บาร์เซโลนา, สเปน--1 มีนาคม--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
On February 28, 2023, at MWC Barcelona 2023, Botswana's Debswana and Huawei jointly announced the world's first 5G-oriented smart diamond mine project. Guests including Hon. Thulagano M. Segokgo, Minister of Communications, Knowledge and Technology of Botswana (second from the left), Debswana's Head of Information Management Molemisi Nelson Sechaba (third from the left) and Xu Jun, Chief Technology Officer of Huawei Mine BU (first from the left)
เด็บสวานา (Debswana) และหัวเว่ย (Huawei) ร่วมกันประกาศเปิดตัวโครงการเหมืองเพชรอัจฉริยะโครงการแรกของโลกที่ใช้ 5G เป็นหลัก ในงานเอ็มดับบลิวซี บาร์เซโลนา (MWC Barcelona) ประจำปี 2566
คุณโมเลมีซี เนลสัน เซชาบา (Molemisi Nelson Sechaba) ประธานฝ่ายการจัดการสารสนเทศของเด็บสวานาระบุว่า มีการติดตั้งโซลูชันเหมืองอัจฉริยะของหัวเว่ยที่เหมืองเพชรแบบเปิด (open-pit) ของเด็บสวานาในเมืองจวาเนง (Jwaneng) และโครงการดังกล่าวนี้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนธันวาคม 2564 โซลูชันเครือข่ายส่วนตัวแบบ 4G eLTE ของหัวเว่ยให้การเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพสำหรับเหมืองในจวาเนงนี้ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์กว่า 260 ชิ้น ทำให้เกิดการเชื่อมต่อถึงกัน ระหว่างระบบการผลิต ระบบความปลอดภัย และระบบความมั่นคงของเหมือง
คุณเซชาบากล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตั้งใช้งานโซลูชัน eLTE เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เหมืองอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยมีเหตุผลสองประการ ประการแรกคือประสิทธิภาพ หรือความสามารถที่จะส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ทำให้อุปกรณ์อย่างเช่นยานพาหนะงานเหมืองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตและลดค่าใช้จ่ายการดำเนินการ (OPEX) ในระยะยาว ประการที่สองคือโซลูชันดังกล่าวช่วยยกระดับความปลอดภัย การเก็บข้อมูล การแบ็กฮอล และปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ ทำให้ระบบมีความไวและแม่นยำมากขึ้นในการมอบการปกป้องที่เชื่อถือได้ยิ่งขึ้นสำหรับพนักงานและยานพาหนะ
เหมืองในจวาเนงนี้เป็นเหมืองเพชรอัจฉริยะโครงการแรกของโลกที่ใช้ 5G เป็นหลัก หมายความว่าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อย่างเช่นสถานีฐานที่ใช้ในโซลูชันการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของเหมืองรองรับการอัปเกรดเครือข่ายเป็น 5G โดยคุณสมบัติของ 5G อย่างแบนด์วิดท์การส่งถ่ายข้อมูลสูงและความหน่วงต่ำสามารถรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างเช่นการขับขี่อัตโนมัติได้ ซึ่งเอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างเป็นอัจฉริยะมากขึ้นของอุตสาหกรรมเหมืองต่อไปในอนาคต
ฯพณฯ ธูลากาโน เอ็ม. เซก็อคโก (Hon. Thulagano M. Segokgo) รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสาร ความรู้ และเทคโนโลยีแห่งบอตสวานา กล่าวว่า รัฐบาลบอตสวานายินดีที่ได้เห็นการผนึกกำลังระหว่างเด็บสวานาและหัวเว่ยในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมเหมือง เด็บสวานาเป็นบริษัทเหมืองชั้นนำในแอฟริกา ซึ่งการทำงานร่วมกับหัวเว่ยนี้สามารถที่จะยกระดับประสิทธิภาพ ผลิตภาพ และความปลอดภัยของการทำเหมืองแร่ขึ้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ รัฐบาลบอตสวานาจะดำเนินมาตรการส่งเสริมต่อไปเพื่อสนับสนุนแผนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลมากขึ้นในทุกหมวดธุรกิจ รวมทั้งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ประกอบกับยินดีต้อนรับบริษัทระหว่างประเทศ อย่างเช่นหัวเว่ย ในการเข้าร่วมในแผนการดังกล่าวนี้ ขณะนี้มาตรการต่าง ๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการแล้ว รวมถึงแผนการปรับเปลี่ยนสู่เทคโนโลยีดิจิทัล แผนงาน 5G ตลอดจนนโยบายสนับสนุนอื่น ๆ
คุณสวี จวิน (Xu Jun) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่ของหัวเว่ย (Huawei Mine BU) ระบุว่า หัวเว่ยยึดมั่นในพันธกิจที่จะใช้ความแข็งแกร่งของหัวเว่ยในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) อย่าง 5G คลาวด์ เอไอ และ IoT เพื่อพัฒนาโซลูชันเหมืองอัจฉริยะสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทั่วโลก
คุณเหลียว หยง (Liao Yong) รองประธานประจำภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮาราของหัวเว่ย ชี้ว่า ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ให้บริการต่าง ๆ แก่องค์กรธุรกิจเหมืองแร่ในหลายประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ รวมถึงในแอฟริกาใต้ บอตสวานา แซมเบีย นามิเบีย และกานา ในอนาคต หัวเว่ยจะทำงานร่วมกับคู่ค้าในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในด้านเหมืองแร่และสร้างมูลค่ามากขึ้นในแอฟริกา
เด็บสวานาระบุว่า บริษัทฯ จะสานต่อความสำเร็จของโครงการในเหมืองจวาเนงที่ติดตั้งร่วมกับหัวเว่ยและบริษัทท้องถิ่นในบอตสวานา ซึ่งสอดคล้องกับโครงการส่งเสริมประชาชนในด้านเศรษฐกิจของบอตสวานา ด้วยการวางแผนที่จะติดตั้งใช้งานโซลูชันเหมืองอัจฉริยะในเหมืองของบริษัทฯ ในโอราปา (Orapa) ดามท์ชา (Damtshaa) และเล็ทลาเคน (Letlhakane) ในปี 2566