish ที่มีประโยชน์หลากหลาย และขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติ โปรตีน สารอาหาร อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมกา-3

ขณะเดียวกัน สถานที่ฟักไข่สัตว์น้ำซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งของเมืองอิลเฮอุส รัฐบาเยีย ประเทศบราซิล จะเลี้ยงลูกปลาตั้งแต่ยังเป็นไข่ ก่อนนำไปไว้ในพื้นที่ปิดล้อมขนาดใหญ่ในทะเลลึก เพื่อให้ปลาได้ว่ายน้ำและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าและได้รับการคุ้มครอง โดยในเบื้องต้นจะมีพื้นที่ปิดล้อมพร้อมระบบอัตโนมัติรวม 24 พื้นที่ภายในสองโซนในมหาสมุทร ซึ่งถือเป็นเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วยความรับผิดชอบและเป็นมิตรต่อระบบนิเวศ โดยการดำเนินงานในบราซิลคาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานรายได้ดีราว 300-500 ตำแหน่งภายในระยะเวลา 8 ปี เมื่อมีการดำเนินงานเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2564 Forever Oceans ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 25 สุดยอดผู้พัฒนานวัตกรรมอาหารทะเล โดยนิตยสาร Seafood Source 

เกี่ยวกับ Forever Oceans

Forever Oceans คือผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารทะเลยั่งยืน พันธกิจของเราคือการสร้างแนวทางใหม่ให้กับโลกในการผลิตอาหารทะเลที่อร่อยและยั่งยืน ซึ่งดีกับผู้คนและโลกของเรา โดยเรารู้จักปลา เรารู้จักการอนุรักษ์ และเรารู้จักประยุกต์ใช้นวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ปิดล้อมที่มีความแข็งแรงคงทน และการดำเนินงานประจำวันโดยอัตโนมัติด้วยระบบที่ก้าวหน้า ซึ่งทำให้การดำเนินงานของเรามีประสิทธิภาพ ทั้งยังบูรณาการเข้ากับสิ่งแวดล้อม และช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เมื่อไม่นานมานี้ Forever Oceans เพิ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทอาหารทะเลที่มีนวัตกรรมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา โดยนิตยสาร Seafood Source 

เรามีศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในฮาวาย รวมถึงมีการดำเนินงานนอกชายฝั่งในปานามาและบราซิล และวางแผนว่าจะขยายการดำเนินงานไปยังอินโดนีเซีย ทั้งนี้ อาหารทะเลยั่งยืนของเราจะพร้อมเสิร์ฟในร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นปี 2565 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ForeverOceans.com

อ้างอิง

[1] FAO UN https://www.fao.org/fishery/en/aquaculture/en 

[2] Oceans' Future to 2050 Marine Aquaculture Forecast'. 2021 report by DNV.
https://www.dnv.com/Publications/marine-aquaculture-forecast-to-2050-202391

(From Left) Mr. John Lopes, President Mr. Jair Bolsonaro, Secretary of Aquaculture and Fisheries Mr. Jorge Seif Júnior, and Minister of Citizenship Mr. Joao Roma holding the signed contract. Photo credit: Alan Santos/PR

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1726005/Forever_Oceans_Brazil_Press_Image_1.jpg?p=medium600

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1726006/Forever_Oceans_Brazil_Press_Image_2.jpg?p=medium600

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1675207/Forever_Oceans_Logo.jpg?p=medium600