ลอนดอน, 10 มิ.ย. 2565 --พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ ตามรายงานด้านการควบรวมและการซื้อกิจการ (M&A) ฉบับใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน โดยบริษัทกฎหมายระดับโลกเอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์ (Eversheds Sutherland) ในหัวข้อ ปะติดปะต่อให้เข้าที่: ตัวขับเคลื่อนใหม่ ๆ ของการทำ M&A เชิงกลยุทธ์ (Putting the pieces into place: The next drivers of strategic M&A) 70% ของผู้นำธุรกิจทั่วโลกมองว่า "ระบอบสาม T" (triarchy) อันได้แก่ บุคลากร (talent), เทคโนโลยี (technology) และการค้า (trade) เป็นแกนหลักของกลยุทธ์ทางธุรกิจด้าน M&A ในอนาคต
การศึกษาของเอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์ทั่วโลกนั้นอิงจากการวิจัยความคิดเห็นที่ดำเนินการในช่วงต้นปี 2565 จากผู้นำธุรกิจ 1,200 คนและใน 16 ตลาดทั่วโลก โดยผู้ตอบแบบสอบถามจากหลากหลายภาคส่วนให้มุมมองที่ละเอียดกว้างขวางจากทั่วโลก ต่อมาในเดือนเมษายน 2565 งานวิจัยเพิ่มเติมจากผู้นำธุรกิจ 75 รายให้ข้อมูลเชิงลึกว่า เหตุรุกรานยูเครนอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อกิจกรรม M&A อย่างไรบ้าง
อิริก ไน (Eric Knai) หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่าย M&A ระหว่างประเทศของเอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์ กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้เปิดตัวรายงานของเราออกสู่ตลาด เรื่อง ปะติดปะต่อให้เข้าที่: ตัวขับเคลื่อนใหม่ ๆ ของการทำ M&A เชิงกลยุทธ์ หลังจากช่วงสองสามปีแห่งความผันผวนในภูมิทัศน์ทางธุรกิจเป็นวงกว้างและความขัดแย้งในยูเครน เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้กระตุ้นให้ผู้นำต้องไตร่ตรองถึงวิธีการวางตำแหน่งองค์กรของตนให้ดีที่สุดในอนาคต งานวิจัยของเราบ่งชี้ว่าผู้นำธุรกิจส่วนใหญ่มองว่าบุคลากร เทคโนโลยี และการค้าเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อภูมิทัศน์ด้าน M&A"
โรเบิร์ต ค็อปส์ (Robert Copps) หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่าย M&A ของสหรัฐ ที่เอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์ กล่าวว่า "มีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ด้าน M&A ได้แก่ กรณีรุกรานยูเครน, อัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่สูงขึ้น, อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น, ความผันผวนในตลาดหุ้น และผลกระทบอย่างต่อเนื่องของโควิดที่ระบาดทั่วโลก แต่ถึงแม้ว่าจะมีความท้าทายเหล่านี้ก็ตาม ผลการศึกษาก็แสดงให้เห็นว่าองค์กรต่าง ๆ ยังคงมีช่องโหว่เชิงกลยุทธ์แบบเดียวกันที่ต้องแก้ไขโดยด่วนเพื่อการเติบโต และพวกเขาจะยังคงพยายามอุดช่องโหว่เหล่านั้นผ่านการทำ M&A"
เกี่ยวกับเอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์
ในฐานะที่เป็นบริษัทรับว่าความ 10 อันดับแรกของโลก เอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์ (Eversheds Sutherland) ให้บริการด้านกฎหมายแก่ฐานลูกค้าทั่วโลก ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางไปจนถึงบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ที่สุด โดยเป็นผู้กระทำการในนามของบริษัท 61 แห่งที่อยู่ในดัชนี FTSE 100 ของตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ, บริษัท 70 แห่งที่ติดอันดับ Fortune 100 ของนิตยสารฟอร์จูน และ 128 แห่งที่ติดอันดับ Fortune 200
ด้วยทนายความมากกว่า 3,000 คน เอเวอร์เชดส์ ซัตเทอร์แลนด์มีสำนักงานมากกว่า 70 แห่งในเขตอำนาจศาลมากกว่า 30 แห่งทั้งในแอฟริกา, เอเชีย, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายสำนักงานกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกมากกว่า 200 แห่ง รวมถึงพันธมิตรอย่างเป็นทางการในละตินอเมริกา, เอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา คอยให้การสนับสนุนทั่วโลก