มิลาน, 23 พฤศจิกายน 2565 /PRNewswire/ -- พรสวรรค์อันหลากหลายเป็นค่านิยมของซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) ชุมชนที่สร้างแรงบันดาลใจซึ่งก่อตั้งโดยซาน เพลลีกรีโน (S.Pellegrino) เพื่อมุ่งบ่มเพาะเชฟรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการนี้ แบรนด์น้ำแร่อัดลมชั้นนำนี้จึงขอนำเสนอ "การขับเคลื่อนความสมดุลทางเพศในครัว" (Driving gender balance in kitchens) ฟอรัมดิจิทัลเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศภายในภาคอาหาร
รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.multivu.com/players/uk/9111251-the-talent-has-no-gender-s-pellegrino-launches-webinar-series/
ตอนนี้เรามาถึงไหนแล้วในแง่ภาพแทนของผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้ อะไรคือรากเหง้าของความเหลื่อมล้ำทางเพศ ทำไมจึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความหลากหลายในร้านอาหารได้อย่างไรบ้าง ทั้ง 4 ตอน ซึ่งอยู่เว็บไซต์ของซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี พาสำรวจแง่มุมต่าง ๆ ของความเหลื่อมล้ำทางเพศ พร้อมสรุปแผนงานของการเปลี่ยนแปลง
นอกจากทอม เจนกินส์ (Tom Jenkins) นักข่าวและโฆษกประจำซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ในฐานะผู้ดำเนินรายการแล้ว บุคคลสำคัญของการอภิปรายว่าด้วยวิธีการสร้างภาคส่วนที่เป็นธรรมและมีภาพแทนมากขึ้น ประกอบด้วย มาเรีย กานาบาล (Maria Canabal) นักข่าวระดับรางวัล ผู้ก่อตั้งและประธานปาราเบเร ฟอรั่ม (Parabere Forum), วิกกี้ เลา (Vicky Lau) เชฟและเจ้าของกิจการร้านมิชลินระดับ 2 ดาวอย่างเทต ไดนิ่ง รูม (Tate Dining Room) และโมรา (Mora) ในฮ่องกง, คริสตินา บาวเวอร์แมน (Cristina Bowerman) เชฟหญิงหนึ่งเดียวในกรุงโรมที่ไม่เพียงแต่กุมบังเหียนร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ที่กลาส ออสตาเรีย (Glass Hostaria) แต่ยังคว้า 3 ส้อม (Three Forks) จากกัมเบโร รอสโซ่ (Gambero Rosso) และนิโคไล นอร์การด์ (Nicolai Nørregaard) เชฟและเจ้าของร่วมของร้านอาหารระดับดาวมิชลินอย่างกาโด (Kadeau) ในเมืองบอร์นโฮล์ม และกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
สาระสำคัญจากซีรีส์การสัมมนาผ่านเว็บ
- ครัวในฐานะคลับของผู้ชาย
คุณกานาบาล ซึ่งเปิดด้วยประวัติศาสตร์ของอาหารสมัยใหม่ เน้นย้ำว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบกองพล (brigade system) ในห้องครัวที่มีลักษณะคล้ายกองทัพ ซึ่งเชิดชูผู้ชายและทัศนคติเหยียดเพศได้ผลักให้เชฟหญิงก้าวถอยหลัง โดยเชฟหญิงมักไม่ถูกยอมรับและถูกนำเสนอ
ด้านเชฟชื่อดังได้ยืนยันเรื่องนี้เช่นกัน โดยเชฟเลา กล่าวว่า "หากคุณดูรายชื่อผู้หญิงที่ได้รับรางวัลทั่วโลกแล้ว เกือบทุกคนล้วนเป็นเจ้าของร้านอาหาร สำหรับเรา การเป็นอิสระเป็นหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงระบบนี้ได้ และแม้จะไม่มีประสบการณ์ แต่เมื่อฉันเริ่มคนเดียว ฉันก็ไม่อยากผลิตซ้ำระบอบทหารอันก้าวร้าว ฉันได้เลือกและยังคงคัดเลือกคนที่สงบ นิ่ง และสมดุลต่อไป"
เชฟนอร์การด์ตัดสินใจที่จะบริหารครัวของเขาให้ต่างออกไป โดยไม่อดทนต่อน้ำเสียงที่ดุดัน การตะโกน และความตึงเครียด ขณะที่เชฟบาวเวอร์แมนเสริมว่า "ฉันมักเป็นคนตัดสินใจในขั้นสุดท้ายเสมอ แต่ฉันเรียนรู้จากเชฟชายว่าต้องอ่อนโยนและให้เกียรติ"
- ปัญหาภาพแทนของเชฟหญิงในสื่ออาหาร คณะกรรมการ และตามอีเวนต์
เมื่อค้นหาคำว่า "เชฟชื่อดัง" ทางออนไลน์ ภาพที่ปรากฏมักจะเป็นผู้ชาย แต่เชฟคนแรกที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน 3 ดาว ถึง 2 ครั้ง กลับเป็นผู้หญิง ซึ่งก็คือ อุชเชนี บราซิเย (Eugènie Brazier) เมื่อปี 2476
"นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าผู้หญิงในครัวระดับสูงไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น" กานาบาล เน้นย้ำ "แต่ปัจจุบัน พวกเธอได้รับค่าจ้างน้อยกว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชาย 28% และหาก 93% ของการทำอาหารในบ้านเป็นอภิสิทธิ์ของผู้หญิง หาก 48% ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในโรงเรียนสอนทำอาหารเป็นผู้หญิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก 55% ของประชากรโลกเป็นผู้หญิง ยังมีความจำเป็นอีกหรือไม่ที่จะต้องแยกความแตกต่างระหว่างเชฟชายกับเชฟหญิง พรสวรรค์นั้นไม่มีเพศ เรากำหนดพรสวรรค์ในรูปทรงของผู้หญิง หรือเรากำหนดพรสวรรค์ในรูปทรงของผู้ชายกันมากกว่า"
เชฟเลา กล่าวว่า "ฉันมักจะรู้สึกว่าถูกสัมภาษณ์ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกขอให้แสดงความเห็นในฐานะเชฟหญิงและเจ้าของที่เป็นผู้หญิง ราวกับว่ามีความแตกต่างกับผู้ชาย และราวกับว่างานของฉัน เส้นทางของฉันไม่มีความสำคัญในตัวมันเอง" นอกจากนี้ คุณบาวเวอร์แมน ได้แบ่งบันประสบการณ์ของเธอเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างที่ไม่เท่าเทียมว่า "ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นตัวเลือกที่สองสำหรับหลายกิจกรรม ผู้ที่จัดงานเทศกาล งานอีเวนต์ หรือฟอรัม ต่างมองหาผู้หญิง โดยไม่ได้คำนึงจากความสามารถหรือจากเส้นทางของเธอ แต่จากการเป็นผู้หญิงเท่านั้น และปฎิบัติต่อเราราวกับแทนกันได้" บาวเวอร์แมนเสริมว่า "ผู้หญิงจะได้รับข้อเสนอค่าตัวน้อยกว่าผู้ชายประมาณ 20% และข้อเสนอจะลดลงทุกครั้งที่เราย้ายไปอันดับที่สองในรายการ"
ตามข้อพิสูจน์นี้ แขกที่เป็นผู้หญิงในอีเวนต์ต่าง ๆ ล้วนมีสัดส่วนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นคณะผู้ตัดสินของการแข่งขันซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ซึ่ง 57% เป็นผู้หญิง
- การพัฒนาสมดุลชีวิตทำงานเป็นวัตถุประสงค์ร่วมกัน
เลา เบาเวอร์แมน และนอร์การด์ เห็นพ้องกันว่าต้องกำจัดภาพเหมารวมในครัว
การทำงานในภาคบริการเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับคนทุกเพศ และทุกคนรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องหาโซลูชันที่ยืดหยุ่นสำหรับระบบกองพล และพัฒนาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงาน
ทอม เจนกินส์ แสดงความเห็นว่า "เราตระหนักดีว่าการทำอาหารอาจเป็นอุตสาหกรรมที่ท้าทายสำหรับเชฟหญิง และพวกเธอมักจะถูกมองข้าม ด้วยเหตุนี้ เราจึงรู้สึกภูมิใจอย่างมากกับโครงการเว็บบินาร์ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมการศึกษาของอคาเดมีของเรา เพื่อชูประเด็นเรื่องความสมดุลทางเพศมาเป็นศูนย์กลางของการอภิปราย เผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับความเท่าเทียม และเสนอแรงบันดาลใจให้แก่เชฟหญิงรุ่นใหม่ในการพัฒนาวิชาชีพ"
เกี่ยวกับซาน เพลลีกรีโน และอควา ปานน่า
ซาน เพลลีกรีโน (S.Pellegrino), อควา ปานน่า (Acqua Panna) และซาน เพลลีกรีโน อิตาเลียน สปาร์คลิง ดริงค์ส (Sanpellegrino Italian Sparkling Drinks) เป็นเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศของซาน เพลลีกรีโน เอส พี เอ (Sanpellegrino S.p.A.) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ ผ่านสาขาและตัวแทนจำหน่าย 5 ทวีป โดยแสดงให้เห็นความเป็นเลิศด้านคุณภาพจากต้นกำเนิด และถ่ายทอดความเป็นอิตาเลียนออกไปทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความน่าอภิรมย์ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ซาน เพลลีกรีโน เอส พี เอ ก่อตั้งขึ้นในปี 2442 และเป็นบริษัทภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับชั้นนำของอิตาลี ที่ครอบคลุมทั้งน้ำแร่ เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่ไร้แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่ม
ซาน เพลลีกรีโน มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ และทำงานอย่างมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรนี้จะมีอนาคตที่ยั่งยืน
วิดีโอ - https://mma.prnasia.com/media2/1940489/S_Pellegrino_Gender_Balance.mp4
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1940487/S_Pellegrino_diverse_talent.jpg?p=medium600