ประติมากรรมแสงสี แต่งแต้มท้องฟ้าเหนือเมืองโบราณเฮกรา แหล่งมรดกโลกจากยูเนสโก ณ อัลอูลา เมืองทะเลทรายอันสง่างามทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย

อัลอูลา, ซาอุดีอาระเบีย, 17 ต.ค. 2565/พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

วิดีโอ - https://mma.prnasia.com/media2/1922006/Royal_Commission_For_AlUla.mp4

วิดีโอแบนเนอร์หลักจากการแสดงโดรน ณ เมืองโบราณเฮกรา (Hegra's Drone Show) โดย อัลอูลา โมเมนต์ส (AlUla Moments) และสกายเมจิก (SKYMAGIC) อำนวยการผลิตโดยบัลลิช วันเดอร์ สตูดิโอ เคเอสเอ (Balich Wonder Studio KSA) ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากอัลอูลา โมเมนต์ส

An impressive drawing of light made by drones, creating an illusion of light at Hegra’s Drone Light Show. The show took place in AlUla in the Northwest of Saudi Arabia on 13, 14, 15th of October 2022 to mark the end of AlUla Wellness Festival, the first of a series of festivals and events forming together AlUla Moments Calendar.

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1922007/Royal_Commission_For_AlUla_1.jpg?p=medium600

ภาพแสงสีบนท้องฟ้าจากโดรน เกิดเป็นภาพมายาสุดน่าทึ่ง ในการแสดงโดรนแสงสี ณ เมืองโบราณเฮกรา จัดขึ้น ณ เมืองอัลลูลาทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 13, 14, 15 ตุลาคม 2565 อันเป็นสัญญาณสิ้นสุดเทศกาลอัลอูลา เวลเนส เฟสติวัล (AlUla Wellness Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลแรกจากชุดเทศกาลและอีเวนท์ต่าง ๆ ตามปฏิทินของอัลลูลา โมเมนต์ส ทั้งนี้ การแสดงโดรน ณ เมืองโบราณเฮกราจัดแสดงโดยอัลอูลา โมเมนต์ส และสกายเมจิก อำนวยการผลิตโดยบัลลิช วันเดอร์ สตูดิโอ เคเอสเอ และได้รับความอนุเคราะห์จากอัลอูลา โมเมนต์ส

A drawing of a flying falcon above the Tomb of Lyhian Son of Kuza at Hegra, the first UNESCO World Heritage Site in the Kingdom of Saudi Arabia. Hegra’s Drone Light Show explores the origins and beauty of light in its purest form through a performative artwork at the intersection of technology where luminous drones will fly in the dark sky of AlUla to create a flying sculpture accompanied with music.

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1922005/Royal_Commission_For_AlUla_2.jpg?p=medium600

ภาพเหยี่ยวโผบินเหนือสุสานลีเฮียน บุตรแห่งคูซา (Tomb of Lyhian Son of Kuza) ที่เมืองโบราณเฮกรา ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก (UNESCO) โดยการแสดงโดรนแสงสีจะพาผู้ชมไปสำรวจต้นกำเนิดและความงามแท้ของแสงผ่านงานศิลปะการแสดงที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี โดยโดรนเรืองแสงจะโบยบินไปในท้องฟ้ายามราตรีของอัลลูลาเพื่อสร้างประติมากรรมในอากาศคลอเคล้าไปกับเสียงดนตรี ทั้งนี้ การแสดงโดรน ณ เมืองโบราณเฮกราจัดแสดงโดยอัลอูลา โมเมนต์ส และสกายเมจิก อำนวยการผลิตโดยบัลลิช วันเดอร์ สตูดิโอ เคเอสเอ และได้รับความอนุเคราะห์จากอัลอูลา โมเมนต์ส

A celebration of light draws above Hegra, the UNESCO World Heritage Site in the Northwest of the Kingdom of Saudi Arabia. Hegra’s Drone Light Show explores the origins and beauty of light in its purest form. Light is the cornerstone of wellness, powering minds and bodies. The light show marks the end of AlUla Wellness Festival, which is the first of a series of festivals and events forming together AlUla Moments Calendar.

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1922004/Royal_Commission_For_AlUla_3.jpg?p=medium600

การเฉลิมฉลองด้วยแสงสีเหนือเมืองโบราณเฮกรา ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุฯ โดยการแสดงโดรนแสงสี ณ เมืองโบราณเฮกราจะพาผู้ชมไปสำรวจต้นกำเนิดและความงามแท้ของแสง โดยแสงสว่างถือเป็นรากฐานของความเป็นอยู่ที่ดี เป็นพลังให้กับจิตใจและร่างกาย การแสดงโดรนแสงสีนี้ถือเป็นสัญญาณสิ้นสุดเทศกาลอัลอูลา เวลเนส เฟสติวัล ซึ่งเป็นเทศกาลแรกจากชุดเทศกาลและอีเวนท์ต่าง ๆ ตามปฏิทินของอัลลูลา โมเมนต์ส ทั้งนี้ การแสดงโดรน ณ เมืองโบราณเฮกราจัดแสดงโดยอัลอูลา โมเมนต์ส และสกายเมจิก อำนวยการผลิตโดยบัลลิช วันเดอร์ สตูดิโอ เคเอสเอ และได้รับความอนุเคราะห์จากอัลอูลา โมเมนต์ส

เกี่ยวกับอัลอูลา โมเมนต์ส:

อัลอูลา โมเมนต์ส คือบ้านหลังใหม่ของงานอีเวนท์ต่าง ๆ ในอัลอูลา โดยเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2564 ด้วยการเฉลิมฉลอง 4 เทศกาลใหม่และบอกเล่าเรื่องราวของเมืองอัลอูลา รวมถึงไขความลับต่าง ๆ และร่วมเฉลิมฉลองวัฒนธรรมท้องถิ่นและนานาชาติ ด้วยอารยธรรมกว่า 7,000 ปีและเป็นที่ตั้งของอาณาจักรเก่าแก่ที่เจริญมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุคโบราณ อัลอูลาจึงเป็นสถานที่ที่ใช่สำหรับงานพบปะสังสรรค์และการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม

เทศกาลทั้งสี่ที่จัดขึ้น ณ อัลอูลา ได้แก่ เทศกาลฤดูหนาว ณ ทันโทรา (Winter at Tantora) ซึ่งเป็นการกลับมาเฉลิมฉลองมรดกวัฒนธรรมและดนตรีอีกครั้ง ตลอดจนเทศกาลอัลอูลา สกายส์ (AlUla Skies), อัลอูลา อาร์ทส (AlUla Arts) และอัลอูลา เวลเนส เฟสติวัล (AlUla Wellness Festival)

เทศกาลเหล่านี้นำเสนอสารพัดประสบการณ์ที่คัดสรรมาแล้วในด้านศิลปะ, วัฒนธรรม, ดนตรี, ธรรมชาติ, สุขภาพ, การขี่ม้า, อาหาร และดาราศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์ และมรดกของเมืองอัลอูลา ตลอดจนอารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินอัลอูลา

ในปีนี้ อัลอูลา โมเมนต์สจะนำเสนอ 5 เทศกาลสำคัญและ 5 งานอีเวนท์ รวมถึงการกลับมาของเทศกาลฤดูหนาว ณ ทันโทรา และอัลอูลา เวลเนส เฟสติวัล การกลับมาของอาซีมุธ (AZIMUTH) และเป็นครั้งแรกที่จะได้เปิดตัวเทศกาลแอนเชียน คิงดอม เฟสติวัล (Ancient Kingdoms Festival) เพื่อย้อนรำลึกอดีตผ่านประสบการณ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอารยธรรมที่สืบต่อกันมากว่า 7,000 ปี บนคาบสมุทรอาหรับและเส้นทางการค้าขายเครื่องหอมอันเลื่องชื่อที่ทำให้อัลอูลาเป็นชุมทางการค้าและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ experiencealula.com/en/alula-moments

เกี่ยวกับอัลอูลา:

อัลอูลาอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ห่างจากกรุงริยาด 1,100 กิโลเมตร รุ่มรวยด้วยมรดกของมนุษย์และธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ พื้นที่อันกว้างขวาง 22,561 ตารางกิโลเมตร มีทั้งหุบเขาโอเอซิสอันเขียวชอุ่ม ภูเขาหินทรายตั้งตระหง่าน และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมอายุเก่าแก่หลายพันปีตั้งแต่สมัยราชอาณาจักรลีเฮียน (Lihyan) และราชอาณาจักรแนบาเทีย (Nabataean) ยังคงรุ่งเรือง

สถานที่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในอัลอูลาคือเมืองโบราณเฮกรา (Hegra) แหล่งมรดกโลกแห่งแรกของซาอุดีอาระเบียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก เมืองโบราณแห่งนี้มีพื้นที่ 52 เฮกตาร์ และเคยเป็นเมืองสำคัญทางตอนใต้ของราชอาณาจักรแนบาเทีย โดยมีสุสาน 111 แห่งที่ยังอยู่ในสภาพดีและมีการตกแต่งผนังภายนอกอย่างวิจิตรงดงามด้วยการขุดภูเขาหินทราย รอบนิคมเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ

นอกจากนี้ ผลวิจัยปัจจุบันบ่งชี้ว่าเฮกราคือดินแดนใต้สุดของอาณาจักรโรมัน หลังจากเอาชนะราชอาณาจักรแนบาเทียในคริสต์ศักราช 106

นอกจากเมืองโบราณเฮกราแล้ว อัลอูลายังเป็นที่ตั้งของดาดัน (Dadan) เมืองหลวงโบราณแห่งราชอาณาจักรดาดันและลีเฮียน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งในคาบสมุทรอาหรับในช่วง 1,000 ปีก่อนคริสตกาล และจาบาล อิกมาห์ (Jabal Ikmah) ซึ่งเป็นห้องสมุดกลางแจ้งที่มีจารึกและงานเขียนหลายร้อยชิ้นในหลายภาษา ตลอดจนเมืองเก่า (Old Town) ของอัลอูลา ซึ่งหนาแน่นไปด้วยบ้านอิฐโคลนมากกว่า 900 หลัง ซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นอย่างน้อยตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 รวมถึงสถานีรถไฟฮิญาซ (Hijaz) และป้อมปราการเฮกรา อันเป็นสถานที่สำคัญในมหากาพย์ลอว์เรนซ์แห่งอาระเบีย (Lawrence of Arabia)

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.experiencealula.com

ติดต่อเราผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ที่

#experiencealula
#alulamoments
#alulawellnessfestival

@ ExperienceAlUla
@AlUlaMoments