เซินเจิ้น จีน, 23 พ.ย. 2565 /พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกเป็นอุปสรรคสำคัญสองประการต่อภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการ ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ระบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคสมัยใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดบอท (Dobot) จึงได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ หรือโคบอต (collaborative robot หรือ cobot) ในตระกูลโนวา (Nova Series) ซึ่งออกแบบมาสำหรับลูกค้าในภาคค้าปลีกโดยเฉพาะ เพื่อช่วยจัดการกับงานต่าง ๆ เช่น การชงกาแฟ ผสมค็อกเทล ขายไอศกรีม ทำบะหมี่ ไก่ทอด และแม้แต่การทำกายภาพบำบัด
โนวา 2 (Nova 2) และโนวา 5 (Nova 5) เป็นสองรุ่นแรกในตระกูลโนวา สามารถยกหรือหยิบจับวัตถุน้ำหนัก 2 กก. และ 5 กก. สำหรับงานขายและกายภาพบำบัดตามลำดับ หุ่นยนต์โนวาทั้งสองรุ่นสามารถทำงานแทนมนุษย์เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และลดการสัมผัสโดยตรงกับมนุษย์ในช่วงการแพร่ระบาด
เพื่อตอบสนองการสร้างแบรนด์ค้าปลีกให้ดียิ่งขึ้น หุ่นยนต์ตระกูลโนวาจึงได้รับการออกแบบให้แตกต่างไปจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วไปที่มีลักษณะแข็งทื่อ ทั้งยังสามารถปรับแต่งสีให้เข้ากับร้านค้าเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า นอกจากนี้ หุ่นยนต์โนวาซีรีส์ยังมีขนาดกะทัดรัดกว่าโคบอตอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน และสามารถทำงานในพื้นที่เพียงหนึ่งตารางเมตรได้
เนื่องจากร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ไม่ได้ว่าจ้างวิศวกรประจำ หุ่นยนต์พนักงานในตระกูลโนวาจึงได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ด้วยการลากคำสั่งเพื่อสอนงาน และมียูสเซอร์อินเทอร์เฟซแบบกราฟิก ใคร ๆ ก็สามารถตั้งโปรแกรมโนวาได้อย่างง่ายดายโดยใช้เวลาเพียง 10 นาที และไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
บ่อยครั้งที่หุ่นยนต์ในธุรกิจค้าปลีกโต้ตอบกับผู้คน ความปลอดภัยจึงมีความสำคัญสูงสุด หุ่นยนต์โนวามาพร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของมนุษย์อย่างชาญฉลาด และหยุดการทำงานใน 0.01 วินาทีเมื่อตรวจจับการชน นอกจากนี้ ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ โนวาจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยของผู้อื่น
โนวาจากโดบอทเปิดประตูสู่การใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการ การใช้งานหุ่นยนต์จะไม่จำกัดอยู่เพียงพื้นที่การผลิตของโรงงาน แต่จะขยายมาสู่ชีวิตประจำวันของเรา ด้วยเหตุนี้ การทำงานร่วมกันและการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรจะมีแต่เพิ่มขึ้น