ตงก่วน, จีน--27 พ.ค. 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
หัวเว่ย (Huawei) เผยคำนิยามของดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคต (Next-Generation Data Center Facility) และเปิดตัว "พาวเวอร์พอด 3.0" (PowerPOD 3.0) ระบบจ่ายไฟใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ในเมืองตงก่วนของจีน ซึ่งการเปิดตัวครั้งใหม่นี้เกิดจากภูมิปัญญารวมหมู่และความพยายามร่วมกันระหว่างทีมดาต้าเซ็นเตอร์ของหัวเว่ย (Huawei Data Center Facility Team) และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม อันเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์อัจฉริยะที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
การให้คำนิยามดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคต
คุณชาร์ลส์ หยาง (Charles Yang) รองประธานอาวุโสของหัวเว่ยและซีอีโอของทีมดาต้าเซ็นเตอร์หัวเว่ย ได้เปิดเผยคำนิยามที่แปลกใหม่ของดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตในงานเปิดตัวดังกล่าว เขากล่าวว่า หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและหน่วยงานในอุตสาหกรรมได้หารือกันในเชิงลึกอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ก็เห็นพ้องร่วมกันว่า ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตต้องมีคุณลักษณะ 4 ประการ ได้แก่ ยั่งยืน (Sustainable), เรียบง่าย (Simplified), ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving) และเชื่อถือได้ (Reliable)
ยั่งยืน: ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอย่างสมบูรณ์ โดยรีไซเคิลวัสดุทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้อีโคซิสเต็มของดาต้าเซ็นเตอร์โดยรวมมีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ยั่งยืนจะประสบความสำเร็จได้โดยใช้ทรัพยากรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันได้แก่ ไฟฟ้า ที่ดิน และน้ำ ตลอดจนการรีไซเคิลวัสดุที่ใช้แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดวงจรชีวิต นอกจากการใช้มาตรฐานชี้วัดประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) อย่างกว้างขวางแล้ว ตัวชี้วัดอื่น ๆ รวมถึงประสิทธิภาพการใช้คาร์บอน (CUE), ประสิทธิภาพการใช้น้ำ (WUE) และประสิทธิภาพการใช้กริด (GUE) จะถูกนำมาใช้เพื่อวัดความยั่งยืนของดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยเช่นกัน
เรียบง่าย: สถาปัตยกรรม อุปกรณ์จ่ายไฟ และระบบระบายความร้อนแบบเรียบง่าย ประกอบเป็นความก้าวหน้าของดาต้าเซ็นเตอร์
สถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายจะนำรูปแบบอาคารและห้องอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมาใช้ กล่าวคือ หากใช้โหมดการก่อสร้างโดยใช้ส่วนประกอบมาตรฐานแบบสำเร็จรูปเพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ 1,000 แร็ค ก็จะทำให้ระยะเวลาการก่อสร้างลดลงจากมากกว่า 18 เดือน เหลือเพียง 6-9 เดือน
อุปกรณ์จ่ายไฟที่เรียบง่ายจะปรับเปลี่ยนส่วนประกอบและการเชื่อมต่อต่าง ๆ ลดระยะเวลาการส่งมอบจาก 2 เดือนเหลือ 2 สัปดาห์ ขณะที่ระบบระบายความร้อนแบบง่ายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของการแลกเปลี่ยนความร้อน โดยปรับจากการแลกเปลี่ยนความร้อนหลายครั้งมาเป็นการแลกเปลี่ยนความร้อนครั้งเดียว และลดความยาวของการเชื่อมต่อระบายความร้อนลง
ขับเคลื่อนอัตโนมัติ: ระบบการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (O&M) อัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการดำเนินงานโดยอิสระ ได้ปรับเปลี่ยนวิธีจัดการการเดินเครื่องและบำรุงรักษาของดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งระบบ O&M อัตโนมัติจะช่วยให้วิศวกรสามารถตรวจสอบแร็ค 2,000 แร็คจากระยะไกลได้ภายใน 5 นาที ขณะที่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานหมายความว่าจะสามารถส่งมอบแผนการระบายความร้อนที่เหมาะสมที่สุดผ่านชุดระบบผสมผสานดั้งเดิม 1.4 ล้านชุดภายใน 1 นาที ทำให้เกิดการระบายความร้อนอัจฉริยะ และการดำเนินงานโดยอิสระจะช่วยเพิ่มมูลค่าสูงสุดของทรัพยากร
เชื่อถือได้: การรักษาความปลอดภัยเชิงรุกและสถาปัตยกรรมที่ปลอดภัยช่วยให้มั่นใจได้ถึงการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืน การรักษาความปลอดภัยเชิงรุกหมายถึงการใช้บิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีเอไอเพื่อดำเนินการบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้าตั้งแต่ส่วนประกอบไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ โดยพิจารณาจากการมองเห็นและการรับรู้ของโดเมนทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ ขณะที่การตอบสนองต่อข้อบกพร่องอัตโนมัติหมายความว่าจะใช้เวลาเพียง 1 นาทีในการตรวจพบข้อผิดพลาด ใช้ 3 นาทีในการวิเคราะห์ และ 5 นาทีในการกู้คืน ขณะเดียวกัน สถาปัตยกรรมที่ปลอดภัยหมายถึงการรักษาความปลอดภัยในระดับต่าง ๆ เช่น ส่วนประกอบ, อุปกรณ์ และระบบ ซึ่งในระดับระบบนั้น แพลตฟอร์มอีทูอี (E2E) ที่มองเห็นได้ จัดการได้ และควบคุมได้ จะช่วยให้ระบบมีความพร้อมใช้งานถึง 99.999%
พาวเวอร์พอด 3.0: ระบบจ่ายไฟที่ช่วยประหยัดพื้นที่ ประหยัดเวลา และประหยัดพลังงาน
คุณเฟย เจิ้นฝู (Fei Zhenfu) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีประจำทีมดาต้าเซ็นเตอร์ของหัวเว่ย ประกาศเปิดตัวระบบจ่ายไฟรุ่นใหม่ที่เรียกว่า "พาวเวอร์พอด 3.0" ภายในงานดังกล่าว ซึ่งระบบจะลดการใช้พื้นที่ลง 40% ลดการใช้พลังงานลง 70% ลดระยะเวลาส่งมอบจาก 2 เดือนเหลือ 2 สัปดาห์ และลดอัตราความผิดพลาดของบริการลง 38%
เพื่อให้ได้มาซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคต นวัตกรรมทางเทคโนโลยีจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งในอนาคตหัวเว่ยจะยังคงสร้างความก้าวหน้าด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีผ่านการลงทุนในด้าน R&D อย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมืออย่างกว้างขวางกับลูกค้า พันธมิตรในอีโคซิสเต็ม และองค์กรอุตสาหกรรม เราจะสามารถร่วมกันบุกเบิกยุคใหม่ของการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ได้