ความตกลงครั้งนี้มุ่งสร้างผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่งระดับแนวหน้าในสหราชอาณาจักร หมู่เกาะแชเนิล และไอร์แลนด์
โทรอนโต--31 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา (Royal Bank of Canada หรือ RBC) ประกาศว่า รอยัลแบงก์ออฟแคนาดาจะเข้าซื้อกิจการบริษัทเบรวิน ดอลฟิน (Brewin Dolphin) หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบริษัท เบรวิน ดอลฟิน โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) (Brewin Dolphin Holdings PLC) ("เบรวิน ดอลฟิน") และได้รับการอนุมัติด้านการกำกับดูแลทั้งหมด
บริษัท รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เวลธ์ แมเนจเมนต์ (เจอร์ซีย์) โฮลดิงส์ จำกัด (RBC Wealth Management (Jersey) Holdings Limited) ("Bidco") บริษัทลูกที่รอยัลแบงก์ออฟแคนาดาเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ได้เผยแพร่ประกาศตามกฎ 2.7 (Rule 2.7) ในสหราชอาณาจักรภายใต้กฎหมายการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (City Code on Takeovers and Mergers) โดยได้ประกาศราคาเสนอซื้อเป็นเงินสดสำหรับทุนเรือนหุ้นทั้งหมดที่มีและที่จะมีของบริษัทเบรวิน ดอลฟินที่ราคา 515 เพนซ์ต่อหุ้น บ่งชี้มูลค่าหุ้นทั้งหมดที่ราว 2.6 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (1.6 พันล้านปอนด์) โดยคำนวณตามราคาถัวเฉลี่ยของหุ้นเมื่อพิจารณาผลกระทบทั้งหมดหลังการเสนอซื้อขายหุ้น (fully diluted)
เบรวิน ดอลฟิน เป็นหนึ่งในบริษัทอิสระระดับแนวหน้าของสหราชอาณาจักรผู้ให้บริการการบริหารจัดการความมั่งคั่งด้วยดุลยพินิจในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ โดยมีเครือข่ายสำนักงานกว่า 30 แห่งและมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการรวม 59,000 ล้านปอนด์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เบรวิน ดอลฟิน มีผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจในด้านการเติบโตและนวัตกรรม และมีผลงานในการให้บริการลูกค้าอย่างเหนือชั้นประกอบกับมีผลการดำเนินงานด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน
ดั๊ก กัซแมน (Doug Guzman) ประธานฝ่ายบริการบริหารจัดการความมั่งคั่ง ประกัน และการลงทุนของเครือรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา กล่าวถึงการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ว่า "สหราชอาณาจักรเป็นตลาดการเติบโตที่สำคัญสำหรับรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา และเบรวิน ดอลฟินเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการบริหารจัดการความมั่งคั่งของเราในภูมิภาคแห่งนี้ เนื่องจากรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เวลธ์ แมเนจเมนต์อยู่ในอันดับ 3 ในตลาดสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำตลาดในแคนาดา และมีตำแหน่งที่กำลังเติบโตในสหรัฐอเมริกา ด้วยการรวมสองธุรกิจที่ส่งเสริมกันอย่างมากนี้ เราจะเพิ่มความลึกและความกว้างของบริการต่าง ๆ ของเรา ตลอดจนสถานะของธุรกิจที่รวมกัน ในการเป็นผู้ให้บริการการบริหารจัดการความมั่งคั่งแบบบูรณาการระดับแนวหน้าสำหรับลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าที่เป็นสถาบัน"
"ทีมบริหารของทั้งสองบริษัทรู้สึกตื่นเต้นกับวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในเรื่องบริการลูกค้าคุณภาพสูง วัฒนธรรมการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และโอกาสการเติบโตที่ยอดเยี่ยมที่เราสามารถบรรลุร่วมกัน เรามุ่งที่จะลงทุนต่อไปในธุรกิจที่รวมกันนี้และยกระดับให้สูงยิ่งขึ้น เรามั่นใจว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะนำประโยชน์มาสู่ลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราร่วมกัน"
เดวิด โธมัส (David Thomas) ซีอีโอกิจการตลาดทุนของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาประจำภูมิภาคยุโรป และประธานฝ่ายการบริหารจัดการความมั่งคั่ง กล่าวว่า "นี่เป็นการเข้าซื้อกิจการที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เวลธ์ แมเนจเมนต์ และเสริมสร้างสถานะของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาในการเป็นผู้นำตลาดในหลายแพลตฟอร์มธุรกิจในสหราชอาณาจักร หมู่เกาะแชเนิล และยุโรป เราตั้งตารอที่จะได้ต้อนรับพนักงานและลูกค้าของเบรวิน ดอลฟิน และทำงานร่วมกันเพื่อใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงระดับโลกและสมรรถนะที่สำคัญของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการเติบโตของธุรกิจที่มารวมกันนี้"
โรบิน เบียร์ (Robin Beer) ซีอีโอบริษัทเบรวิน ดอลฟิน กล่าวว่า "คณะกรรมการบริษัทเบรวิน ดอลฟินยินดีที่ได้นำเสนอข้อเสนอนี้ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของเรา ลูกค้าของเรา บุคลากรของเรา และคู่ค้าทางธุรกิจของเรา ด้วยการสานต่อการเติบโตจากภายในที่เราได้บรรลุมาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจที่มารวมกันนี้จะสร้างแพลตฟอร์มที่น่าดึงดูดสำหรับการเติบโตในอนาคต ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เราจะสามารถให้บริการลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนขยายช่องทางการกระจายบริการของเราด้วยการใช้ประโยชน์จากบทบาทระดับโลกของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เราต่างมีคุณค่าที่ส่งเสริมกัน ซึ่งเน้นย้ำความสำคัญของความสัมพันธ์ลูกค้าที่ยืนยาว และวัฒนธรรมการให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มคนที่สนับสนุนพนักงานและชุมชนท้องถิ่น เราจะมุ่งเน้นการรักษาความต่อเนื่องเพื่อที่จะได้สานต่อสิ่งที่ได้บรรลุมาแล้ว ผมตั้งตารอที่เราจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับสถานะในตลาด สู่การเป็นผู้บริหารจัดการความมั่งคั่งชั้นนำที่มุ่งเน้นด้านการให้คำปรึกษาและใช้ระบบดิจิทัล"
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้อัตราส่วนตราสารทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Common Equity Tier 1 หรือ CET1) ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาลดลงราว 40 bps[1] ณ วันที่การซื้อกิจการมีผล[2] รอยัลแบงก์ออฟแคนาดาเชื่อว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับค่าแล้วสำหรับรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาเพิ่มขึ้นราว 1% ในปีแรกหลังจากวันที่การซื้อกิจการมีผล โดยไม่รวมประโยชน์จากการรวมกิจการด้านรายรับ[3] ในระยะกลางรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาเชื่อว่าธุรกิจการบริหารจัดการความมั่งคั่งที่รวมกันในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และหมู่เกาะแชเนิลจะสามารถสร้างรายรับจากอัตราการเติบโตของพอร์ตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ราว 9% และมีผลกำไรก่อนชำระภาษีที่ปรับค่าแล้วที่ราว 0.5 พันล้านดอลลาร์แคนาดา รวมถึงประโยชน์จากการรวมกิจการในด้านต้นทุนและรายรับ[4] การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้คาดว่าจะสร้างอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR)[5] เป็นตัวเลขสองหลัก ไม่รวมประโยชน์จากการรวมกิจการด้านรายได้ในอนาคต
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขตามธรรมเนียมปฏิบัติหลายประการในประกาศตามกฎ 2.7 รวมถึงการอนุมัติด้านการกำกับดูแลและการอนุมัติของผู้ถือหุ้นของเบรวิน ดอลฟิน เราคาดว่าการดำเนินการครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565
ดูรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ในประกาศตามกฎ 2.7 ได้ที่ https://www.rbc.com/investor-relations/offer-for-brewin-dolphin.html
เกี่ยวกับรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา (Royal Bank of Canada) คือสถาบันการเงินระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายและหลักการเพื่อบรรลุผลสำเร็จ ความสำเร็จของเรามาจากพนักงานกว่า 88,000 คนที่ทำให้วิสัยทัศน์ คุณค่า และกลยุทธ์ของเรากลายเป็นความจริง เราจึงสามารถช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จและช่วยให้ชุมชนเจริญรุ่งเรือง ในฐานะธนาคารรายใหญ่ที่สุดในแคนาดาและธนาคารรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เราดำเนินกลยุทธ์กระจายธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการมอบประสบการณ์อันเหนือชั้นให้แก่ลูกค้า 17 ล้านรายในแคนาดา สหรัฐอเมริกา และอีก 27 ประเทศทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ rbc.com
เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนโครงการระดับชุมชนมากมายผ่านการบริจาค การลงทุนในชุมชน และการจัดกิจกรรมอาสาสมัครสำหรับพนักงาน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ rbc.com/community-social-impact
เกี่ยวกับรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เวลธ์ แมเนจเมนต์ รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เวลธ์ แมเนจเมนต์ (RBC Wealth Management) ให้บริการแก่ลูกค้าที่ร่ำรวย มีความมั่งคั่งสุทธิสูง และมีความมั่งคั่งสุทธิสูงพิเศษทั่วโลกโดยตรงด้วยบริการเต็มรูปแบบที่ครอบคลุมการธนาคาร การลงทุน ทรัสต์ และโซลูชั่นการบริหารจัดการความมั่งคั่งอื่น ๆ จากศูนย์ปฏิบัติการหลักของเราในแคนาดา สหรัฐอเมริกา หมู่เกาะบริติช และเอเชีย ธุรกิจดังกล่าวนี้ยังให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการการบริหารจัดการความมั่งคั่งทั้งโดยตรงและผ่านรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลที่สามแก่ลูกค้าสถาบันและบุคคล ผ่านธุรกิจการบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลกของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา (รวมถึงบลูเบย์ แอสเซ็ท แมเนจเมนท์) รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา เวลธ์ แมเนจเมนต์มีสินทรัพย์ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์แคนาดาอยู่ภายใต้การบริหาร มีสินทรัพย์ 1 ล้านล้านดอลลาร์แคนาดาอยู่ภายใต้การจัดการ และมีลูกค้ากว่า 5,500 รายที่ใช้บริการที่ปรึกษาอยู่ทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rbcwealthmanagement.com
_____________________________ |
1 อัตราส่วนตราสารทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (CET1) คำนวณโดยใช้แนวปฏิบัติเรื่องข้อกำหนดความเพียงพอของเงินทุน (Capital Adequacy Requirements หรือ CAR) ของสำนักงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของรัฐบาลแคนาดา (OSFI) |
2 จากการประมาณงบดุลของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟิน ณ วันที่การซื้อกิจการมีผล รวมถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม |
3 ไม่ได้ใช้หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (non-GAAP) กำไรต่อหุ้นที่ปรับค่าแล้วไม่รวมถึงผลกระทบจากค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ผลกระทบด้านสัดส่วนการถือหุ้นของหุ้นที่แลกเปลี่ยนได้ และต้นทุนบางประการจากการตกลง ธุรกรรม และการรวมกิจการ |
4 ไม่ได้ใช้หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (non-GAAP) ผลกำไรก่อนชำระภาษีที่ปรับค่าแล้วคือผลกำไรก่อนภาษีตามกฎหมายที่มีการปรับค่าสำหรับรายการดังต่อไปนี้ การตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนรวมถึงความสัมพันธ์ลูกค้าและแบรนด์ ต้นทุนบริการในอดีตเกี่ยวกับระบบบำนาญ ต้นทุนการซื้อกิจการ รางวัลแรงจูงใจ สัญญาที่มีภาระผูกพันเกินควร และกำไรและการขาดทุนอื่น ๆ |
5 อัตราผลตอบแทนภายใน (internal rate of return) |
เกี่ยวกับเบรวิน ดอลฟิน เบรวิน ดอลฟินเป็นผู้ให้บริการการบริหารจัดการความมั่งคั่งด้วยดุลยพินิจในดัชนี FTSE 250 ในสหราชอาณาจักร ด้วยสินทรัพย์รวม 59,000 ล้านปอนด์* เราให้บริการการบริหารจัดการความมั่งคั่งเฉพาะรายที่ได้รับรางวัลและสอดรับกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นบุคคล องค์กรการกุศล หรือองค์กรบริษัท
บริการของเราครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการการลงทุนเฉพาะรายด้วยดุลยพินิจ ไปจนถึงการวางแผนการเกษียณและการลงทุนเพื่อประสิทธิภาพด้านภาษี การมุ่งเน้นการบริหารจัดการการลงทุนด้วยดุลยพินิจของเราได้ก่อให้เกิดการเติบโตอย่างมากในเงินทุนของลูกค้า ขณะนี้เราบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่า 52,000 ล้านปอนด์*โดยใช้ดุลยพินิจ
ธุรกิจที่เป็นตัวกลางของเราบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่า 19,000 ล้านปอนด์*สำหรับบริษัทที่ปรึกษากว่า 1,700 แห่งโดยใช้ดุลยพินิจหรือด้วยบริการการบริหารพอร์ทฟอลิโอของเรา ได้แก่ เอ็มไอ เบรวิน ดอลฟิน โวยาจเจอร์ ฟันด์ เรนจ์ (MI Brewin Dolphin Voyager fund range) และเอ็มพีเอสที่ยั่งยืน (Sustainable MPS)
เพื่อให้สอดรับกับการให้ความสำคัญกับความเหนือชั้นในความสัมพันธ์ส่วนบุคคลของเรา เราได้สร้างเครือข่ายสำนักงานกว่า 30 แห่งทั่วสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยมีผู้จัดการด้านการลงทุนและนักวางแผนทางการเงินที่ได้รับการรับรองคุณสมบัติเป็นบุคลากรประจำในสำนักงาน เรามุ่งปฏิบัติตามมาตรฐานการให้บริการลูกค้าที่เข้มงวดที่สุด ด้วยการคิดระยะยาวและการมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.brewin.co.uk
*ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564
เบรวิน ดอลฟินได้รับการอนุญาตและกำกับดูแลโดย FCA (หมายเลขจดทะเบียนผู้ให้บริการทางการเงิน 124444)
ผลการดำเนินงานหลักและมาตรการที่ไม่เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
เราใช้มาตรการทางการเงินที่หลากหลายในการประเมินผลการดำเนินงานของเรา นอกจากหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (GAAP) เรายังใช้ผลการดำเนินงานหลัก (key performance) และมาตรการที่ไม่เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนเกี่ยวกับสภาพทางการเงินและผลการปฏิบัติงานของเรา กำไรต่อหุ้นไม่รวมผลกระทบจากค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ผลกระทบด้านสัดส่วนการถือหุ้นของหุ้นที่แลกเปลี่ยนได้ และต้นทุนบางประการจากการตกลง ธุรกรรม และการรวมกิจการช่วยเพิ่มความสามารถในการเปรียบเทียบ เนื่องจากสถาบันบางแห่งไม่ได้ใช้โครงสร้างดังกล่าว
ผู้อ่านพึงระวังว่าตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลักและมาตรการที่ไม่เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปไม่มีความหมายที่เป็นมาตรฐานซึ่งกำหนดโดยหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (GAAP) จึงมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับมาตรการในลักษณะเดียวกันที่เปิดเผยโดยสถาบันทางการเงินอื่น ๆ
ข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตภายในขอบเขตนิยามของกฎหมายหลักทรัพย์บางประการ รวมถึง "หลักการจำกัดความรับผิดชอบ" (safe harbour) ของกฎหมายการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล ค.ศ. 1995 (Private Securities Litigation Reform Private Securities Litigation Reform Act) ของสหรัฐอเมริกา และกฎหมายด้านหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของแคนาดา โดยเป็นข้อความเกี่ยวกับผลการดำเนินงานทางการเงิน ความเชื่อ แผนการ ความคาดหวัง และการประมาณการของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟิน ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตในข่าวประชาสัมพันธ์นี้อาจรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับแผนการสำหรับการปฎิบัติงานที่รวมกันของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟิน ผลกระทบทางการเงิน การปฏิบัติงาน และเงินทุนจากธุรกรรมตามที่มีการเสนอนี้ กลยุทธ์หรือการกระทำในอนาคตของเรา และเป้าประสงค์และพันธกิจของเรา ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตในข่าวประชาสัมพันธ์นี้นำเสนอเพื่อจุดประสงค์ในการช่วยให้ผู้ถือหุ้นและนักวิเคราะห์ทำความเข้าใจกับธุรกรรมตามที่มีการเสนอนี้ และอาจไม่เหมาะสำหรับจุดประสงค์อื่น ๆ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตมักมีคำอย่างเช่น "เชื่อ" "คาด" "เล็งเห็น" "คาดการณ์" "คาดหวัง" "มุ่ง" "ประมาณ" "เป้าหมาย" "แผนการ" และ "โครงการ" และคำอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันเกี่ยวกับอนาคตหรือคำกริยาที่บอกเงื่อนไข อย่างเช่น "จะ" "อาจจะ" "ควร" "สามารถ" หรือ "น่าจะ"
ตามลักษณะของข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต เราต้องมีการสันนิษฐานและเผชิญกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่มีอยู่ ซึ่งนำไปสู่ความเป็นไปได้ที่การทำนาย การคาดการณ์ การคาดคะเน ความคาดหวัง หรือข้อสรุปของเราจะไม่เป็นจริง ที่ข้อสันนิษฐานของเราอาจไม่ถูกต้อง และที่ผลลัพธ์จริงของเราอาจแตกต่างในสาระสำคัญจากการทำนาย การคาดการณ์ การคาดคะเน ความคาดหวัง หรือข้อสรุปเหล่านั้น
เราขอแจ้งเตือนให้ผู้อ่านไม่ยึดถือในข้อความเหล่านี้มากเกินไป เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการอาจทำให้ผลลัพธ์ในความเป็นจริงของเราแตกต่างในสาระสำคัญจากความคาดหวังที่ได้ระบุในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านั้น ปัจจัยเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่นอกเหนือความควบคุมของเราและไม่สามารถทำนายผลกระทบได้ มีตัวอย่างเช่น ความเป็นไปได้ที่ธุรกรรมตามที่มีการเสนอไม่ลุล่วงตามกำหนดการที่คาดไว้หรือไม่ลุล่วงเลยเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลง หรือสภาพการณ์อื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดสิทธิของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายในการยุติธุรกรรม รวมถึงเพราะข้อกำหนดด้านการกำกับดูแล การอนุมัติของผู้ถือหุ้นหรืออื่น ๆ และ/หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ของการดำเนินธุรกรรมไม่มีการบรรลุหรือลุล่วงอย่างตรงเวลาหรือไม่มีการบรรลุเลย หรือมีการบรรลุจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดที่ส่งผลขัดแย้งกัน ความเป็นไปได้ที่ผลประโยชน์ที่คาดไว้จากธุรกรรมตามที่มีการเสนอ อย่างเช่นการเพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่มีการปรับค่าแล้ว การสร้างโอกาสจากการรวมกิจการและการขยายการปฏิบัติงานของเราในสหราชอาณาจักรไม่มีการบรรลุในกรอบเวลาที่คาดไว้หรือไม่มีการบรรลุเลย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในสภาพทางเศรษฐกิจและตลาด อัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน นโยบาย กฎหมาย และระเบียบปฏิบัติทางการเงิน (รวมถึงการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดด้านเงินทุน) และการบังคับใช้ และระดับการแข่งขันในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และพื้นที่ธุรกิจที่รอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟินดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ความเสี่ยงที่ประกาศใด ๆ เกี่ยวกับการรวมกิจการตามที่มีการเสนออาจส่งผลเสียต่อราคาตลาดของหุ้นสามัญของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายในการดำเนินธุรกรรมครั้งนี้ ความเป็นไปได้ที่ธุรกิจของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟินอาจไม่มีการดำเนินงานที่เป็นไปตามคาดหรือที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานในอดีต ความสามารถในการผนวกรวมเบรวิน ดอลฟินอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผล ความสามารถของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาในการบรรลุเป้าประสงค์ด้านเงินทุน ความสามารถของรอบัลแบงก์ออฟแคนาดาในการขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ความเสี่ยงด้านชื่อเสียงและปฏิกิริยาของลูกค้าและพนักงานของเบรวิน ดอลฟินต่อธุรกรรมครั้งนี้ ความเป็นไปได้ที่การดำเนินธุรกรรมครั้งนี้อาจมีต้นทุนสูงในการทำให้สำเร็จลุล่วงมากกว่าที่คาดไว้ รวมถึงเนื่องจากปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การเบี่ยงเบนของเวลาบริหารจัดการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม การประสบกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญที่ส่งผลเสียในสภาพทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สภาพทางการแข่งขันโดยทั่วไป เศรษฐกิจ การเมือง และตลาด และปัจจัยอื่น ๆ ที่ระบุในหมวดความเสี่ยงและหมวดผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในรายงานประจำปี 2564 ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา และหมวดการบริหารจัดการความเสี่ยงในรายงานต่อผู้ถือหุ้นประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา และปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้ระบุในรายงานและบัญชีประจำปี 2564 ของเบรวิน ดอลฟิน ซึ่งทั้งหมดระบุปัจจัยและความเสี่ยงที่สำคัญบางประการซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของเราในอนาคตและความสามารถของเราในการคาดการณ์และบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาได้อย่างมีประสิทธิผล
เราขอแจ้งเตือนว่ารายการปัจจัยเสี่ยงข้างต้นนี้ยังไม่ครบถ้วน และมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลลัพธ์ของเรา ในการใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตของเราในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับเรา นักลงทุนและผู้อื่นควรคำนึงถึงปัจจัยข้างต้นและความไม่แน่นอนอื่น ๆ และเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน ข้อสันนิษฐานที่มีสาระสำคัญด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีการอธิบายอยู่ในหมวดการทบทวนและแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ ตลาด และการกำกับดูแล และสำหรับแต่ละภาคธุรกิจภายใต้หัวข้อการจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์และแนวโน้มในอนาคตในรายงานประจำปี 2564 ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา ดังที่มีการปรับปรุงแก้ไขในหมวดการทบทวนและแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ ตลาด และการกำกับดูแลแของรายงานต่อผู้ถือหุ้นประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตในเอกสารนี้แสดงทรรศนะของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟิน ณ วันที่มีการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เท่านั้น เว้นแต่ว่าจะเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย ทั้งรอยัลแบงก์ออฟแคนาดาและเบรวิน ดอลฟินไม่ขอรับผิดชอบในการปรับปรุงแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตใด ๆ ไม่ว่าจะด้วยการเขียนหรือการพูด ซึ่งอาจมีการดำเนินการปรับปรุงเป็นครั้งคราวโดยเราหรือผู้กระทำแทนเรา
การติดต่อสำหรับสื่อของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา: เมลานี ร็อคลิฟ (Melanie Rockliff) ฝ่ายสื่อสารองค์กร (แคนาดา) – อีเมล: melanie.rockliff@rbc.com, โทร: +1 (647)-964-1423; แครอล คีย์ (Carol Key) ฝ่ายสื่อสารองค์กร (สหราชอาณาจักร) – อีเมล: carol.key@rbc.com, โทร: +44 (0) 7701 396 234; การติดต่อสำหรับนักวิเคราะห์ของรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา: อาซิม อิมราน (Asim Imran) รองประธาน หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์, อีเมล: asim.imran@rbc.com, โทร: +1 (416)-955-7804; มาร์โก กุยร์ลีโอ (Marco Giurleo) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์, อีเมล: marco.giurleo@rbc.com, โทร: +1 (437)-239-5374