หางโจว, จีน, 28 เม.ย. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ฐานการผลิตของบริษัทแอสโทรเนอร์จี (Astronergy) มีกำลังการผลิตโมดูลและเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอน (TOPCon) ชนิดเอ็นไทป์ (n-type) เพิ่มขึ้นเป็น 28 กิกะวัตต์ เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่บริษัทได้เสริมแกร่งการผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอน ชนิดเอ็นไทป์ ของตัวเองขึ้นอีกขั้น หลังจากที่มีกำลังการผลิตโมดูลท็อปคอน 5 กิกะวัตต์ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้
ในโครงการขั้นที่ 4 ของฐานการผลิตของแอสโทรเนอร์จีได้มีการเพิ่มอุปกรณ์การผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอน ชนิดเอ็นไทป์ ขนาด 8 กิกะวัตต์ และอุปกรณ์การผลิตโมดูลท็อปคอน ขนาด 12 กิกะวัตต์ เข้าสู่เวิร์กชอปเซลล์แสงอาทิตย์แห่งใหม่ 1 แห่งและเวิร์กชอปโมดูลใหม่อีก 2 แห่งเมื่อวันที่ 27 เมษายน และในวันเดียวกัน อุปกรณ์การผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 8 กิกะวัตต์ ก็ได้ส่งมาถึงเวิร์กชอปของฐานการผลิตแอสโทรเนอร์จี เฟิ่งหยาง (Astronergy Fengyang Manufacturing Base) และได้เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบการใช้งานเรียบร้อยแล้ว
ภาพถ่ายอุปกรณ์ผลิตโมดูลท็อปคอนตัวใหม่ที่เข้ามาติดตั้งในเวิร์กชอปโมดูลในฐานการผลิตแอสโทรเนอร์จีไห่หนิง [รูปภาพ/แอสโทรเนอร์จี]
การเพิ่มกำลังการผลิตท็อปคอนที่ฐานการผลิต 2 แห่งติดต่อกันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งอันเป็นที่สุดของแอสโทรเนอร์จีในด้านเทคโนโลยีท็อปคอนและโมดูลท็อปคอน
กำลังการผลิตท็อปคอนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่ฐานการผลิตไห่หนิง (Haining Manufacturing Base) ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ระดับโลกรวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาของแอสโทรเนอร์จี ทำให้ฐานการผลิตมีกำลังการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์มากกว่า 17 กิกะวัตต์ และโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์มากกว่า 24 กิกะวัตต์
คุณไห่ยาน หวง (Haiyan Huang) รองประธานกรรมการบริหารและซีเอสโอของแอสโทรเนอร์จีกล่าวว่า อุปกรณ์การผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอนขนาด 8 กิกะวัตต์และอุปกรณ์การผลิตโมดูลท็อปคอนขนาด 12 กิกะวัตต์ คาดว่าจะค่อย ๆ เดินเครื่องทำงานอย่างเต็มกำลังได้ภายใน 60 วันหลังจากนี้ และฐานการผลิตไห่หนิงจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นและมูลค่าการผลิตเป็นเท่าตัวได้ก่อนปี 2568
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตแห่งใหม่และเป็นฐานการผลิตแห่งที่ 6 ของแอสโทรเนอร์จี ฐานการผลิตเฟิ่งหยางซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลอานฮุยของจีนได้มุ่งเน้นไปที่การผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอน และไม่นานหลังจากที่ติดตั้งอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ฐานการผลิตจะสามารถสร้างเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอนชิ้นแรกได้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม และคาดว่าจะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตในเดือนมิถุนายนนี้
ในฐานะผู้บุกเบิกโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอน ชนิดเอ็นไทป์ แอสโทรเนอร์จีมีเป้าหมายที่จะทำให้โมดูลท็อปคอนกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท การเพิ่มกำลังการผลิตท็อปคอนในด้านเซลล์แสงอาทิตย์และโมดูลจึงถือเป็นก้าวสำคัญในการเป็นซัพพลายเออร์โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก