omniture

"บัดไวเซอร์" เปิดตัวโครงการ "ดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ" ขับเคลื่อนโลกด้วยพลังงานหมุนเวียน

Budweiser
2022-04-21 20:49 216

บริษัทเบียร์ชั้นนำของโลกรายนี้กำลังช่วยจัดหาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนให้กับบาร์ สนามกีฬา และสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก

เลอเวิน, เบลเยียม--21 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์

บัดไวเซอร์ (Budweiser) แบรนด์ระดับโลกในเครือเอบี อินเบฟ (AB InBev) ประกาศเปิดตัวโครงการ ดิ เอเนอร์จิ คอลเลคทีฟ (The Energy Collective) ทั่วโลก เพื่อช่วยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับบาร์ สถานที่แสดงดนตรี และสนามกีฬาทั่วโลก ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้สอดคล้องและมีส่วนสนับสนุนความพยายามของบริษัทแม่อย่างเอบี อินเบฟ ในการบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าขององค์กรภายในปี 2583

Budweiser launches The Energy Collective to help power the world with renewable electricity
Budweiser launches The Energy Collective to help power the world with renewable electricity

ผู้ผลิตบัดไวเซอร์ได้เปลี่ยนผับท้องถิ่นมากกว่า 2,000 แห่งในบราซิลและไอร์แลนด์ให้เป็นพลังงานหมุนเวียนจนถึงปัจจุบัน โดยในบราซิล เลมอน เอเนอร์จี (Lemon Energy) เป็นผู้จัดหาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนให้กับเจ้าของธุรกิจ ซึ่งได้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้วมากกว่า 291 ตันต่อปี ทั้งนี้ เป้าหมายของโครงการเอเนอร์จี คอลเลคทีฟ สำหรับบราซิลคือการเปลี่ยนสถานที่ 250,000 แห่งให้หันไปใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนภายในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะลดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2e) ได้ 36,375 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถยนต์ 7,991 คันออกจากท้องถนน

เมื่อปี 2558 บัดไวเซอร์ได้ตั้งเป้าที่จะผลิตเบียร์ทุกชนิดด้วยพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่อนาคตที่สดใส นอกจากนี้ บัดไวเซอร์ได้เปิดตัวโครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ เพื่อช่วยเชื่อมโยงบาร์ สถานที่แสดงดนตรี และสนามกีฬาทั่วโลกเข้ากับแหล่งพลังงานหมุนเวียน หลังจากบรรลุเป้าหมายนี้ในหลายตลาดแล้ว ซึ่งการบรรลุผลสำเร็จและทรัพยากรของบัดไวเซอร์ ประกอบกับความปรารถนาที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้นำไปสู่การตัดสินใจที่จะผลิตเบียร์ทั้งหมดด้วยพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน และการเปิดตัวโครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ในเวลาต่อมา

"ผู้บริโภคต้องการโลกที่ดีกว่า ที่ซึ่งสิ่งที่พวกเขารักนั้นมีความยั่งยืน โดยโครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับเคลื่อนสิ่งที่ผู้คนรักด้วยพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน พร้อมกับช่วยปิดช่องว่างระหว่างสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการกับสิ่งที่บริษัททำได้" คุณทอดด์ อัลเลน (Todd Allen) รองประธานฝ่ายการตลาดระดับโลกของบัดไวเซอร์ กล่าว "เราเพิ่งจะเริ่มต้น ความฝันที่ชัดเจนของเราคือบาร์ สถานที่จัดงาน และสนามกีฬาทุกแห่งในโลกที่เสิร์ฟบัดไวเซอร์ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน"

บัดไวเซอร์สนับสนุนความพยายามของเอบี อินเบฟในการบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าขององค์กรภายในปี 2583 ซึ่งโครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว จะช่วยให้เจ้าของผับลดการปล่อยมลพิษโดยเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนด้วยราคาที่ย่อมเยาลง

คุณเอซกิ บาร์เซนาส (Ezgi Barcenas) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของเอบี อินเบฟ กล่าวว่า "เมื่อบัดไวเซอร์ตัดสินใจผลิตเบียร์ด้วยพลังงานหมุนเวียน เรารู้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่เราสามารถทำได้ในด้านพลังงานหมุนเวียนในฐานะแบรนด์ระดับโลก การเปิดตัวโครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ช่วยให้เราสามารถช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก โดยใช้ประโยชน์จากขนาดองค์กรของเราเพื่อทำให้ลูกค้าได้ใช้พลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้นในราคาที่เหมาะสม"

ค่าไฟฟ้ามักจะเป็นหนึ่งในต้นทุนที่สูงที่สุดสำหรับบาร์ ซึ่งดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ สามารถช่วยประหยัดต้นทุนดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็ให้การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหมุนเวียนโดยร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านพลังงานในท้องถิ่น นอกจากนั้นแล้ว โครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ยังช่วยส่งเสริมภารกิจของบัดไวเซอร์ในการขับเคลื่อนสิ่งที่ผู้บริโภคชื่นชอบด้วยพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน

"การเชื่อมต่อกับพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนผ่านผู้ให้บริการในท้องถิ่นในโครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ช่วยให้ผมลดต้นทุนค่าไฟได้ประมาณเดือนละ 10%" คุณวิลล์ มอร์แกน (Will Morgan) ผู้จัดการทั่วไปของบาร์เจอร์รี แฟลนเนอรี (Jerry Flannery's) ในเมืองลิเมอริคของไอร์แลนด์ กล่าว "นอกจากนั้น ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนากับลูกค้าของผมหลายคน ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของพลังงานหมุนเวียนและการสร้างอนาคตที่สดใสให้สำหรับพวกเราทุกคน"

ปัจจุบัน โครงการดิ เอเนอร์จี คอลเลคทีฟ ได้อำนวยความสะดวกด้านการเชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในบางประเทศ รวมทั้งไอร์แลนด์และบราซิล และจะดำเนินโครงการนำร่องในโคลอมเบียในปี 2565 ขณะนี้ บัดไวเซอร์กำลังสำรวจโอกาสในประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ชิลี อุรุกวัย และอื่น ๆ

เกี่ยวกับแอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ และบัดไวเซอร์ แอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ (Anheuser-Busch InBev) เป็นบริษัทมหาชน (Euronext: ABI) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม โดยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศในเม็กซิโก (MEXBOL: ANB) และแอฟริกาใต้ (JSE: ANH) และมีใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐ (American Depositary Receipts) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: BUD) ในฐานะบริษัทแห่งหนึ่ง เรามีความฝันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างอนาคตด้วยเสียงเชียร์ที่ดังขึ้น เรามักมองหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของเราไปข้างหน้า และสร้างผลกระทบที่มีความหมายต่อโลกอยู่เสมอ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์ยอดเยี่ยมที่รักษาคุณค่าเหนือกาลเวลาและการผลิตเบียร์ที่ดีที่สุดโดยใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุด ผลงานที่หลากหลายของเราประกอบด้วยแบรนด์เบียร์มากกว่า 500 แบรนด์ รวมถึงแบรนด์ระดับโลกอย่างบัดไวเซอร์ (Budweiser®), โคโรนา (Corona®) และสเตลลา อาทัวส์ (Stella Artois®) แบรนด์ที่จำหน่ายในหลายประเทศอย่างเบ็คส์ (Beck's®), โฮการ์เด้น (Hoegaarden®), เลฟ (Leffe®) และมิเคลอป อัลตรา (Michelob ULTRA®) และแชมป์ท้องถิ่นอย่างอากีลา (Aguila®), แอนตาร์ติกา (Antarctica®), บัด ไลท์ (Bud Light®), บราห์มา (Brahma®), แคส (Cass®), คาสเซิล (Castle®), คาสเซิล ไลท์ (Castle Lite®), คริสตอล (Cristal®), ฮาร์บิน (Harbin®), จูปิเลอร์ (Jupiler®), โมเดโล เอสเปเชียล (Modelo Especial®), ควิลเมส (Quilmes®), วิคตอเรีย (Victoria®), เซดริน (Sedrin®), และสกอล (Skol®) มรดกด้านการผลิตเบียร์ของเรามีอายุมากกว่า 600 ปี ครอบคลุมหลายทวีปและหลายชั่วอายุคน จากรากฐานในยุโรปที่โรงเบียร์เดน ฮูร์น (Den Hoorn) ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม สู่จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกโรงเบียร์แอนไฮเซอร์ แอนด์ โค (Anheuser & Co) ในเมืองเซนต์หลุยส์ของสหรัฐ สู่การก่อตั้งโรงเบียร์คาสเซิล บริวเวอรี่ (Castle Brewery) ในแอฟริกาใต้ในช่วงยุคตื่นทองในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก สู่โรงเบียร์โบฮีเมีย (Bohemia) ซึ่งเป็นโรงเบียร์แห่งแรกในบราซิล ทั้งนี้ เรามีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และเปิดตัวอย่างสมดุลในตลาดที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งส่วนรวมของพนักงานประมาณ 169,000 คนในเกือบ 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเอบี อินเบฟได้รายงานรายได้ไว้ที่ 5.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมการร่วมลงทุนและหุ้นส่วน) ในปี 2564

บัดไวเซอร์เป็นเบียร์ลาเกอร์สไตล์อเมริกันที่มีบอดี้ปานกลาง รสชาติดี และนุ่ม หมักด้วยข้าวบาร์เลย์ที่ดีที่สุดและส่วนผสมของฮอประดับพรีเมียม บัดไวเซอร์เป็นสัญลักษณ์ของการมองโลกในแง่ดีและการเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมุ่งมั่นที่จะผลิตเบียร์บัดไวเซอร์ทุกขวดด้วยพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2568

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1800341/Hero_Visual.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1800342/budglb_mark_logo_st_red_rgb__1_Logo.jpg?p=medium600

Source: Budweiser
Related Stocks:
EuronextBrussels:ABI Johannesburg:ANH Mexico:ANB NYSE:BUD
Keywords: Alternative Energies Beer, Wine & Spirits Beverages Electrical Utilities Environmental Products & Services Retail Utilities Corporate Social Responsibility MAT (Mature Audience)
Related News