ฮูฮอต, จีน--3 พ.ค. 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Yili Group บริษัทนมยักษ์ใหญ่ระดับโลก ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตนมรายแรกของเอเชียที่มีรายได้ต่อปีทะลุ 1 แสนล้านหยวน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในภูมิภาคแห่งนี้
ในปี 2564 รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 1.10595 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 14.15% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 1.37 หมื่นล้านหยวนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้านกำไรสุทธิทะยานขึ้น 23% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 8.732 พันล้านหยวน
สำหรับในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3.1047 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 13.47% เมื่อเทียบรายปี ส่วนกำไรสุทธิทะยานขึ้น 24.08% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 3.508 พันล้านหยวน
คุณพาน กัง ประธานและประธานกรรมการของ Yili Group กล่าวว่า Yili จะดำเนินงานอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีอุปทานผลิตภัณฑ์นมเพียงพอต่อความต้องการท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่กำลังดำเนินอยู่ โดยบริษัทจะเดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของลูกค้า ตลอดจนสร้างคุณค่าให้แก่พนักงาน นักลงทุน และสังคม
ผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็นผู้นำในตลาด
ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของ Yili ยังคงมีสถานะที่แข็งแกร่งในปี 2564 เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
ธุรกิจนมเหลวของบริษัทสร้างรายได้ 8.4911 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 11.54% เมื่อเทียบรายปี และยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดนม โดยผลิตภัณฑ์ Yili Pure Milk, Satine Pure Milk และ AMBPOMIAL Yoghurt สร้างสถิติยอดขายต่อปีทะลุ 2 หมื่นล้านหยวน ขณะที่ผลิตภัณฑ์ Satine Organic ยังคงรั้งอันดับหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิกในปี 2564 ส่วนทางด้านธุริจไอศกรีมสร้างรายได้ 7.161 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.28% เมื่อเทียบรายปี
ธุรกิจนมผงก้าวขึ้นเป็นกลไกใหม่ในการผลักดันการเติบโต
ในปีงบการเงิน 2564 ธุรกิจนมผงและธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสร้างรายได้ 1.6209 หมื่นล้านหยวน ทะยานขึ้น 25.80% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง ส่วนธุรกิจชีสที่มีศักยภาพสูงก็มีการเติบโตกว่า 150% เมื่อเทียบรายปี
สำหรับงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัทเพิ่มขึ้น 23.39% แตะที่ 601 ล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมาก
Yili เดินหน้าขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ทั่วห่วงโซ่อุตสาหกรรม
ในเดือนมีนาคม 2565 Yili ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Ausnutria Dairy อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดตั้งบริษัทผลิตชีสสำหรับรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของบริษัทได้เจาะเข้าสู่ตลาดในกว่า 60 ประเทศและดินแดนทั่วทั้ง 5 ทวีป และรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นราว 8% เมื่อเทียบรายปี โดยตัวอย่างความสำเร็จในต่างประเทศที่เด่นชัดก็คือ การมีฐานการผลิตไอศกรีมในประเทศอินโดนีเซีย และการปรับปรุงโรงงานของบริษัท Westland หลังจากเข้าไปซื้อกิจการ