โคโรน่าให้ทุนแก่ภารกิจที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เพื่อเชื่อมโยงผู้คนกับกิจกรรมกลางแจ้ง
ลอนดอน–26 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์
โคโรน่า (Corona) แบรนด์ระดับโลกในเครือเอบี อินเบฟ (AB InBev) ฉลองซีซันที่ 2 ของซีรีส์ฟรี เรนจ์ ฮิวแมนส์: เนเจอร์ อีส คอลลิง (Free Range Humans: Nature Is Calling) ซึ่งเป็นซีรีส์เนื้อหาต้นฉบับที่คว้ารางวัลการันตีผลงานมาแล้ว และกำลังสตรีมบนช่องยูทูปของโคโรน่า
ในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนคนเมืองทั่วโลกเติบโตขึ้นจาก 2% สู่ 50%* (สำนักงานอ้างอิงประชากร, 2547) ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของการเปลี่ยนแปลงไปสู่การมีลักษณะเป็นเมืองคือเมืองใหญ่หลายแห่งซึ่งมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคนใช้เวลามากกว่า 90% อยู่ภายในอาคาร ส่งผลให้ขาดความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นกับธรรมชาติ และการระบาดใหญ่ได้ทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้น
"ผู้คนต่างปรารถนาที่จะใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่เราถูกจำกัดด้วยกิจวัตรประจำวันและการใช้ชีวิตในเมืองของเรา" เฟลิเป้ อัมบรา (Felipe Ambra) รองประธานของโกลบอล โคโรน่า กล่าว "ซีรีส์ฟรี เรนจ์ ฮิวแมนส์ เป็นงานเฉลิมฉลองที่สนุกสนานของผู้คนที่เชื่อมสัมพันธ์กับธรรมชาติอีกครั้ง และในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริง เราจะสร้างโอเอซิสในช่วงเวลาที่จำกัดเพื่อให้ชาวเมืองได้สัมผัสประสบการณ์ว่า การได้อยู่กับธรรมชาติเพียงไม่กี่นาทีก็ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของพวกเขาได้แล้ว"
โคโรน่า สตูดิโอส์ (Corona Studios) คลังเนื้อหาระดับโลกแบบไดนามิกซึ่งดำเนินการและทำการตลาดให้กับโคโรน่านอกสหรัฐโดยเฉพาะ ได้เปิดตัวซีรีส์ฟรี เรนจ์ ฮิวแมนส์ในปี 2562 โดยซีรีส์นี้ได้นำเสนอภาพธรรมชาติและชายหาด เช่นเดียวกับแบรนด์โคโรน่า และซีซัน 1 มีผู้ชมมากกว่า 100 ล้านครั้งทั่วโลก
ขณะที่ซีซัน 2 จะประกอบด้วยตอนใหม่ 6 ตอน โดยนำเสนอภาพของผู้คนจากทั่วโลกที่ปลีกตัวจากขีดจำกัดในแต่ละวันเพื่อเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น และทุ่มเทชีวิตให้กับสิ่งที่พวกเขาสนใจ
"ซีซันแรกอิงจากข้อมูลเชิงลึกที่ว่า ผู้คนใช้ชีวิต 90% ในบ้าน** มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำตามแรงบันดาลใจที่จะทิ้งภาระบนโต๊ะทำงานไว้เบื้องหลัง เพื่อค้นหาความหมายนอกบ้าน" นิค ซอนเดอรัป (Nick Sonderup) จากเปเรร่า โอเดล (Pereira O'Dell) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความคิดสร้างสรรค์ของโคโรน่า กล่าว "ซีซัน 2 จะติดตามการเดินทางของคน 6 คนที่ตัดสินใจออกไปผจญภัยข้างนอกและแสวงหาสิ่งที่มีความหมายมากขึ้น"
นักแสดงซีรีส์ฟรี เรนจ์ ฮิวแมนส์ ซีซัน 2 ประกอบด้วย
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองซีซัน 2 ของซีรีส์ฟรี เรนจ์ ฮิวแมนส์ แบรนด์โคโรน่าจะช่วยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับธรรมชาติอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวธรรมชาติแบบไดนามิกในเมืองที่หนาแน่นทั่วโลก ซึ่งโอเอซิสกลางเมืองจะเชื้อเชิญให้ผู้คนตอบรับเสียงเรียกร้องจากธรรมชาติ โดยเดินตามเครื่องหมายในสถานที่ไปยังโอเอซิสธรรมชาติอันมีเสน่ห์ที่จะทำให้พวกเขาได้หยุดพัก
นอกจากนั้นแล้ว ผู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้ที่ปรากฏตัวในรายการ จะได้รับการเชิญชวนให้เข้าร่วมกองทุนฟรีเรนจ์ (Free Range Fund) ของโคโรน่า กองทุนฟรีเรนจ์จะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 7 ทุน ทุนละ 10,000 ดอลลาร์ เพื่อเป็นเงินเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดและตอบรับธรรมชาติในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งกองทุนจะเปิดรับผู้สมัครในบางตลาด โดยเริ่มในแอฟริกาใต้ ในวันที่ 25 พฤษภาคม และจะมีผู้ชนะเพียงหนึ่งรายต่อตลาดหนึ่งแห่ง
ซีรีส์ฟรี เรนจ์ ฮิวแมนส์ สร้างโดยเอเจนซี่ไวเดน+เคนเนดี้ อัมสเตอร์ดัม (Wieden+Kennedy Amsterdam) พัฒนาเป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงระดับโลกโดยเปเรร่า โอเดล (Pereira O'Dell) และผลิตโดยมอนสเตอร์ส ชิลเดรน (Monsters Children) และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองซีรีส์ซีซัน 2 ของโคโรน่าทั่วโลก ผู้ชมสามารถรับชมการพูดคุยทางออนไลน์กับผู้ที่ปรากฏตัวในรายการนี้ได้ในวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ทางช่องยูทูปของโคโรน่า
*สำนักอ้างอิงประชากร (2547, 23 เมษายน). Urbanization: An Environmental Source to be Reckoned With จาก https://www.prb.org/resources/urbanization-an-environmental-force-to-be-reckoned-with/
เกี่ยวกับโคโรนา โกลบอล
โคโรนาเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเบียร์ชั้นนำ มีต้นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก และยังเป็นเบียร์เม็กซิกันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก โดยส่งออกไปประเทศต่าง ๆ กว่า 180 ประเทศ โดยเบียร์โคโรนา เอ็กซ์ตรา (Corona Extra) ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 2468 ที่โรงงานผลิตสุราเซร์เบเซริอา โมเดโล (Cervecería Modelo) ในเม็กซิโกซิตี้ โคโรนายังเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเบียร์ โดยเป็นเจ้าแรกที่ใช้ขวดแก้วใสเพื่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์และคุณภาพที่สูงของเบียร์ นอกจากนี้ ลวดลายงานศิลปะที่โชว์อยู่บนขวดยังมีการลงสี เพื่อย้ำถึงความมุ่งมั่นด้านคุณภาพของบรรจุภัณฑ์และมรดกของชาวเม็กซิกัน เบียร์โคโรนาจะสมบูรณ์ไม่ได้หากปราศจากมะนาว การเติมน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติ และความสดชื่นเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ อันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับโคโรนาอย่างแท้จริง ชื่อแบรนด์ยังเป็นคำพ้องที่มีความหมายเหมือนกับคำว่า การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ชายหาดและใช้เวลาสังสรรค์ ที่เชื้อเชิญผู้คนให้หยุดพัก ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับความสุขที่เรียบง่ายของชีวิต
โคโรนายังมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการลดพลาสติกนับตั้งแต่เป็นพันธมิตรกับพาร์ลีย์ ฟอร์ ดิ โอเชียนส์ (Parley for the Oceans) เมื่อปี 2560 โดยทั้งสองฝ่ายได้บรรลุภารกิจในการปกป้องดูแลเกาะ 100 เกาะก่อนปี 2563 และยังคงพยายามขจัดปัญหาขยะทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง |
เกี่ยวกับแอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ
แอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ (Anheuser-Busch InBev) เป็นบริษัทมหาชน (Euronext: ABI) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม โดยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศในเม็กซิโก (MEXBOL: ANB) และแอฟริกาใต้ (JSE: ANH) และมีใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐ (American Depositary Receipts) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: BUD) ในฐานะบริษัทแห่งหนึ่ง เรามีความฝันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างอนาคตด้วยเสียงเชียร์ที่ดังขึ้น เรามักมองหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของเราไปข้างหน้า และสร้างผลกระทบที่มีความหมายต่อโลกอยู่เสมอ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์ยอดเยี่ยมที่รักษาคุณค่าเหนือกาลเวลาและการผลิตเบียร์ที่ดีที่สุดโดยใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุด ผลงานที่หลากหลายของเราประกอบด้วยแบรนด์เบียร์มากกว่า 500 แบรนด์ รวมถึงแบรนด์ระดับโลกอย่างบัดไวเซอร์ (Budweiser®), โคโรนา (Corona®) และสเตลลา อาทัวส์ (Stella Artois®) แบรนด์ที่จำหน่ายในหลายประเทศอย่างเบ็คส์ (Beck's®), โฮการ์เด้น (Hoegaarden®), เลฟ (Leffe®) และมิเคลอป อัลตรา (Michelob ULTRA®) และแชมป์ท้องถิ่นอย่างอากีลา (Aguila®), แอนตาร์ติกา (Antarctica®), บัด ไลท์ (Bud Light®), บราห์มา (Brahma®), แคส (Cass®), คาสเซิล (Castle®), คาสเซิล ไลท์ (Castle Lite®), คริสตอล (Cristal®), ฮาร์บิน (Harbin®), จูปิเลอร์ (Jupiler®), โมเดโล เอสเปเชียล (Modelo Especial®), ควิลเมส (Quilmes®), วิคตอเรีย (Victoria®), เซดริน (Sedrin®), และสกอล (Skol®) มรดกด้านการผลิตเบียร์ของเรามีอายุมากกว่า 600 ปี ครอบคลุมหลายทวีปและหลายชั่วอายุคน จากรากฐานในยุโรปที่โรงเบียร์เดน ฮูร์น (Den Hoorn) ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม สู่จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกโรงเบียร์แอนไฮเซอร์ แอนด์ โค (Anheuser & Co) ในเมืองเซนต์หลุยส์ของสหรัฐ สู่การก่อตั้งโรงเบียร์คาสเซิล บริวเวอรี่ (Castle Brewery) ในแอฟริกาใต้ในช่วงยุคตื่นทองในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก สู่โรงเบียร์โบฮีเมีย (Bohemia) ซึ่งเป็นโรงเบียร์แห่งแรกในบราซิล ทั้งนี้ เรามีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และเปิดตัวอย่างสมดุลในตลาดที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งส่วนรวมของพนักงานประมาณ 169,000 คนในเกือบ 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเอบี อินเบฟได้รายงานรายได้ไว้ที่ 5.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมการร่วมลงทุนและหุ้นส่วน) ในปี 2564 |
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1824181/Nature_Is_Calling.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1824180/Corona_Free_Range_Humans_Logo.jpg?p=medium600