omniture

นิอุมและแมคลาเรน เรซซิ่ง ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและพัฒนาผู้มากความสามารถในวงการมอเตอร์สปอร์ตไฟฟ้า

NEOM
2022-06-27 20:44 193
  • นิอุมและแมคลาเรน เรซซิ่ง จะผนึกกำลังกันเป็น 'นิอุม แมคลาเรน อิเลคทริค เรซซิ่ง' แข่งขันในฟอร์มูลา อี และเอ็กซ์ตรีม อี เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมมอเตอร์สปอร์ตที่ยั่งยืน
  • แมคลาเรน เรซซิ่ง จะกลายเป็นหนึ่งในองค์กรผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและนวัตกรรมของอ็อกซากอน แหล่งรวมอุตสาหกรรมก้าวหน้าและสะอาดของนิอุม

นิอุม, ซาอุดีอาระเบีย, 27 มิถุนายน 2565 /PRNewswire/ -- นิอุม (NEOM) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแมคลาเรน เรซซิ่ง (McLaren Racing) เพื่อเป็นพันธมิตรหลักของทีมแข่งรถแมคลาเรน ฟอร์มูลา อี (Formula E) และเอ็กซ์ตรีม อี (Extreme E) ซึ่งถือเป็นการรวมสองซีรีส์การแข่งขันรถพลังงานไฟฟ้าเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ 'นิอุม แมคลาเรน อิเลคทริค เรซซิ่ง' (NEOM McLaren Electric Racing)

The NEOM McLaren Extreme E and Formula E race cars
The NEOM McLaren Extreme E and Formula E race cars

นัธมี อัลนัสเซอร์ (Nadhmi Al-Nasr) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนิอุม กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า "การเป็นหุ้นส่วนระหว่างเรากับแมคลาเรน เรซซิ่ง ช่วยเติมเต็มความมุ่งมั่นของนิอุมในการขับเคลื่อนโซลูชันที่ยั่งยืน และรับมือกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของสังคม การเป็นหุ้นส่วนจะช่วยให้เราสามารถแบ่งปันทรัพยากรและประสบการณ์โดยรวมของเรา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น ไม่เพียงแค่กับองค์กรของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และกีฬาในวงกว้างอีกด้วย นิอุมคือเครื่องยนต์เศรษฐกิจของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และจะเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจที่มีความล้ำหน้าอย่างแมคลาเรน เรซซิ่ง ในการวิจัยข้ามอุตสาหกรรม บ่มเพาะ ร่วมมือ และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ สู่โลก"

แมคลาเรนจะร่วมมือกับนิอุมในหลาย ๆ ด้าน โดยจะเป็นพันธมิตรผู้ก่อตั้งอ็อกซากอน (OXAGON) ซึ่งเป็นเมืองในนิอุม ที่ถูกกำหนดให้เป็นพิมพ์เขียวสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมขั้นสูงและสะอาด รวมทั้งเป็นศูนย์กลางนวัตกรรม โดยแมคลาเรนจะอยู่ภายในศูนย์วิจัยและนวัตกรรมของอ็อกซากอน ซึ่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกระดับนานาชาติอย่างกริมชอว์ (Grimshaw) ซึ่งทางศูนย์จะจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและพื้นที่ความร่วมมือ เร่งแนวคิดจากห้องปฏิบัติการสู่ตลาด เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต

แซค บราวน์ (Zak Brown) ซีอีโอของแมคลาเรน เรซซิ่ง กล่าวว่า "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับนิอุมสู่ครอบครัวแมคลาเรน เรซซิ่ง นี่เป็นหนทางอันน่าทึ่งในการเริ่มเข้าสู่ฟอร์มูลา อี และการรวมซีรีส์การแข่งรถพลังงานไฟฟ้าของเราเข้าด้วยกัน เราตื่นเต้นที่จะได้เปิดตัวนิอุม แมคลาเรน อิเลคทริค เรซซิ่ง และทำงานร่วมกับนิอุม ในการฟูมฟักผู้มีความสามารถและขับเคลื่อนนวัตกรรม การทำงานร่วมกับอ็อกซากอนจะช่วยให้เรามีบทบาทสำคัญได้ผ่านโปรแกรมบ่มเพาะของเรา และช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมให้ล้ำหน้าและสะอาด"

นอกจากนี้ แมคลาเรนจะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและการวิเคราะห์ ในฐานะพันธมิตรด้านเทคนิคของระบบนิเวศการผลิตขั้นสูงและสะอาดของอ็อกซากอน ผ่านโปรแกรมบ่มเพาะที่ออกแบบเฉพาะ ซึ่งนำข้อมูลจากการดำเนินงานไปแปลเป็นวัฒนธรรมและความคิดของพันธมิตรได้

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของความร่วมมือนี้จะเปิดตัวในปี 2566 เมื่อแมคลาเรนและนิอุมสร้างโปรแกรมเพื่อพัฒนาวิศวกรและนักศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของนิอุมในการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถของซาอุดีอาระเบีย โดยผู้สำเร็จการศึกษาชาวซาอุฯ 20 คนจากหลักสูตรบัณฑิตศึกษาของนิอุม จะได้ทำงานกับแมคลาเรน เรซซิ่ง เป็นเวลา 1 ปี ที่แมคลาเรน เทคโนโลยี เซ็นเตอร์ (McLaren Technology Center) ในสหราชอาณาจักร โดยโครงการ "เดอะ แมคลาเรน เวย์" (The McLaren Way) จะช่วยปลดล็อกประสิทธิภาพและศักยภาพของทีมนิอุมทั้งหมดผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ

ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของนิอุม ในการบรรลุเป้าหมายที่ยั่งยืนในวงการมอเตอร์สปอร์ต ทั้งฟอร์มูลา อี และเอ็กซ์ตรีม อี ที่การแข่งขันทั้งสองรูปแบบสร้างความตื่นตาตื่นใจไปทั่วโลก โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จของความสัมพันธ์กับเมอร์ซิเดส-อีคิว ฟอร์มูลา อี (Mercedes-EQ Formula E) ทีมนิอุม แมคลาเรน ฟอร์มูลา อี จะถูกจัดตั้งขึ้นผ่านการเข้าซื้อกิจการทีมเมอร์ซิเดส-อีคิว ฟอร์มูลา อี ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายปีนี้ ซึ่งทีมระดับแชมป์รายนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรถแข่งแมคลาเรน

นิอุมยังเป็นสนามแข่งขันนัดเปิดฤดูกาลที่สองของเอ็กซ์ตรีม อี ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วย การแข่งขันดังกล่าวได้ช่วยสร้างความตระหนักถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตที่ยั่งยืนในภูมิภาคต่อไป

ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียลงทุนอย่างมากในแพลตฟอร์มมอเตอร์สปอร์ตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยกระทรวงกีฬาได้ลงนามข้อตกลงในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้งฟอร์มูลา อี, เอ็กซ์ตรีม อี, ฟอร์มูลา วัน และดาการ์ แรลลี

เกี่ยวกับเมืองนิอุม

เมืองนิอุมคือผู้เร่งสร้างความก้าวหน้าให้กับมวลมนุษยชาติและกำหนดอนาคตใหม่ เมืองใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบียบริเวณทะเลแดง โดยสร้างขึ้นใหม่หมดในลักษณะ "ห้องทดลองมีชีวิต" และมีความเป็นผู้ประกอบการเป็นตัวกำหนดอนาคตใหม่ เมืองนี้จะเป็นจุดหมายปลายทางและบ้านของคนที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่และต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างแม่แบบของความเป็นอยู่ที่ดี การทำธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เมืองนิอุมจะประกอบด้วยชุมชน เขตเมือง ท่าเรือ ย่านธุรกิจ ศูนย์วิจัย สนามกีฬา สถานบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาพร้อมการประมวลผลเชิงลึก ในฐานะศูนย์กลางด้านนวัตกรรม บรรดาผู้ประกอบการ ผู้นำทางธุรกิจ และบริษัทต่าง ๆ จะเดินทางมายังนิอุม เพื่อทำการวิจัย บ่มเพาะ และทำการตลาดเทคโนโลยีต่าง ๆ ด้วยวิธีการใหม่ ๆ โดยผู้อยู่อาศัยในเมืองนิอุมจะมีความเป็นสากลและอ้าแขนรับวัฒนธรรมการแสวงหาสิ่งใหม่ ความกล้าได้กล้าเสีย และความหลากหลาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่อีเมล media@neom.com หรือดูที่ www.neom.com และ www.neom.com/en-us/newsroom

เกี่ยวกับแมคลาเรน เรซซิ่ง

แมคลาเรน เรซซิ่ง (McLaren Racing) ก่อตั้งโดยนักแข่งรถชาวนิวซีแลนด์บรูซ แมคลาเรน (Bruce McLaren) ในปี 2506 ทีมแมคลาเรนเข้าสู่การแข่งขันฟอร์มูล่าวัน (Formula 1) ครั้งแรกในปี 2509 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แมคลาเรนได้คว้าตำแหน่งแชมป์โลกในการแข่งขันฟอร์มูล่าวันถึง 20 รายการ คว้าชัยชนะจากการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน กรังด์ปรีซ์ (Formula 1 Grands Prix) มากกว่า 180 รายการ คว้าชัยจากรายการอินเดียนาโพลิส 500 (Indianapolis 500) อีก 3 ครั้ง และคว้าชัยในการแข่งขันเลอม็อง 24 ชั่วโมง (Le Mans 24 Hours) ตั้งแต่ลงแข่งครั้งแรก

แมคลาเรน เรซซิ่งร่วมแข่งขันในรายการเอฟไอเอ ฟอร์มูล่าวัน เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ (FIA Formula 1 World Championship) โดยแลนโด นอร์ริส (Lando Norris) และเดเนียล ริคเคียร์โด (Daniel Ricciardo) รวมถึงลงแข่งในรายการเอ็นทีที อินดี้คาร์ ซีรีส์ (NTT INDYCAR Series) โดยนักแข่งจากแอร์โรว์ แมคลาเรน เอสพี (Arrow McLaren SP) อย่างปาโต โอวอร์ด (Pato O'Ward) และเฟลิกซ์ โรเซนควิสต์ (Felix Rosenqvist) ตลอดจนลงแข่งในรายการเอ็กซ์ตรีม อี แชมเปี้ยนชิพ (Extreme E Championship) ด้วยเอ็มมา กิลมัวร์ (Emma Gilmour) และแทนเนอร์ เฟาสท์ (Tanner Foust) ทั้งนี้ แมคลาเรนจะลงแข่งรายการเอฟไอเอ ฟอร์มูล่า อี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซีซันเก้าในปี 2565/2566

แมคลาเรนเป็นทีมฟอร์มูล่าวันทีมแรกที่ได้รับรางวัลคาร์บอน ทรัสต์ สแตนดาร์ด (Carbon Trust Standard) ในปี 2553 และยังคงได้รับรางวัลต่อเนื่องทุก 2 ปี ครั้งล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นอกจากนี้ ยังเป็นทีมแรกในฟอร์มูล่าวันที่ได้รับรางวัลเอฟไอเอ ซัสเทนอะบิลิตี้ แอคเครดิเทชัน อวอร์ด (FIA Sustainability Accreditation Award) ระดับสามดาวในปี 2556 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมของเอฟไอเอ (FIA Environmental Certification) ก่อนที่จะเป็นผู้ลงนามในกีฬาเพื่อความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ (UN Sports for Climate Action Commitment) ในปี 2564

เนื้อหานี้เผยแพร่โดย Teneo Strategy LLC ในนามของนิอุม คอมพานี (NEOM Company) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กระทรวงยุติธรรม วอชิงตัน ดี.ซี.

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1848113/NEOM.jpg?p=medium600

Source: NEOM
Keywords: Auto Banking/Financial Service Computer/Electronics Sporting Events Sports Joint ventures