สิงคโปร์--21 ก.ย. 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
จากซ้ายไปขวา ซาบรีนา ช็อง (Sabrina Chong), อัลวิน ช็อง (Alwyn Chong), ดร.วูล์ฟกัง แบเออร์ (Dr Wolfgang Baier) และแพทริก ช็อง (Patrick Chong) ฉลองชัยชนะครั้งที่สองของลัคซ์เอเซียจากรางวัลบริษัทที่มีการจัดการดีที่สุดในสิงคโปร์จากดีลอยท์
ลัคซ์เอเซีย (LUXASIA) ได้รับการเสนอชื่อในปีนี้ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจัดการดีที่สุดในสิงคโปร์ (Singapore's Best Managed Companies) จากดีลอยท์ (Deloitte) อีกครั้ง ถือเป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนถึงปณิธานแผนการเติบโต (Growth Plan) 3 ปีที่ครอบคลุมของบริษัท ตลอดจนวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม ความหลากหลาย และการทำงานเป็นทีม
ดร.วูล์ฟกัง แบเออร์ (Dr Wolfgang Baier) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลัคซ์เอเซียกล่าวว่า "ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญในขณะที่เราเริ่มต้นบทใหม่ของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเส้นทางธุรกิจของเราในอีก 3 ปีข้างหน้า เราตั้งเป้าที่จะจับกลุ่มธุรกิจความงามและไลฟ์สไตล์หรูที่กำลังเติบโตในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งขับเคลื่อนโดยขีดความสามารถสุดแกร่งที่หล่อหลอมมาจากเส้นทางการพลิกโฉมอย่างเคร่งครัดของเราในระยะเวลา 5 ปี ในฐานะที่เป็นทีมงานหนึ่งของบุคลากร 2,000 คนใน 15 ตลาด เราจะเป็นผู้นำในเรื่องนี้"
อนึ่ง เบสต์แมเนจ (Best Managed) เป็นโครงการมอบรางวัลอันเป็นที่รู้จักกันดีใน 48 ประเทศทั่วโลก โดยจะประเมินธุรกิจจาก 4 เสาหลัก ได้แก่ กลยุทธ์, คุณภาพการจัดการ, ความสามารถและนวัตกรรม, วัฒนธรรมและความมุ่งมั่น ตลอดจนการกำกับดูแลและการเงิน
ทั้งนี้ ลัคซ์เอเซียเป็นผู้สร้างแบรนด์ชั้นนำของเอเชียแปซิฟิกที่มีความสามารถในการจัดจำหน่ายแบบออมนิแชนเนลที่ผสานรวมการค้าปลีกสินค้าหรูคุณภาพสูง การค้าทางออนไลน์อย่างชาญฉลาด และข้อมูลการวิเคราะห์ผู้บริโภคจำนวนมหาศาลที่ตั้งอยู่ใน 15 ตลาด ขับเคลื่อนโดยบุคลากร 2,000 คน และเป็นพันธมิตรกับอีกมากกว่า 120 แบรนด์ แต่ลัคซ์เอเซียก็ไม่ยอมชะล่าใจต่อผลงานความสำเร็จในอดีตแม้จะทุ่มเทลงทุนลงแรงไปกับการพลิกโฉมเป็นเวลา 5 ปีก็ตาม ลัคซ์เอเซียได้เปิดตัวแผนการเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งครอบคลุมในด้านบุคลากร, ธุรกิจและผู้บริโภค, ขีดความสามารถแบบออมนิแชนเนล และแพลตฟอร์มปฏิบัติการพื้นฐานของบริษัท
สองไฮไลท์หลักของแผนการเติบโตดังกล่าวคือ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของลีปคอมเมิร์ซ (LEAP Commerce) ซึ่งเป็นตัวช่วยด้านอีคอมเมิร์ซที่ลัคซ์เอเซียเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ และการขยายตัวในระดับภูมิภาคของเอสเซนเชียล (escentials) ซึ่งเป็นแนวคิดการค้าปลีกสินค้าหรูเฉพาะกลุ่มแบบหลากหลายช่องทาง ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของลัคซ์เอเซียจะเป็นการสร้างแบรนด์แบบออมนิแชนเนลในด้านความงามสุดหรู ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่ผ่านการพิสูจน์แล้วโดยอาศัยความเชี่ยวชาญในตลาดและสายสัมพันธ์ในเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ลัคซ์เอเซียจะใช้ประโยชน์จากการผนึกกำลังทางธุรกิจที่สำคัญในด้านปฏิบัติการสำหรับกลุ่มไลฟ์สไตล์สุดหรู ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน โดยผลงานน่าประทับใจชิ้นแรกในด้านนี้ ได้แก่ การเปิดตัวไดสัน (Dyson) อันโด่งดังในอินโดนีเซีย
คุณแพทริก ช็อง (Patrick Chong) ผู้ก่อตั้งและประธานของลัคซ์เอเซียกล่าวขอบคุณจากใจจริงว่า "รางวัลครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความไว้วางใจอย่างแน่นแฟ้นและการสนับสนุนจากพันธมิตรแบรนด์หรูกว่า 120 รายของเรา ตลอดจนคู่ค้าและพันธมิตรด้านค้าปลีกทั่วทั้งภูมิภาค เราจะร่วมกันเดินหน้าสร้างแบรนด์ พัฒนาบุคลากร และนำความสุขมาสู่ผู้บริโภคในท้องถิ่นต่อไปไม่ว่าเราจะไปที่ไหนในเอเชียแปซิฟิก"
สื่อมวลชนติดต่อ บรีนเนอร์ จานันโต (Brynner Jananto)
อีเมล: brynnerjananto@luxasia.com